9/20/2555

Firewall คืออะไร ???

Firewall - ระบบรักษาความปลอดภัยในวันนี้ ?


ถ้าแปลเป็นภาษาไทย จะหมายถึง กำแพงไฟ ซึ่งน่าจะหมายถึงการป้องกันการบุกรุก โดยการสร้างกำแพง อย่างไรก็ตาม ความหมายของ Firewall สามารถอธิบายได้ดังนี้ คือ Firewall เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับป้องกันระบบ Network (เครือข่าย) จากการสื่อสารทั่วไปที่ถูกบุกรุก จากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในระบบ Network หรือระบบเครือข่าย การป้องกันโดยใช้ระบบ Firewall นี้จะเป็นการกำหนดกฏเกณฑ์ในการควบคุมการเข้า-ออก หรือการควบคุมการรับ-ส่งข้อมูล ในระบบเครือข่าย นั่นเอง
Firewall Diagram

การป้องกันการเข้าถึงระบบ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท

  1. Logical Access หมายถึง การเข้าถึงผ่านระบบ Network เช่น ผ่านระบบ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
  2. Physical Access หมายถึง การเข้าถึงในลักษณะถึงตัวเครื่องจริงๆ พูดง่ายๆ คือ การเข้าถึงในลักษณะเดินเข้ามาใช้งาน หรือลักลอบเข้ามาใช้งานถึงตัวเครื่องคอมฯ ในระบบ Network นั้นๆ

คุณสมบัติของ Firewall

  • Protect
    Firewall เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกัน โดยข้อมูลที่มีการรับหรือส่งผ่านระบบเครือข่าย โดยจะถูกกำหนดเป็นกฏเกณฑ์ หรือ Rule เพื่อใช้บังคับในการสื่อสารภายในเครือข่าย (ข้อมูลที่มีการรับส่งภายใน หรือภายนอกระบบเครือข่าย เราเรียกว่า Package)
  • Rule Baseข้อกำหนดในการควบคุมการรับ-ส่งข้อมูลภาย ในระบบเครือข่าย ดังนั้น การติดตั้ง Firewall จะต้องมีการกำหนดกฏเกณฑ์ ในการควบคุมการทำงานในระบบเครือข่าย
  • Access Control
    หมายถึง การควบคุมระดับการเข้าถึง การรับ-ส่งข้อมูล


ทำไมต้องติดตั้ง Firewall

เดิมการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ จะเป็นการใช้งานส่วนบุคคล ดังนั้น ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานจึงมีไม่มากนัก ต่อมาเมื่อระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลายมาก ทุกองค์กร ทุกธุรกิจมีการใช้งานอินเตอร์เน็ต อย่างน้อยก็ใช้งาน อีเมล์ในการรับส่งจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ ดังนั้น ผลพวงที่ตามมาคือ เกิดผู้ไม่ประสงค์ดี หาวิธีการในการลักลอบเข้าดูในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อค้นหาข้อมูล หรือต้องการทดสอบความสามารถของตนเอง ตลอดจน ไวรัสคอมพิวเตอร์ ก็ได้อาศัยช่องทางของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นช่องทางในการแพร่กระจายไวรัส

Proxy คืออะไร ???

proxy ถ้าแปลตรงๆ ตัวบริการแทน หรือเครื่องบริการแทน
เอาแบเข้าใจหน่อย คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการต่างๆ แทนเครื่องเซิร์ฟเวอร์จริงๆที่ตั้งอยู่ในอินเตอร์เน็ ต(เช่น web



 

Proxy ก็เหมือนบ่อเก็บข้อมูลตรงกลางนะครับ เวลาใครจะไป load อะไรจาก internet
มันก็จะ load มาที่ proxy ก่อน แล้วเราก็จะไป load มาจาก proxy อีกที
มันจะมีประโยชน์ตรงที่ว่า ถ้าคนที่ต่อ internet ในที่เดียวกันใช้ proxy เดียวกันหน่ะครับ
สมมติว่าคนที่ใช้ proxy เดียวกัน load web อันเดียวกัน เวลาคนที่มา load ทีหลังก็จะ load
ได้เร็วขึ้น ประหยัดสายข้อมูล ทำให้ไม่ต้อง load ข้อมูลซ้ำซ้อนครับ
ถ้าอยากจะใช้ proxy ก็ต้องไปตรวจดูกับที่ที่เราต่อ internet แหล่ะครับ ว่าเค้าให้ set อะไรยังไงเค้าน่าจะมีบอกไว้อยู่นะครับ

