11/29/2556

Format SD/SDHC/SDXC Memory Cards

Format SD/SDHC/SDXC Memory Cards



ปัญหาส่วนตัวจากการย้ายไฟล์ภาพไปในคอมพิวเตอร์แล้ว
เมื่อมาเสียบใช้งานกับกล้องถ่ายรูปอีกครั้ง
ปรากฎว่ามีจำนวนภาพลดลงเหลือให้ถ่ายภาพได้ไม่เกินยี่สิบภาพ
ลองหาโปรแกรม format ลบภาพถ่ายในกล้องถ่ายรูปก็ยังไม่พบ (หาคู่มือไม่พบที)
เมื่อลบแบบทั่วไป Delete all เนื้อที่การ์ดหน่วยความจำ Memory Card ยังไม่กลับคืนมา
เลยต้องหาโปรแกรม format SD Card เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว
สำหรับการใช้งานโปรแกรมนี้จะขออธิบายเฉพาะเครื่องใช้ Windows เป็นหลักครับ

เพิ่มเติม
  สามารถใช้ format กับ Memory Card ที่ติดตั้งกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้
            เช่น Laptop, Camera, Mobile Phone, Video Camera, Television
อันดับแรกไปที่ https://www.sdcard.org/downloads/formatter_3/
link ภาพตัวอย่างที่ youtube  (หมายเหตุ post ในกระทู้จะเปิดได้ช้ามากครับ)

http://youtu.be/wX6NwBa1csY
http://youtu.be/DXt8pgyIgqQ

หมายเหตุ  กรณีเครื่องยังเป็น Windows XP ต้องไปติดตั้ง  KB955704 ตัวนี้ก่อน
Click เข้าที่อักษรสีน้ำเงินจะ Link ไปที่ www. ฺBill Gates  (ขอข้ามขั้นตอนการติดตั้งไป)

เลื่อนลงไปจนพบคำว่า Download  สามารถอ่านคู่มืออังกฤษ หรือ ญี่ปุ่นได้


เมื่อกดที่ download ตามประเภทโปรแกรม Windows หรือ Mac แล้วจะมาที่ภาพนี้



ต้องยอมจำนนก่อน I accept จึงจะให้ download ได้ (ใช้ firefox download)






เมื่อเรียบร้อยแล้วจะทำการขยาย/ระเบิดไฟล์ด้วยโปรแกรมฟรี 7Zip  (โปรแกรมอื่นก็ได้เช่นกัน)
(ภาพขาดหายไปจำนวนหนึ่งเพราะจับภาพไม่ทัน  แต่จะมาปรากฎที่ภาพนี้)



เลือกที่ setup  เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรมนี้



กด Next เพื่อเตรียมการติดตั้ง



ถ้าไม่ต้องการเปลี่ยน Folder ที่ตั้งโปรแกรมกด Next
สอบถามความมั่นใจอีกครั้ง 
ถ้าเปลี่ยนใจกด Back กลับไปที่เดิม
ถ้าไม่เปลี่ยนใจกดที่ Next เลย



อยู่ระหว่างการติดตั้ง


การติดตั้งเรียบร้อยแล้ว  กด  Fininsh


จะปรากฎ Icon ดังภาพที่หน้าจอ

เมื่อเปิดใช้งานโปรแกรมจะปรากฏหน้าตาดังนี้ (จับภาพจากคู่มือของโปรแกรมนี้)



ภาพหมายเลข 1
1. ชื่อโปรแกรมและ Version
2. แหล่งข้อมูล (Drive ที่เสียบ Memory Card)
3. ขนาดของ Memory Card
4. อธิบายว่าการเลือก format จะลบข้อมูลทั้งหมด
5. ปรับปรุงแหล่งข้อมูล หรือ เลือก Drive อื่น
    (กรณีที่มีการเสียบ Memory Cards ไว้กับเครื่องอ่านได้หลาย Memory Cards)
6. ชื่อที่ระบุไว้ใน Memory Card (บางรายอาจจะไม่มี)
7. ทางเลือก   ถ้ากดเข้าไปจะมีทางเลือกอื่น ๆ (ภาพหมายเลขที่ 3)
8. ประเภทของการเลือก Format
9. ตกลง Format
10. ออกจากโปรแกรมนี้


รายละเอียดภาษาต่างด้าว
 
ภาพหมายเลข 3
1. Quick แบบด่วน
    Full Erase ลบแบบสมบูรณ์แบบ
    Full Overwrite เขียนทับก่อนแล้วลบแบบสมบูรณ์แบบ
   แนะนำรายการนี้  กรณีจะขาย/ให้ยืม Memory Card 
   โอกาสกู้คืนภาพจะยากมากขึ้น  แต่จะ Format ช้ากว่าปรกติบ้าง
2. On กรณีแผ่น Memory Card มีปัญหาบางอย่าง
    ต้องการลบทิ้งเลย  จะเปิดก็ได้หรือไม่เปิดก็ได้
3. Ok จะกลับไปที่รายการภาพที่ 1
4. Cancel จะกลับไปที่รายการภาพที่ 1

ถ้าพร้อมเรียบร้อยเลือกกดที่ Format เลย


รายละเอียดภาษาต่างด้าว



การ format เรียบร้อยแล้ว จะบอกรายการและรายละเอียดการทำงาน


กรณีเปลี่ยนใจก่อนการ Format เสร็จสิ้นกด Cancel
(ไม่แนะนำ  อาจจะมีโอกาสทำให้แผ่น Memory Card เสียหายได้)



