5/27/2552

ปัญหาแอคติเวต Windows Vista (error code 0x8004FE33)

ผู้ใช้ Windows Vista หรือ Windows Server 2008 บางท่านอาจจะประสบกับปัญหาในการทำแอคติเวต (Activate) โดยเมื่อพยายามทำการแอคติเวตจะประสบความล้มเหลวโดยวินโดวส์แสดงข้อความผิดผลาดอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ดังนี้

• Activation fails with error code 0x8004FE33.
โดยระบบจะทำการบันทึกเหตุการณ์ใน Application log เป็นหมายเลขเหตุการณ์ 8198 และ 1008 ดังนี้

Log Name: Application
Source: Software Licensing Service
Event ID: 8198
Level: Error Description: License Activation (SLUI.exe) failed with the following error code: 0x80004005

Log Name: Application
Source: Software Licensing Service
Event ID: 1008
Level: Error Description: Acquisition of Secure Processor Certificate failed. Status Code=hr=0x8004FE33

• Activation is not successful, and you are not prompted for credentials.

สาเหตุของความล้มเหลว
ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ที่ทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านทางพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะต้องทำการล็อกออนเพื่อตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ (Authentication) ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ออกอินเทอร์เน็ตได้ โดยสาเหตุนั้นเกิดจากการแอคติเวตจะไม่มีการแสดงอินเทอร์เฟชให้ผู้ใช้ทำการล็อกออน ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ส่งผลให้การแอคติเวตล้มเหลว

วิธีการแก้ไข
วิธีการแก้ไขปัญหาการ แอคติเวตไม่ได้ สามารถทำได้หลายๆ วิธีดังนี้

วิธีที่ 1: ทำการแอคเซสอินเทอร์เน็ตก่อนทำการแอคติเวต โดยให้เลือกอ็อปชัน Remeber my password ในขั้นตอนการล็อกออนเพื่อตรวจสอบตัวตนก่อนออกอินเทอร์เน็ต ดังรูปด้านล่าง จากนั้นให้ทำการ แอคติเวต วินโดวส์อีกครั้ง

Remeber my password

วิธีที่ 2: ปิดการใช้งานฟีเจอร์ Basic authentication บนเครื่องพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ สำหรับวิธีการและขั้นตอนการทำนั้น จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของโปรแกรมที่ใช้ ให้ศึกษาวิธีการจากคู่มือโปรแกรม

วิธีที่ 3: คอนฟิกพร็อกซี่เซิร์ฟเวอร์ให้ยกเว้นการทำ Basic authentication สำหรับ URLs ต่างๆ ตามรายการด้านล่าง สำหรับวิธีการและขั้นตอนการทำนั้น จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของโปรแกรมที่ใช้ ให้ศึกษาวิธีการจากคู่มือโปรแกรม ดังนี้

- http://go.microsoft.com/
- https://sls.microsoft.com/
- https://sls.microsoft.com:443
- http://crl.microsoft.com/pki/crl/products/MicrosoftRootAuthority.crl
- http://crl.microsoft.com/pki/crl/products/MicrosoftProductSecureCommunications.crl
- http://www.microsoft.com/pki/crl/products/MicrosoftProductSecureCommunications.crl
- http://crl.microsoft.com/pki/crl/products/MicrosoftProductSecureServer.crl
- http://www.microsoft.com/pki/crl/products/MicrosoftProductSecureServer.crl

วิธีการนี้ใช้ได้กับ
วิธีการในบทความนี้ สามารถนำไปใช้ได้กับระบบปฏิบัติการต่างๆ ดังนี้

- Windows Vista Home Basic
- Windows Vista Home Premium
- Windows Vista Ultimate
- Windows Vista Business
- Windows Vista Enterprise
- Windows Server 2008 Datacenter
- Windows Server 2008 Enterprise
- Windows Server 2008 for Itanium-Based Systems
- Windows Server 2008 Standard
- Windows Web Server 2008

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• http://support.microsoft.com/kb/921471


Activation fails error code 0x8004FE33

5/02/2552

ระบบปฏิบัติการ Windows Server 2003 Enterprise Edition และการปรับแต่งใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ Windows Server 2003 Enterprise Edition และการปรับแต่งใช้งาน

ช่วงนี้ Microsoft ได้ทำการเปิดตัวระบบปฏิบัติการออกมาใหม่ คือ Windows Server 2003 โดยเป็นระบบปฏิบัติการ ที่เน้นการทำงานเป็นเครื่อง Server เป็นหลัก และได้มีการเปิดให้ทำการดาวน์โหลด เวอร์ชั่นทดลอง ให้ไปทดลองใช้งานกันได้ฟรี ๆ 180 วัน (จนถึงประมาณกลางปีนี้) ดังนั้น ใครสนใจอยากจะทดลอง ระบบปฏิบัติการตัวนี้ ก็ลองมาดูการดาวน์โหลด และเทคนิค การปรับแต่งต่าง ๆ กันดู