Proxy มีทั้งหมด 3 ประเภทใหญ่ ๆ นะครับคือ

 

1. Transparent --> แผ่นใส
ตามชื่อนั้นล่ะ เมื่อมีการ request ข้อมูลจาก src ซึ่งโดยปกติ เมื่อก่อนเราต้องมากำหนดว่าเราจะใช้ proxy ตัวนี้นะ มันถึงจะ request ข้อมูลที่เราต้องการผ่านทาง proxy server ที่เรากำหนด ต่อมาปัจจุบันทางฝ่าย it ของบ. ทั้งหลายได้นำ firewall หรือ router มาขวางก่อน gateway ทำให้ข้อมูลที่จะถูกส่งไปยัง src ที่เรา request นั้น ต้องมาผ่าน Proxy server ก่อน ซึง user ส่วนมากจะไม่จำเป็นต้องมา configuration อะไรเพิ่มเติมตรงนี้ เนื่องจาก router และ firewall เป็นตัวจัดการตรงนี้ให้แทนแล้ว โดยมีการทำ redirection ของ Package ทั้งหมดไปยัง proxy server
มันก้อเหมือนแผ่นใสอ๊ะ ก้อใส ๆ ไปเลยเหมือนไม่มี proxy อยู่ หมายความว่าเครื่องเราส่ง information อะไรไป ก้อเป็นอันนั้นหมดเลย ตัว proxy ทำหน้าที่เหมือนเป็น forward ไปเฉย ๆ
ประโยชน์การใช้งานแบบนี้คือเร็ว และสามารถไปเวปที่เครื่องเราเองไปไม่ได้แต่ proxy ไปได้แต่ข้อมูลภายในเราก็จะถูกส่งออกไปด้วย smile.gif

2. Anonymous --> ใครก็ไม่รู้ (ไม่ประสงค์ออกนาม)
ก้อหมายความว่ามันจะซ่อน IP Address ของเครื่องต้นทางจริง ๆ โดยการใช้งานจะเหมือนกับการใช้งานโดยใช้ proxy เอง และก้อซ่อน information อื่น ๆ (พวก header ที่เกี่ยวข้องกะตัวเราอ๊ะ) แต่แบบนี้มันก้อซ่อนไม่หมดนะ เพราะว่า header จริง ๆ ของเรายังอยู่ เหมือนมันแปะเพิ่มเข้าไปเฉย ๆ

ประโยฃน์ของการใช้ proxy แบบนี้ เช่น เราต้องการจะอ้างว่าเราอยู่ประเทศ นู้น นี้ นั้น ถ้าไปใช้ proxy ของประเทศนั้น ๆ ก็เสมือนว่าใช้งานจากประเทศนั้นเลย แน่นอนมันก้อจะช้ากว่าแบบแรก smile.gif

3. High Anonimity --> ลึกลับสุด ๆ
คือมันจะไม่เปิดเผยข้อมูลอะไรของเราเลย การทำงานคือประมาณว่า ตัว proxy จะไปเรียกใช้งานที่ปลายทางให้เอง และได้ข้อมูลมาก็จะส่งมาให้เครื่องที่เรียกใช้งาน (งงไหม) ดังนั้นการใช้งานก็จะเปรียบได้ว่าเครื่อง proxy request ไปเองเลยไงจ๊ะ จะไม่มีข้อมูลอะไรของเราออกไปเลย

ประโยชน์.. หรือเปล่านะ ใช้หลบซ่อนในการแฮคต่าง ๆ เพราะจะไม่รู้ที่มาของเครื่อง (แต่สามารถรู้ได้โดยวิธีอื่น ดังนั้นอย่าลองไปทดสอบละ เค้าจับได้อยู่ดีแหละ) ใช้ในการปลอม IP เพื่อปั๊มการโหวด.. sleep.gif เอ๊ะ ตกลงมันเป็นประโยชน์หรือเปล่านะเนี่ย biggrin.gif และแน่นอนว่าแบบนี้ช้าที่สุด~
จริง ๆ แบบนี้ทำขึ้นมาเพื่อปกป้อง information ต่าง ๆ จากผู้ใช้งานต่างหาก