ระบุว่ายกเลิกรายการให้แล้ว





หมายเหตุ โปรแกรมนี้พัฒนาโดย Panasonic กับ Trendy
สามารถใช้กับได้กับค่ายผู้ผลิต Memory Cards
ที่ตั้งเป็นสมาคมกำหนดมาตรฐานและความร่วมมือกันหลายค่าย
ผู้ก่อตั้งคือ Panasonic Corporation, SanDisk และ Toshiba

https://www.sdcard.org/about_sda/member_companies

กรณีไป Download จาก Panasonic จะเป็น Version ต่ำกว่านี้

http://panasonic.jp/support/global/cs/sd/download/

ขอให้มีความสุขกับการใช้งาน
และ Format Memory Cards ได้ตามประสงค์ครับ

format mem ไม่ได้ครับ ลบ หรือลงไรก็ไม่ได้

จะลบก็ไม่ได้ จะเอาเข้าก็ไม่ได้ format ก็ไม่ได้


เสียบ memory เข้า PC หรือ Notebook ก็ขึ้นแบบนี้
Windows Delayed Write Failed
http://upload.tarad.com/viewer.php?id=61b9e1a12542eb7d6850cb5c8abbbb05.jpg [nofollow]
format ผ่าน windwos
http://upload.tarad.com/viewer.php?id=2af331e3d895a7652b57692461b4f696.jpg [nofollow]
format ผ่าน windwos โดยโปรแกรม
HP USB Disk Storage Format Tool
http://upload.tarad.com/viewer.php?id=1242bf5d7c6802de7b188e08d57e08f8.jpg [nofollow]

เปลี่ยนชื่อ ไดร์ก็แล้ว

ปรับ register ไดร์ เป็น WriteProtect เป็น 0 ก็แล้ว

กำหนดค่า Permissions เป็น Admin > Full control ก็แล้ว

ไปลบใน safe mode ก็แล้ว ไม่ได้

ไปเสียบเครื่องอื่นก็เป็น แต่ยังเห็นไฟลืกับ โฟรเดอร์อยุ่เลย

พื้นที่ก็เห็น ใช้ไป 16k เหลือ 7G ก่าๆ

ช่วยทีครับ จนปัญญา

ผมว่าตอนเสียบครับ มันจะค้างแป๊ปนึง แล้วขึ้น
Windwos Delayed Write Failed
แล้วถึงจะเข้าไปในเมมได้ แต่จัดการไฟล์ไม่ได้

ลองทำตามวิธีนี้ดูนะคะ เคยลองมาแล้วค่ะได้ผลเพราะเคยเจอปัญหานี้เหมือนกันค่ะ

ปัญหา แฟลชไดรฟ์เดี๊ยงในลักษณะที่พอจะเยียวยาได้ สาเหตุ และอาการที่พบก็คือ ในขณะที่ต่อธัมบ์ไดรฟ์ถ่ายโอนไฟล์อย่างเมามันอยู่นั้น จู่ๆ Windows XP ก็แช่แข็งตัวเองซะงั้น พอบูตเครื่องเสร็จ My Computer ตรวจพบว่า ธัมบ์ไดรฟ์มีความจุเหลือ 0 เมกะไบต์ แม้จะพยายามฟอร์แมตมันใหม่ก็ไม่สำเร็จ...หรือจะซื้อของใหม่ไปเลย

อย่าง ไรก็ตาม ก่อนด่วนตัดสินใจทำเช่นนั้น อยากให้ลองใช้วิธีต่อไปนี้ดูก่อนจะดีไหมครับ อย่างน้อยจะได้ถือว่า พยายามแล้ว โดยมีขั้นตอนดังนี้

   1. ดาวน์โหลด และติดตั้งยูทิลิตีชื่อว่า HP Drive Key Boot ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
http://h20000.www2.hp.com/bizsupport/TechSupport/SoftwareDescription.jsp?lang=en&cc=us&mode=3&taskId=135&swItem=MTX-UNITY-I23839
ดับเบิลคลิ้กไอคอนโปรแกรมบนเดสก์ทอป เลือกแฟลชไดรฟ์ที่ต้องการซ่อม ภายใต้เซ็กชัน Device
   2. เลือกระบบไฟล์ที่ต้องการฟอร์แมตให้กับไดรฟ์ ซึ่งได้แก่ FAT, FAT32 หรือ NTFS
   3. เลือกเช็กบ็อกซ์ Quick Format
   4. คลิ้กปุ่ม Start ของโปรแกรม

หลังจากฟอร์แมตเสร็จแล้ว ทดลองใช้งานดูนะครับ ซึ่งถ้ายังไม่ได้ ให้เพื่อนๆ ทดลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

   1. เชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์เข้ากับพอร์ตยูเอสบี
   2. เรียกโปรแกรม HP Drive Key Boot Utility ภายใต้โฟลเดอร์ HP System Tools
   3. โปรแกรมจะแนะนำขั้นตอนการแฟลชเฟิร์มแวร์ ตลอดจนการทำให้บูตได้ เพียงแค่คลิ้กตามขั้นตอนของมันเท่านั้นครับ

ใน ระหว่างที่โปรแกรมสอบถามเกี่ยวกับแฟลชไดรฟ์ จะมีการร้องขอให้เลือกชื่ออักษรไดรฟ์ที่แฟลชไดรฟ์ใช้อยู่ (E:, F:…) ถ้าดรอปดาวน์ของโปรแกรมไม่มีการแสดงชื่ออักษรของแฟลชไดรฟ์ออกมา นั่นอาจหมายความว่า แฟลชไดรฟ์เสียบไม่แน่น หรือเป็นแฟลชไดรฟ์ที่โปรแกรมมองว่าเป็นชนิด “fixed disk” วิธีตรวจสอบว่า แฟลชไดรฟ์ของเพื่อนอยู่ในสถานะใด สามารถทำได้โดยดับเบิลคลิ้กบนไอคอน My Computer บนเดสก์ทอป คลิ้กขวาบนไอคอนของแฟลชไดรฟ์ตัวปัญหา เลือกคำสั่ง Properties ชนิดของไดรฟ์จะแสดงขึ้นมา ถ้าไดรฟ์ถูกระบุว่า เป็น “fixed disk” หรือ “local disk” ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการกำหนดชื่ออักษรไดรฟ์ (drive letter) ให้กับแฟลชไดรฟ์ของคุณ ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนต่อไปนี้ก่อน จึงจะไปใช้ HP Drive Key Boot Utility ได้ครับ รายละเอียดมีดังนี้

   1. เชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์เข้ากับพอร์ต USB
   2. ล็อกอินระบบเป็น Administrator
   3. เลือก Start -> Control Panel -> Administrative Tools -> Computer Management
   4. เลือก Computer Management (local) -> Storage -> Disk Management (local)
   5. เลือก Change/Add Drive Letter สำหรับแมปดิสก์ให้กับแฟลชไดรฟ์
   6. เลือกชื่ออักษรไดรฟ์ที่ต้องการ

ปกติ ซอฟต์แวร์ HP Drive Key Boot Utility ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับไดรฟ์ของ HP เท่านั้น แต่มันดูเหมือนว่าจะสามารถใช้ฟอร์แมตแฟลชไดรฟ์ส่วนใหญ่ที่มีอยู ่ในท้องตลาดได้ด้วย แม้แต่การ์ดหน่วยความจำของกล้องดิจิตอล นายเกาเหลาแนะนำทิปนี้ ก็เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการแก้ปัญหาเท่านั้น ซึ่งหากมันใช้ได้กับผู้ที่กำลังประสบปัญหาในลักษณะนี้อยู่ ก็น่าจะเป็นการดียิ่ง แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้เจอปัญหานี้ อย่างน้อยที่สุด คุณผู้อ่านก็ได้ทราบว่า ปัญหานี้ยังมีโอกาสแก้ไขได้เหมือนกัน ขอให้โชคดีนะครับ


ที่มา : http://www.pricha.com/webboard/index.php?topic=309.0


ขอบคุณมาก ครับ มีคุณค่าอย่างแรง ที่สำคัญ คือ ทุกอย่างปกติแล้ว คับ อิอิ

9/12/2556

Configure DNS Reverse Lookup Zones


Configure DNS Reverse Lookup Zones
Reverse Lookup Zone คือ Zone ของ DNS ที่สามารถใช้ตอบคำถามจาก IP Address กลับไปเป็นชื่อ Domain name ได้ ซึ่งกลับกันกับ Forward Lookup Zone ที่จะตอบคำถามจาก Domain name ไปเป็น IP Address โดยการตั้งค่านี้ มีการแก้ไขปัญหาที่บางคนสงสัยที่เกิดขึ้นใสขั้นตอนการใช้คำสั่ง nslookup อีกด้วย
เคยใช้คำสั่ง nslookup แล้วพบเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นไหมครับ
nslookup
บรรทัดแรก จะเห็นว่า ได้คำตอบคือ DNS request time out. และ Server: UnKnown
เมื่อได้รับคำสั่ง nslookup มา มันก็จะทำการดูก่อนว่า ตัวมันเองถูกตั้งค่า DNS Server ให้ชี้ไปสอบถามยัง DNS Server ตัวใด ซึ่งมันก็จะทราบว่า ตัวมันเองต้องไปสอบถามจาก DNS Server IP Address 192.168.100.10 ตรงนี้มันทราบ IP Address แล้ว แต่ไม่ทราบว่าเป็น Server name อะไร
ต่อมาจึงทำการสอบถาม Domain name ต่อว่า domain.local นี้มี IP Address เป็นอะไร ก็จะไปค้นจาก Forward Lookup Zone ซึ่งแน่นอนว่ามีคำตอบอยู่แล้ว เพราะเราได้เคยสร้าง Zone และ Record นี้เอาไว้แล้ว
ดังนั้น ในคำตอบ 2 บรรทัดแรกนั้น เราสามารถตั้งค่าให้ DNS Server ตอบคำถามจากการ Query ด้วย IP Address ให้กลับมาเป็นชื่อของ Server name ได้โดยการสร้าง Reverse Lookup Zone และ Record ชนิด PTR ดังนี้

Setting Reverse Lookup Zone

คลิกขวาที่ Reverse Lookup Zones คลิก New Zone
New Reverse Lookup Zones
หน้า Welcome to the New Zone Wizard คลิก Next
หน้า Zone Type เลือก Primary zone
New Primary zone
หน้า Reverse Lookup Zone Name เลือก IPv4 Reverse Lookup Zone
Reverse Lookup Zone Name
ระบุ Network ID แล้วคลิก Next สำหรับเรื่อง Network ID นี้อาจจะต้องใช้ความรู้ทางด้าน Network เล็กน้อย แต่อาจจะอธิบายกันยาวเกี่ยวกับเรื่อง Class และ Subnet แต่ผมให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า ถ้าในองค์กรของคุณใช้ IP Address แบบง่าย ๆ เช่น 192.168.0.x , 192.168.10.x , 192.168.100.x ก็ให้คุณระบุ IP Address 3 ชุดแรกที่คุณใช้ในองค์กรลงไปครับ
Reverse Lookup Zone Name
หน้า Zone File คือชื่อของไฟล์ที่จะถูกสร้างและเก็บข้อมูลของ Reverse Lookup Zone ไว้ ซึ่งจะอยู่ที่ C:\Windows\System32\dns
Reverse Lookup Zone File
หน้า Dynamic Update ก็เหมือนเช่นเดียวกับ Forward Lookup Zone ครับ กำหนดว่า สามารถให้ Client Register FQDN ของตนเองเข้ามายัง DNS Server ได้หรือไม่
 Reverse Lookup Zones Dynamic Update
หน้า Completing the New Zone Wizard คลิก Finish
Completing the New Zone Wizard
คราวนี้ให้กลับไปที่ Forward Lookup Zone โดยดับเบิลคลิก Record Host (A) ขึ้นมา ในที่นี้ผมเลือก Record ที่เป็นชื่อ (same as parent folder) ซึ่ง Record บรรทัดนี้เมื่อเราดับเบิลคลิกขึ้นมาดูจะพบข้อมูลดังนี้
Update PTR Record
ซึ่งจะเห็นว่า Record บรรทัดนี้ ทำการเก็บข้อมูลที่ตรงกันระหว่าง domain.local และ IP Address 192.168.100.10 ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปดูภาพข้างต้นจะพบว่าเมื่อ nslookup แล้ว Record ตัวนี้แหล่ะที่ไม่สามารถตอบคำถามจาก IP Address กลับมาเป็นชื่อแบบ Domain name ได้ ดังนั้นเราจึงต้องทำการอัพเดต PTR Record ตัวนี้ โดยการ Check box หน้า Update associated pointer (PTR) record แล้วคลิก OK
พอเรากลับมาดูที่ Reverse Lookup Zone อีกครั้ง คราวนี้จะพบ Record เพิ่มขึ้นมาแล้ว คือ 192.168.100.10 ที่เราเพิ่งกด Update PTR เมื่อสักครู่
Reverse Lookup Zones
คราวนี้ ให้ทดสอบ nslookup อีกครั้ง
nslookup
จะพบว่า ไม่พบข้อความ DNS request time out. และ Server: UnKnown อีกแล้วครับ