Proxy Server คือ การนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาตั้งเพื่อให้บริการแก่กลุ่ มผู้ใช้ที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน และกำหนดให้ผู้ใช้ทุกคนเรียกใช้ข้อมูล WWW ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์นี้ โดยเครื่องดังกล่าวจะมีการติดตั้งโปรแกรมเพื่อทำหน้า ที่เรียกข้อมูล WWW มาให้บริการแก่ผู้ใช้ และจัดเก็บข้อมูลที่เคยถูกเรียกนั้นไว้ ในเครื่อง เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้ข้อมูลนั้นซ้ำ ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกข้อมูลมาจากแหล่งข้อมูลใหม ่อีก ซึ่งเทคนิคดังกล่าว จะทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่(ส่วนใหญ่)เคยม ีผู้เรียกใช้มาก่อนได้รวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกข้อมูลจากแหล่งข้อมู ลใหม่ อันจะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานระบบเครือข่ายอินเท อร์เน็ต เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ขั้นตอนการทำงานของ Proxy Server
เมื่อผู้ใช้ติดต่อ WWW ผ่าน Proxy Server
เครื่องจะทำการตรวจสอบก่อน ว่ามีข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการอยู่ในเครื่องอยู่แล้วหร ือไม่
ถ้ายังไม่มีก็จะไปเรียกข้อมูลมาให้ใหม่ และจัดเก็บไว้ในเครื่องเพื่อคอยให้บริการแก่ผู้ใช้คร ั้งต่อไป
ถ้าพบว่ามี จะทำการตรวจสอบว่าข้อมูลที่มีอยู่กับแหล่งข้อมูลที่ต ้องการ ว่ามีความทันสมัยตรงกันหรือไม่
ถ้าตรงกันจะทำการส่งข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่องไปให้ผู ้ใช้ทันที
แต่ถ้าไม่ตรงกัน Proxy จะไปดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลมาให้ใหม่

วิธีการติดตั้ง Web Browser เพื่อใช้ Proxy Server

 

ผู้ใช้จะต้องทำการกำหนด (set) ค่าที่ web browser โดยมีขั้นตอนดังนี้

 

Nescape 3.x
1. ให้เปิดเมนู Options/Network Preferences.../Proxies/Manual Proxy Configuration/View
2. ให้ใส่ค่าให้เป็นชื่อเครื่อง Proxy Server ของธรรมศาสตร์ คือ proxy.tu.ac.th และ ใส่ค่า port เป็น 8080 ในช่อง FTP และ HTTP Proxies

Nescape 4.x
1. เลือก Edit/Preference/Advanced/Proxy Options/Manual Proxy Configuration/View
2. จากนั้น ให้กำหนดค่าให้เหมือนกับข้อ 2 ของการใช้ Netscape 3.x

Internet Explorer 3.x
1. เลือก View/Options/Connection/Connected through Proxy/Setting
2. จากนั้น ให้กำหนดค่าให้เหมือนกับข้อ 2 ของการใช้ Netscape 3.x

SOCKS --> ถุงเท้า.. เย้ย.. ไม่ใช่

SOCKS เป็นระบบ proxy ทั่ว ๆไปที่สามารถที่เป็นแบบ client-side application เพื่อให้มันสามารถทำงานผ่านไฟร์วอลได้ ประโยชน์ของมันคือมันใช้ง่ายแต่มันไม่สนับสนุน authentication (ในรุ่นแรก ๆ) ก็คือมันทำหน้าที่ forward ไปเฉย ๆ แต่ว่าจะทำการตรวจสอบไม่ได้ (งงไหมเนี่ย)
SOCKS ถูกใช้บ่อย ๆ เพื่อเป็น firewall เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมต่อไปที่ hosts อันหนึ่งที่ต้องการ

SOCKS โดยปกติจะมีสองส่วนคือ ส่วน Server (SOCKS Host) และ Client (มักจะอยู่กะโปรแกรมที่ใช้ SOCKS ได้อยู่แล้ว) ถ้าจะว่ากันลึก ๆ ในส่วนของ Server เปรียบเทียบกะ OSI Model ก็จะอยู่ในส่วนของ App Layer แต่ว่าในส่วนของ Client จะอยู่ในส่วนของ Transportation Layer (ก็ App Layer โปรแกรมเราใช้อยู่นี่ คือมันเหมือนกะหลอกการทำงานของโปรแกรมนั่นแหละ)

ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพนะ
คราวนี้เมื่อมีการเรียกใช้งานจากโปรแกรม Client มันก็จะวิ่งผ่านไปที่ SOCKS Server เพื่อให้ Server Request ต่อไปอีกครั้งนึง เมื่อปลายทางตอบกลับมาที่ Server มันก็จะส่งมายัง Client ไง

ตัวอย่างที่เห็น ๆ ใช้งานกัน
เช่นการเล่น RO ของประเทศที่ Block ไม่ให้ IP จากประเทศไทยเข้าไปเล่น

ทั้งนี้อาจจะใช้ในเรื่องของการเปลี่ยนพอร์ทด้วยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น
ในระบบเน็ตเวิรค์เราไม่ให้ใช้งานพอร์ท 21 เราสามารถใช้ SOCKS ในการ implement port 21 ให้วิ่งใต้ port 80 ได้ biggrin.gif

ในด้านลบของ SOCKS มันก็ถูกใช้เป็นเครื่องมืออย่างนึงของแฮคเกอร์เช่นกั น sleep.gif

ว่ากันมายาว คราวนี้มาดูกันว่า SOCKS มีกี่เวอร์ชั่น... ปิ๊งป่อง SOCKS จะมี 2 เวอร์ชั่นคือ 4 กะ 5 Yo!

แล้วมันต่างกันไงอะ
เอาหลัก ๆ แล้วกันนะ SOCKS เนี่ยมันทำหน้าที่การจัดการการรูปแบบ การรับส่งข้อมูลที่พูดไปเมื่อข้างบนใช่ไหม แต่เวอร์ชั่น 4 ที่เขาทำขึ้นมามาจะมีหน้าที่หลัก ๆ อยู่ 3 อย่างคือ

1. ทำหน้าที่การเชื่อมต่อ เมื่อได้รับการร้องขอ (Request อะแหละ)
2. ตั้งค่าเส้นทางและการทำงานของ proxy (ก็ตัวมันเองอะ ว่าต้นทางคืออะไร ปลายทางคืออะไร ต้องรับส่งอะไรกันบ้าง รูปแบบเป็นแบบไหน ip source, local port, ip dest, external port, header และอื่น ๆ
3. ทำการคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง Client - Host - Destination

ส่วน SOCKS 5 มันก้อเหมือน SOCKS 4 แต่เขาทำอุดจุดที่ SOCKS 4 ทำไม่ได้คือเรื่องของการ Authenticate เช่น ให้ใส่ Username / Password ก่อนใช้งานอะไรทำนองนี้

นั่นก็คือ SOCKS 5 เขาใส่
1. Authentication Function เพิ่มเข้าไป
2. support UDP เพิ่มขึ้นมาด้วยนะ
3. การจัดการเกี่ยวกะเรื่อง IP Address ที่ดีขึ้น

คราวนี้ประเด็นหลักของ SOCKS 5 ที่เพิ่มเข้าไปเรื่อง Authen อะ มันก็แบ่งย่อยได้เป็น

1. Username/Password authentication --> อันนี้ก็เหมือนทั่วไปคือ ใส่ User / Pass อะแหละ
2. GSS-API (Generic Security Service Application Programming Interface) authentication --> อันนี้ถ้าจะรู้วิธีต้องอธิบายกันยาวววว แต่เอาเป็นว่าเป็นการ Authen ระหว่างโปรแกรมกันเองครับ
สรุปว่า sock ยังใช้เป็น stealth ได้


อีกประโยชน์คือใช้ไปอาศัย proxy เขาเพื่อทำให้เข้าเวบบางอย่างได้โดยไม่โดนบล็อคโดยทร ูอ่ะ ทำได้โดยไปหา proxy มาแล้วมาใส่ตรงนี้เอง แต่proxy หาเองนะครับ จาก google ได้เลยมั้งครับ
ใครพอมีความรู้ด้านนี้แนะนำด้วยนะครับ ผมไม่รู้เรื่องอะครับ

9/19/2555

การใส่ตัวหนังสือ Title และ แถบต่างๆ ใน โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS 3

การใส่ตัวหนังสือ Title และ แถบต่างๆ

ใน โปรแกรม Adobe Premiere Pro CS 3...