8/15/2556

โปรแกรม WireCast ถ่ายทอดสดภาพโทรทัศน์ผ่านอินเตอร์เน็ต





      โปรแกรม Wirecast เป็นสุดยอดโปรแกรมที่ใช้ในการถ่ายทอดสด TV Streaming ผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถสลับภาพจากกล้องหลายๆตัวในขณะถ่ายทอดสด ออกอากาศภาพโทรทัศน์ผ่านอินเตอร์เน็ต เสมือนโปรแกรม Switcher ที่ใช้สำหรับรายการโทรทัศน์นั่นเอง และนอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอื่นๆ อีกมากมาย
 
       ซึ่งโปรแกรมนี้ทำได้ทั้ง Recorder ,  Streamer ,  Video Effect ,  Video Overlay , Picture Overlay , Text Overlay , CG-Graphics และ Video Switcher ในตัวเดียวกัน โดยรองรับฟังค์ชันเอฟเฟ็คภาพและเสียง ได้มากกว่า 100 โมดูล
 
       สามารถเปิดไฟล์วิดีโอเพื่อนำภาพมาออกอากาศ TV Streaming เช่น  Video Movie , Audio ,  Camera ,  Player หรือ Preview ก็รองรับหมด แถมยังรองรับไฟล์วีดีโอได้มากมายหลายนามสกุล เช่น WMV ,  AVI ,  MPG ,  MPEG ,  MPEG-2 ,  MPEG-4 , MOV ,  M4V ที่สำคัญคือรองรับความละเอียดของวิดีโอได้ถึง 1280x720 (HD 720p)
 
       สามารถนำเข้าสัญญาณภาพจากอุปกรณ์ USB กล้องเว็บแคม Webcam และค้นพบอุปกรณ์จับภาพวิดีโอ Video Capture เชื่อมผ่านทาง USB ก็ใช้งานได้  และสามารถ Preview ดูภาพจากกล้องหลายๆตัวไปพร้อมๆกัน ทำให้ผู้ใช้งานเห็นมุมมองภาพจากกล้องทุกตัวได้ ในขณะใช้ฟังค์ชัน Switcher จัดรายการโทรทัศน์แบบมืออาชีพ
 
       มีลูกเล่นในการปรับแต่งภาพวิดีโอ, กำหนดขนาดภาพวิดีโอ, Crop, Cut, แยกภาพหรือกำหนดตำแหน่งให้ภาพวิดีโอ, เพิ่มลูกเล่นรายการภาพวิดีโอ สามารถแยกฟังค์ชันการทำงานบนหน้าจอให้เหมาะสมต่อการใช้งานและความสะดวกในการ มองดูจอภาพจากกล้องหลายๆตัว มีการบันทึกค่าการทำงานไว้สำหรับเรียกกลับมาใช้งานได้ เป็นรายการที่กำหนดขึ้นด้วยตัวท่านเอง
 
      สามารถสลับภาพได้ทั้งระบบ PAL และ NTSC แก้ปัญหาเรื่องกล้องถ่ายวิดีโอมีระบบภาพเอาท์พุตต่างกัน แม้ระบบต่างกันแต่โปรแกรมสามารถสลับภาพได้เนียนกว่าเครื่อง Switcher จริงๆซะอีก โดยภาพไม่ล้ม ภาพไม่ค้าง ไม่กระตุก สีไม่เพี้ยน และสามารถปรับขนาดภาพของกล้องวิดีโอหลายๆตัว ที่มีขนาดภาพต่างกัน เช่น 16:9 และ 4:3 โดยสามารถปรับภาพจากกล้อง 16:9 เป็น 4:3 โดยการ Crop ภาพเฉพาะตรงกลาง ไม่ใช่หดภาพลง หรือจะปรับขนาดภาพจากกล้อง 4:3 เป็น 16:3 โดยมีลูกเล่นการตัดขอบด้านบนและด้านล่างของภาพ ใช้ลูกเล่นการ Crop ทำให้ได้ภาพวิดีโอมีขนาดสมจริง ไม่ดูขัดสายตา ซึ่งดีกว่าการใส่แถบดำลงบนภาพหรือการยืดภาพออกด้านข้าง ซึ่งสามารถปรับแต่งภาพได้ในขณะถ่ายทอดสด
 
       คือผมมีกล้องถ่ายวิดีโอ CANON HD ซื้อมาจากญี่ปุ่น(ราคาถูก) แต่เป็นระบบ NTSC ขนาดภาพ 16:9 บันทึกไฟล์เป็น HD อย่างเดียว บันทึกเป็น SD ไม่ได้ ปรับเป็น 4:3 ก็ไม่ได้ เพราะเป็นระบบ NTSC เวลาไปถ่ายทอดสด ต่อผ่านเครื่องสลับภาพ Switcher ภาพสีเพี้ยน ภาพล้ม ใช้สลับภาพเข้ากับกล้องอื่นๆ ที่เป็นระบบ PAL ไม่ได้ คิดจะซื้ออุปกรณ์ Convert NTSC To PAL และอุปกรณ์ Crop สัญญาณวิดีโอ ให้ออกมาเป็น 4:3 ก็หาซื้อไม่ได้ เลยใช้กล้องบันทึกภาพได้อย่างเดียว เอาไว้ตัดต่อ..แปลงเป็น PAL 4:3   มีกล้อง HD คุณภาพสูงแต่นำมาใช้งานไม่เต็มที่ เสียดายที่มีกล้องแต่ไม่สามารถนำมาใช้ ประโยชน์ร่วมกับกล้องอื่นๆได้ แต่ตอนนี้พบทางสว่าง ออกงานถ่ายทอดสดได้แล้วววว....เหอๆๆ ( มีทั้งกล้องราษฎร์ และกล้องหลวงฯ งานหน้า...จัดหนัก..)
 
       โปรแกรมสามารถเลือกสตรีมภาพวิดีโอ ได้ 2 แบบ คือเป็น Flash ( Rtmp ) หรือ Media Player ( MMS ) สามารถกำหนดคุณภาพ Bitrate กำหนดขนาดภาพวิดีโอ กำหนด Audio Encode ของเสียง ที่ใช้ในการสตรีมได้หลากหลาย สามารถสตรีมได้หลายๆช่อง พร้อมๆกัน
 
       สามารถบันทึกรายการวิดีโอ Record ผ่านฟังค์ชั่น Switcher ใช้สำหรับสลับภาพจากกล้องหลายๆตัว เพื่อบันทึกรายการภาพ เก็บไว้เป็นไฟล์วิดีโอ ลงใน Hard Disc ได้ทันที มีไฟล์ให้เลือกบันทึกได้ 2 แบบ คือ flv หรือ MPEG-4 ( H.264 ) เป็น SD หรือ HD ก็ได้
 
      เป็นโปรแกรมที่ติดตั้งได้ง่ายๆ ในระบบปฏิบัติการ Windows XP และ Windows 7 ทั้ง 32bits และ 64bits แล้วยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย บรรยายไม่หมด....






สามารถเลือกสัญญาณภาพจากอุปกรณ์ WebCam หรืออุปกรณ์จับภาพวิดีโอ Video Capture ที่เชื่อมผ่านทาง USB ได้




กล้องวิดีโอต่อเข้ากับอุปกรณ์จับภาพวิดีโอ Video Capture ยี่ห้อนี้ใช้งานได้ จ้า...
 
      ถ้าใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์ Notebook เพียงเครื่องเดียว แล้วต่อสัญญาณภาพ Composite (AV) ผ่าน Video Capture เข้าทาง USB โดยใช้โปรแกรม Wirecast สตรีมสัญญาณภาพ และตัดต่อ, Switcher , ทำ Effect , ใส่ข้อความ Text ,ทำ CG ได้ทั้งหมดด้วยอุปกรณ์ที่พกพาไปได้สะดวก อุปกรณ์จำนวนไม่มาก มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใช้บุคคลากรไม่มาก หนึ่งคนทำได้หลายหน้าที่ ติดตั้งอุปกรณ์รวดเร็ว เก็บหรือเคลื่อนย้ายได้เร็ว สามารถเดินทางไปผลิตรายการ,บันทึกภาพนอกสถานที่ งานประเพณี ถ่ายทอดสดงานประชุม สัมมนา ฯลฯ แล้วบันทึกภาพวิดีโอลงคอมพิวเตอร์และสตรีมภาพวิดีโอได้พร้อมๆกัน โดยเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ Air Card USB 3G ความเร็วสูง คุณคิดว่ามันจะแหล่ม ขนาดไหน??? ไม่เพ้อฝัน..ไม่ได้โม้ เพราะ ทำมาแล้วววว....
 
     เป็นข้อมูล ที่ไม่อยากเปิดเผย สักเท่าไหร่... แต่อยากแนะนำให้เพื่อนตามสถานีโทรทัศน์และวิทยุฯ ที่มีวิศัยทัศน์ คิดดีแล้วมองไกลๆ ถึงโลกโทรทัศน์ยุคดิจิตอลในอนาคต ที่สามารถแพร่สัญญาณภาพได้หลายช่องทาง สามารถลงมือทำได้จริง ด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ ในการบันทึกภาพและผลิตรายการในท้องถิ่น เป็นช่องทางหารายได้สู่องค์กร เพิ่มมูลค่าของรายการโฆษณา นักจัดรายการวิทยุสามารถทำรายการโทรทัศน์ไปได้ในขณะที่สัมภาษณ์รายการวิทยุฯ ก็สามารถต่อกล้อง Webcam สตรีมภาพและบันทึกภาพไปด้วย โดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว เรียนรู้การใช้โปรแกรมนำมาใช้ให้เหมาะสมกับงานที่เราทำอยู่ เพิ่มทักษะความสามารถยิ่งขึ้น เพิ่มมูลค่าของงานในหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานสามารถบันทึกภาพและเสียงได้ง่ายๆ โดยตัดต่อ Switcher ควบคุมภาพวิดีโอจากกล้อง Webcam หลายๆตัว แบบง่ายๆ ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป (กล้อง Webcam ราคาถูก แต่คุณภาพดี มีเยอะ) ช่วยลดภาระการปฏิบัติงาน ไม่เกิดความยุ่งยาก ทำงานแล้วมีความสุขไปด้วย...สนุกไปกับงาน  ประยุกต์ไปใช้ในงานถ่ายทอดภาพและเสียงนอกสถานที่   ผมเชื่อว่า ท่านจะพัฒนาอุปกรณ์กล้อง, เครื่องมือต่างๆ ขึ้นมาเอง โดยไม่เจ็บตัว....
 