1. เลือกเมนู Title   >> New title >> Default Still - ไตเติ้ลนิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหว 
 
2. ตั้งชื่อไตเติ้ล  ในช่อง >> OK
3.หน้าจอ Title จะแสดงขึ้นมา   ปุ่มด้านบน -ปิด เปิดได้  เพื่อเลือกโชว์ภาพจากวิดีโอเป็นพื้นหลัง แบ็ลคกราวน์ ได้ หรือเลือกปิดไม่โชว์ได้
4.ช่องต่างๆ ให้เลือกใช้งาน ช่องเครื่องมือ เลือก Text เลือกแถบ ต่างๆได้  จะใส่ข้อความให้เลือก T ซึ่งมีแบบทางด้านตั้ง ด้านนอน  เอียงดูที่สัญญลักษณ์
5. เลือกตัว T  สำหรับพิมพ์ ชื่อ เรื่อง  นำเม้าท์กดค้างไว้แล้วลากลงไปให้มีขนาดความยาวตามต้องการ
ฟ้อนต์ภาษาไทย ที่ใช้งานได้จะเป็นตระกู,ล  PSL  Ayyara ExtraBoldCS  พิมพ์ข้อความ ชื่อเรื่อง
6. หรือจะเลือกแบบที่มีไว้แล้วใน template ด้านล่าง แต่อย่าลืมต้องเปลี่ยนฟอนต์ตัวอักษรกลับให้เหมือนเดิมจะได้อ่านได้
7. สามารถใช้เม้าท์จับลาก ข้อความที่พิมพ์แล้วไปวางไว้ตรงไหนก็ได้ตามต้องการ
8. ใส่แถบสีลงไปเพื่อให้ตัวหนังสือเด่นขึ้น ให้เลือกช่องสี่เหลี่ยม ผืนผ้า หรือ ปลายตัดมน ก็ได้ตามต้องการ  เมื่อลากมาวางจะทับลงบนตัวหนังสือก็สั่งให้เรียงอยู่ด้านล่างสุดได้
 
9. โดยคลิ๊กขวาที่ สี่เหลี่ยมนั้น เลือก Arrange >> Send Backward
10. แถบสีขาวและขอบสีดำนั้นดูแล้วไม่สวยเราต้องการเอาออก ก็ปรับแต่งได้ที่ช่องขวามือ เรียกช่อง Properties,



- ปรับเปลี่ยนสี ที่ช่อง Fill - color เลือก =  สีดำ - เลือก Opacity = 70 %  (สีจางลง) (ติ๊กถูกหน้าช่องที่ต้องการใช้งาน)
 - ไม่เอา Strokes = ขอบสีดำที่แถบจะหายไป - ไม่เอา Shadow = เงาหายไป (เอาลูกศรถูกออกจากช่องที่ไม่ต้องการ)
นิยมใช้ทำ แถบข้อความด้านล่าง เพื่อใส่ชื่อคน ตำแหน่ง หรือ ชื่อรายการและ ขึ้นเป็น ระยะๆ ว่าเป็นรายการอะไร
สามารถปรับแกน X-Y ให้เอียง ได้ ตามภาพ ทดลองปรับแกนทั้งคู่ให้ เหมาะกัน 
อธิบายภาพ - กรอบเส้นสีขาว ซ้อนกัน 2 กรอบ หมายถึง กรอบ ที่ตัวข้อความจะปลอดภัยไม่หลุดออกจาก หน้าจอทีวีทุกขนาดทุกยี่ห้อ
ดังนั้นเวลาจัดวางตัวหนังสือให้ ดูกรอบในเป็นหลัก และถ้า ข้อความยาวมากจริงๆ ก็อาจเลยมาชิดกรอบนอกได้ แต่อย่าให้หลุดออกจากกรอบ เป็นอันขาด
 
วิธีเปิด  Safe Title margin
1.เลือกเมนู title > View>> เลือก Safe Title margin - กรอบสีขาวจางๆช่องในจะโชว์ขึ้นมา
2. กรอบด้านนอกเลือก  Safe Action margin
 

แปลง Playlist บน YouTube ให้กลายเป็น Mp3

แปลง Playlist บน YouTube ให้กลายเป็น Mp3 แปลง Playlist บน YouTube ให้กลายเป็น Mp3