      รอบคอบ คือ การศึกษา เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ อย่างถูกวิธี ถูกต้อง และถูกทาง
      ไม่สิ้นเปลือง คือ การเลือกนำอุปกรณ์เครื่องมือที่มีอยู่หรือต้นทุนต่ำ มาใช้ให้เหมาะสม และใช้ได้หลากหลายหน้าที่...
 
      ซึ่งตอนนี้ผมได้แนะนำการใช้งานโปรแกรม Wirecast นี้ออกไปแล้ว และมีคนที่อยากเรียนรู้ จึงนำมาโพสต์ขึ้นหน้าเว็บ ให้ผู้ใช้งานได้เรียนรู้เบื้องต้น ข้อมูลอาจสอนไม่ละเอียด(คนที่มีวิชา..น่าจะเก๊ต) ไม่อยากเผยแพร่ภายนอก อยากจะทำการสอนกันภายในองค์กรมากกว่า แต่ยังไม่มีศูนย์ฯฝึกอบรมในองค์กร จึงมาแนะนำแบบ ดำ หยาบ เฝื่อน...บ้าๆ บอๆ ไปก่อน ( คนที่มีความรู้..เขาจับทางได้เร็ว... )

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม...
ขอโทษ..บุคคลภายนอก ที่ผมต้องรักองค์กร มากกว่า
หากคิดดี ทำดีเพื่อประเทศชาติ.. บอกมา..ผมก็จะเผยแพร่ให้ทราบ...





สามารถเลือกฟังค์ชันการสลับภาพ ( Video Switcher ) ได้หลายลักษณะ ทำให้การเปลี่ยนภาพดูสมูทขึ้น (ภาพไม่ล้ม)





เพียงแค่คลิกที่ภาพจากกล้องวิดีโอที่เราต้องการ โปรแกรมจะสลับภาพให้อย่างเนียนๆ
555 ไม่ต้องพึ่ง เครื่อง Switcher ราคาแพงอีกแล้ววว.... ( ราคาเครื่อง Switcher 50,000 - 200,000 บาท)
มีโปรแกรมนี้ + Webcam (หรือ กล้อง + USB Video Capture ) ต่อเข้า Notebook เครื่องเดียว หากินได้ตลอดชีวิต....
สตรีมภาพวิดีโอ + สลับภาพ(ตัดต่อ) + บันทึกวิดีโอ
โอ้ แม่เจ้า....( ประกาศอย่างนี้ ชาวบ้านเค้ารู้ไต๋กันหมด... )





เลือกแสดงจอภาพได้จาก Camera Preview





ท่านจะสามารถมองเห็นภาพ จากกล้อง 1, 2, 3.... ได้พร้อมๆกัน
ซึ่งจะเห็นมุมมองภาพเคลื่อนไหว เหมือน Quad Video เพื่อใช้ในการควบคุมภาพ Switcher





ทำ Video Effect เอากล้อง 2-3 ตัวมาซ้อนกันก็ได้





มีฟังค์ชั่นการซ้อนภาพได้หลากหลายและสามารถตกแต่งมุมมองได้ด้วยเมาส์





เลือก Effect ใส่กรอบข้อความตัวอักษรลงในวิดีโอ ขณะถ่ายทอดสดได้ด้วย





มี Effect ใส่ตัวอักษร หรือข้อความ ในขณะถ่ายทอดสดก็ได้
ตกแต่งตัวอักษร ตกแต่งสี ขนาดตัวอักษรได้
โอ้แม่เจ้า...เป็นภาษาไทยด้วยยยย....





บันทึกค่าการทำงาน และฟังค์ชั่น Effect ต่างๆ ไว้ เพื่อเรียกกลับมาใช้งานในครั้งต่อไปได้





ตั้งค่าเพื่อสตรีมภาพเป็น Flash





เลือกระดับการตั้งค่าเพื่อสตรีมภาพได้หลายแบบ





ตั้งค่าเพื่อสตรีมภาพเป็น Media Player 9 ก็ได้ แจ่มมมม....





ตั้งค่าการเข้ารหัส Encode ภาพวิดีโอได้ ดูเอาเอง....ไม่ได้โม้





บันทึกเป็นไฟล์วิดีโอ ในขณะถ่ายทอดภาพโทรทัศน์ ได้ด้วย....





บอกไปมาก เดี๋ยวชาวบ้านเขารู้หมด...
 
รอสั่งอุปกรณ์(จากต่างประเทศ)
4CH 100/120FPS Full Real Time Video Capture USB DVR Box Support 32/64Bit OS
เพื่อเชื่อมสัญญาณภาพ Composite Video ผ่าน USB มาทดลองใช้งานก่อน...
 
ผลเป็นอย่างไร..เดี๋ยวจะมารายงานให้ทราบบบบบ....





จับภาพ 4 อินพุต จากกล้อง 4 ตัว เป็น USB Video Capture มาสตรีมและบันทึกภาพ
เพราะเครื่อง Notebook มีช่องพอร์ต USB อยู่น้อย (ส่วนใหญ่ มี 3 ช่อง)
ปัจจุบันใช้ 2 กล้อง 2 USB  ส่วนช่อง USB ที่เหลือ เสียบ Air Card 3G หมดพอดี
ต้องการ Capture ภาพจากกล้องวิดีโอ 4 ตัว/USB ช่องเดียว ( ประหยัดพอร์ต USB )
จะใช้ถ่ายทอดสด สตรีมแบบจัดเต็ม จัดหนัก ต้องหาซื้ออุปกรณ์ราคาถูกมาใช้งาน (งบน้อย..) 
ต้องทดลอง..ใช้อุปกรณ์ราคาถูก ทำงานได้ดี มีคุณภาพ สำเร็จแล้วจะมาบอกต่อ...ให้เพื่อนทำได้ด้วย เด้อ...