ในปัจจุบัน YouTube เป็นแหล่งที่หาเพลงง่ายที่สุด เรียกได้ว่ามีเยอะมากกว่าเว็บโหลดเพลงซะอีก เพียงแต่เราต้องการเฉพาะเพลงเท่านั้น ไม่ได้ทั้งการไฟล์วีดีโอมาด้วย จะได้เอาไว้ฟังบนรถ หรือเครื่องเล่นเพลงได้ ซึ่งการ extract ไฟล์เพลงออกจากวีดีโอนั้น เราเคยพูดถึงไปแล้วในบทความชื่อ “แยะเพลงจาก YouTube มาเป็น mp3″

แต่ ในบทความนี้เราจะพูดถึงการแปลงทั้ง playlist ของเราบน YouTube ออกมาเป็น Mp3 วิธีการก็ง่ายมาก คุณแค่เข้าไปที่ YouTube และค้นหาโดยใช้ชื่อเพลงที่คุณต้องการ add วีดีโอเหล่านั้นไว้ที่ playlist ของคุณ จากนั้นก็ใช้โปรแกรมชื่อ YouTube Playlist Converter ซึ่งเป็น freeware ที่ใช้เพื่อ download public playlist มาไว้บนเครื่องแล้วทำการแปลงไฟล์เป็น Mp3

หมายเหตุ: เวลาสร้าง playlist บน YouTube คุณสามารถสร้างได้สองแบบคือให้เป็น Public ที่คนอื่นจะเห็น กับ Private ที่คนอื่นจะไม่เห็น ในการใช้ YouTube Playlist Converter นั้นตัว Playlist ที่คุณสร้างบน YouTube จะต้องเป็น Public

>> คลิ๊กที่นี่เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรม <<



เมื่อ ดาวน์โหลดและเปิดโปรแกรมขึ้นมา คุณจะต้องใส่ YouTube username ซะก่อน จากนั้นคุณจะสามารถเลือก playlist และทำการ download จากนั้นก็คลิ๊กที่ปุ่ม Convert เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย



เมื่อ เลือก playlist เสร็จแล้ว โดย default โปรแกรมจะเลือกวีดีโอทั้งหมดที่อยู่ใน Playlist ของคุณซึ่งคุณสามารถ check หรือ uncheck รายการวีดีโอที่ต้องการ convert ได้



เสร็จแล้วคลิ๊ก OK –> convert ก็เป็นอันเรียบร้อย

วิธีดาวน์โหลดไฟล์หนัง vdo วีดีโอคลิป จาก youtube แบบง่ายๆ

วิธีดาวน์โหลดไฟล์หนัง วีดีโอคลิป จาก youtube แบบง่ายๆ วันนี้สอนวิธีดาวน์โหลดไฟล์หนัง ไฟล์วีดีโอคลิปแบบง่ายๆจาก youtube กันครับ ไม่ต้องใช้โปรแกรมอะไรเพิ่ม ใช้ IE หรือ Firefox นี่แหละครับ



วิธีการมีดังต่อไปนี้

1. ให้คุณค้นหาวีดีโอคลิปที่ต้องการ เมื่อเจอแล้ว ให้ไปดูที่ URL Address ของ วีดีโอนั้น เช่น http://www.youtube.com/xxxxxxx เป็นต้น

2. ให้คุณเพิ่มคำว่า kick ไปที่หน้าคำว่า youtube ใน URL Address เช่น http://www.kickyoutube.com/xxxxxxx



3. คราวนี้คุณก็จะมาเว็บของ kickyoutube เพื่อทำการ save file กันแล้วครับ

4. ให้คุณเลือกประเภทไฟล์ที่ต้องการว่าจะ save ไว้ในรูปแบบ format ไหน เช่น FLV เป็นต้น

5. ให้คุณคลิกที่ Go แล้ว ปุ่ม Down จะปรากฎขึ้น ให้คุณ คลิกขวา แล้วเลือก save link as



6. จะมีหน้าต่างขึ้นมาถามว่าคุณจะ save file ชื่ออะไร และ เก็บไว้ที่ไหน คุณก็ทำกันตามสะดวกเลย ตรงนี้น่าจะทำเป็นกันทุกคนอยู่แล้ว

เสร็จแล้วครับ ง่ายมั้ยครับ มันส์เลยงานนี้ ต้องขอบคุณ คุณบี้ ทีมงานผู้ดูแลบอร์ดของเรา เป็นคนแนะนำเคล็ดลับนี้ให้ผมทราบ ครับ