ปรับขนาดของการแสดงผลของภาพวิดีโอ
เพื่อตั้งขนาด Canvas Size ให้แสดงอัตราส่วนของภาพวิดีโอเพื่อดูมุมมองภาพจากกล้อง





กล้อง 2 ตัว ที่มีขนาดภาพต่างกัน





การทำ Letter Box หรือการใส่แถบดำลงในภาพ เพื่อปรับเปลี่ยนขนาดของภาพ
 
โถ...ภาพโครตน่าเกลียด รับม่ายด๊าย.... ผมไม่สอนให้ทำกากๆ อย่างนี้
นายแบบลูกใคร?? ดั้งก็ไม่มี แต่น่าร๊ากกกก





การปรับภาพจากกล้องวิดีโอ 16:9  ให้อยู่ในกรอบภาพขนาด 4:3
 
      ส่วนใหญ่วิธีนี้... จะต้องปรับภาพให้เข้ากับมาตรฐานระบบ PAL 4:3 ของประเทศไทย ( กำ..คงเกิดกับผมคนเดียว..ซื้อกล้องมาไม่ตรวจสอบให้ละเอียด เห็นแก่ของถูก.. ) จะมีใครพบปัญหาอย่างผมมั๊ยนะ... ปัญหามีไว้ให้แก้ ถ้าไม่มีปัญหา ปัญญาไม่เกิด..
 
       วิธีนี้ใช้สำหรับการสลับภาพ ( Switcher ) จากกล้องหลายตัว ที่มีขนาดภาพแตกต่างกัน เมื่อใช้โปรแกรม Wirecast บันทึกรายการเป็นไฟล์วิดีโอ ลงใน Hard Disc ก็ได้
 
       หรือ..ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าต้องการสตรีมภาพที่มีความคมชัดระดับ HD แล้วไปซื้อ Webcam HD 16:9 มาใช้ เพราะราคาถูก พอต่อภาพออกไปแล้ว ได้ภาพหดในอัตราส่วน 4:3
 
       หรือ...ต้องการเปิดไฟล์วิดีโอขนาด 16:9  หรือเปิด Picture  เพื่อใช้แทรกเป็นภาพวิดีโอ 4:3  เพิ่มลูกเล่นของภาพวิดีโอ ในการสตรีมสัญญาณภาพ ก็ทำได้..นะจ๊ะ





คลิกขวาที่กล้องแรก แล้วเลือก Edit Shot  แล้วปรับค่าตามรูป โลด....





ขั้นตอนที่ 2  - ปรับตำแหน่งของภาพ Position
คลิกปุ่ม Scale To Fit  ปรับให้ภาพเต็มเฟรม





ผลที่ได้ ภาพวิดีโอจากกล้องแรก มีอัตราส่วนเหมือนกล้องสองเด๊ะ เนียนจริงๆ... แม้ว่ากล้องตัวแรกจะส่ายซ้าย-ขวา ซูมเข้า-ออก ได้ภาพเคลื่อนไหวในลักษณะใดที่เป็นสัญญาณวิดีโอมา 16:9  โปรแกรม Wirecast ที่เราปรับแต่งขนาดภาพไว้แล้ว จะยังคงแสดงภาพเป็น 4:3 ตามที่เราตั้งค่าไว้นั่นเอง ( โอ้แม่เจ้า...ไม่มีใครเขาทำกัน  ใคร? จะบ้าเหมือนเรานี่... )
 
อย่าลืม ทำการบันทึก หรือ Save ไว้เผื่อเรียกกับมาใช้งานได้ในครั้งต่อไป
 





    คำแนะนำ... เราเรียกวิธีนี้ว่าการ Crop คือการตัดให้สั้น หรือตัดขอบนอกที่เป็นส่วนไม่ต้องการทิ้งไป เมื่อเราใช้โปรแกรม Crop ภาพวิดีโอกล้องแรก จากอัตราส่วน 16:9 กำหนดให้เป็น 4:3 ไว้แล้ว ในการตั้งกล้องจับภาพวิดีโอ ผู้ควบคุมกล้องควรคำนวณระยะกรอบของภาพ ให้ Object อยู่ตรงกลางจอภาพ(ตรงกลางแนวตั้ง) ปรับตำแหน่งให้อยู่ในกรอบอัตราส่วน 4:3 ของช่องมองภาพ(หรือใช้ปากกาเขียนกระจกขีดเส้น Mark กำหนดไว้บนจอ LCD ของกล้อง) เพราะด้านข้างซ้าย-ขวาของภาพจะไม่ถูกแสดงออกจอภาพ ( ขอบทั้ง 2 ข้าง ถูกตัดออกไปนั่นเอง )
 
     หมายเหตุ... ภาพ ที่นำมาประกอบการบรรยาย ดูเหมือนไม่ชัด เพราะใช้โปรแกรม ManyCam ซึ่ง Import ภาพวิดีโอแทน Port USB ทำให้ได้ภาพวิดีโอขนาดสูงสุดแค่ 620x480 pixel เท่านั้น ภาพจึงดูเหมือนไม่ชัดเจนเมื่อนำมาใช้ประกอบการบรรยาย แต่ในการใช้งานจริง โปรแกรม WireCast ให้คุณภาพของภาพวิดีโอชัดเจนตามที่กำหนดค่า Canvas Size ซึ่งสามารถ Capture Video ได้ถึง 720p  ( จึงอย่าเข้าใจผิด...เพราะผม..ขี้เกียจต่อพอร์ต USB , ขี้เกียจต่อกล้องวิดีโอ , ขี้เกียจต่อสายสัญญาณ อ่ะ..เข้าใจไหม...ถึงจะมีเครื่องมือแบบลวกๆ แต่ก็ไม่ได้สรุปแบบลวกๆนะจ๊ะ...สุกๆดิบๆ ต๊ะหาก..555 )





การปรับภาพจากกล้องวีดีโอ 4:3  ให้แสดงภาพในกรอบ 16:9
 
      ภาพลักษณะนี้ไม่น่าจะเจอบ่อย แต่เพราะปัจจุบันภาพอัตราส่วน 16:9 เป็นระบบ HD กำลังนิยมและมีการใช้ในการบันทึกสื่อวิดีโอกันมากขึ้น เพราะเป็นภาพวิดีโอที่มีความคมชัดสูง กล้องวิดีโอส่วนใหญ่ก็ผลิตออกมามีระบบ นี้มากขึ้น(ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการวิดีโอ ใครไม่รู้จักระบบ HD ก็เชยแย่...)  บางเว็บไซต์ก็สตรีมภาพวิดีโอที่มีความคมชัดแบบ HD และด้วยการเข้ารหัสแบบ H.264 ทำให้ภาพวิดีโอมีความคมชัดมากกว่าเดิมถึง 4 เท่า แล้วความจุของภาพวิดีโอและ Bitrate ยังต่ำลงถึง 4 เท่า จึงมีความเหมาะสมในการนำมาใช้ในการสตรีมภาพวิดีโอ ยิ่งภาพเราชัดเจนเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงความเป็นมืออาชีพมากขึ้น หลายๆค่ายจึงแข็งขันกันผลิตภาพวิดีโอ HD ออกมา และนำมาขึ้น YouTube หรือสตรีมภาพที่ชัดระดับ HD 1080p เพื่อไม่ให้น้อยหน้ากัน
 
       หรือบางคนมีกล้องวิดีโอ SD อัตราส่วน 4:3 หรือมีภาพวิดีโอ SD อยู่ อยากนำมาใช้สตรีมภาพวิดีโอ ร่วมกับกล้องที่บันทึกภาพระบบ HD ที่มีขนาด 16:9  ก็สามารถทำได้ แบบมืออาชีพ...จัดไป





เลือก Edit Shot และปรับแต่งคล้ายๆที่ผ่านมา แต่ต้องทำแบบย้อนกลับ...





ทำตามรูป...โลด





ทำตามรูป...เริ่มมั่วแล้ว...อิอิ








ดูรูปแล้ว..เข้าใจป่ะ





ภาพที่ได้ มีลักษณะเหมือนการซูมเข้า ทำให้อยู่ในกรอบ 16:9 นั่นเอง
ภาพดูใหญ่ขึ้น ไม่ใช่หดเล็ก เหมือนการใส่แถบดำลงในภาพ ( Letter Box )
ท่านจะปรับภาพให้ชิดด้านบนหรือด้านล่างของจอภาพก็ทำได้..
เช่น.. ปรับ Top = 0 แล้ว Bottom = 49 ก็ได้
หรือ  ปรับ Top = 49 แล้ว Bottom = 0 ก็ทำได้
แต่ควรปรับให้ Object ภาพอยู่ตรงกลางดีกว่า..จะง่ายในการควบคุมกล้อง





      ถ้าคิดว่า..มันปรับแต่งยาก ก็ Save ค่าการปรับแต่งนั้นไว้ หรือ ถ้าจดจำ ทำได้คล่องแล้ว มิต้อง Save ไว้ก็ได้.. ใช้ฝีมือในการปรับแต่ง จะได้เกิดทักษะแบบมืออาชีพ... เอาไว้ไปปรับแต่งที่หน้างาน หรือ เข้าเว็บมาเปิดอ่านก็ได้ ( ผู้จัดทำเองก็กลัวลืม..จึงเขียนไว้บนเว็บฯเช่นกัน... มิได้ หวังดี มีน้ำใจ ให้ความรู้ เป็นผู้ทรงภูมิ หรอกนะ... เป็นคนธรรมด๊า...ธรรมดา ที่ขี้ลืม..ขี้เกียจพกคู่มือ...เหมียนกัลลล 555 )




      เช่นเดียวกัน... เมื่อ เราใช้โปรแกรมตั้งค่าการ Crop ภาพจากกล้องวิดีโอตัวที่สองไว้ จากอัตราส่วน 4:3 ปรับให้ให้เป็น 16:9 ได้แล้ว ซึ่งเป็นการ Crop ขอบด้านบนและด้านล่างของภาพทิ้งไป ในการตั้งกล้องจับภาพวิดีโอ ผู้ควบคุมกล้องควรคำนวณระยะกรอบของภาพในแนวนอน ให้ Object อยู่ตรงกลางจอภาพในแนวนอน ปรับตำแหน่งภาพให้อยู่ในกรอบอัตราส่วน 16:9 ของช่องมองภาพ เพราะขอบด้านบนและด้านล่างของภาพวิดีโอจะไม่ถูกแสดงออกจอภาพนั่นเอง  ( อย่าให้ หน้าผากพิธีกร หายไปล่ะ เดี๋ยวเขาว่า..รายการนี้..ไม่มีสมอง...อิอิ )


การใช้โปรแกรม ในส่วนอื่นๆ ท่านคงเรียนรู้กันได้เอง
ทิปและเทคนิคลูกเล่นของภาพ ไปประยุกต์กันเอาเอง...
งานก็ค้างอยู่เยอะ สาวๆก็รออยู่ร้านเบียร์ มานั่งโพสต์บทความอยู่ได้..
จบแค่นี้ก่อนดีกว่า...ต่อไป จะโม้อะไรดีหว่า..???