ก่อนอื่น ก็เข้าไปทำการลงทะเบียน เพื่อจะได้ลิงค์สำหรับดาวน์โหลดและ CD-Key ที่จะใช้ในการติดตั้งมาก่อน โดยสามารถหาได้จาก https://microsoft.order-5.com/windowsserver2003evaldl/ เลือกที่ Microsoft Windows Server 2003, Enterprise Edition (32-bit)



โดยให้เข้าไปทำการลงทะเบียน กรอกรายละเอียดต่าง ๆ และอีเมล์ที่ใช้งานได้ เพื่อรอรับลิงค์สำหรับการดาวน์โหลด และจะมี CD-Key ที่ใช้ในการติดตั้งให้มาในนั้นด้วย รอสักครู่ก็จะได้รับเมล์กลับมาครับ


หลังจากที่ดาวน์โหลดมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะได้ไฟล์ x09-22207.iso ซึ่งเป็นไฟล์ Image ของซีดี ที่สามารถนำไปเขียนลงแผ่นซีดี (หมายความว่าคุณจะต้องมีเครื่องเขียนแผ่นซีดีด้วย) หรือถ้าหากใครไม่มี CD Writer แต่อยากทดลองใช้ จะเปิดด้วยโปรแกรม WinISO หรือ Deamon Tools ก็ได้ โดยที่ไฟล์ในแผ่นนั้น ก็คือแผ่นซีดีสำหรับติดตั้ง คล้าย ๆ กับ Windows XP ทุกอย่างครับ ต่อไปก็เพียงแค่ทำการติดตั้ง Windows Server 2003 ลงไป โดยขั้นตอนเหมือนกับ การติดตั้ง Windows XP ทุกประการ ใช้ CD-Key ที่ได้รับมาจากอีเมล์นั่นแหละครับ ทำการติดตั้งไปให้เรียบร้อยก่อน


หน้าตาของการติดตั้ง Windows Server 2003 ครับ คล้าย ๆ กับการติดตั้ง Windows XP ทุกอย่าง



หลังจากที่ติดตั้งเรียบร้อย และบูตเครื่องมาใหม่ จะพบกับหน้าแรกของการ Logon ใช้งาน Windows ครับ



กด Ctrl + Alt + Del พร้อม ๆ กันเพื่อเข้าหน้าจอของการใส่ username และ password ครับ ใส่ระหัสผ่านที่กำหนดไว้ ในขั้นตอนการติดตั้งลงไป หรือถ้าไม่ได้กำหนดรหัสผ่าน ก็กด OK ได้เลย



ครั้งแรกที่เข้า Windows จะมาที่หน้าจอของการตั้งค่า Server ครับ กดปิดไปได้เลย หรือถ้าไม่ต้องการให้มีการแสดงหน้าจอนี้ ก็เลือกที่ปุ่มด้านล่างซ้ายมือได้



เมื่อเข้ามาหน้าจอของ Windows ครั้งแรก ก็จะคล้าย ๆ กับ Windows XP คือจะมีไอคอนของ Recycle Bin อันเดียว ลองมาทำการกำหนด ค่าการแสดงผลของหน้าจอ Desktop กันก่อน โดยกดเมาส์ขวาที่หน้าจอ เลือกที่ properties เพื่อปรับเปลี่ยนการแสดงผลครับ



เลือก Desktop Background เป็น Windows Server 2003 และที่ปุ่ม Customize Desktop ก็เลือกให้แสดง My Document, My Network Places, My Computer และ Internet Explorer ครับ


เอาหละครับ ได้แล้ว หน้าตาของ Windows Server 2003 ครับ สวยงามไม่น้อยทีเดียว



ก่อนอื่น มาลองสำรวจหน้าตาของเมนูต่าง ๆ กันก่อน ส่วนมากจะคล้ายกับ Windows XP มาก แต่พอทำการ Shutdown ก็จะพบกับหน้าต่างที่ ดูแปลกออกไป คือ ทุกครั้งก่อนที่จะทำการ Shutdown จะต้องบอกสาเหตุด้วยเสมอครับ จึงจะทำการ Shutdown ได้



ตอนนี้ก็เสร็จในส่วนของการติดตั้งปกติแล้วครับ ต่อไปก็เป็นการปรับแต่งค่าต่าง ๆ เพื่อให้ Windows 2003 น่าใช้งานมากขึ้นอีกหน่อย


การปรับแต่ง Windows Server 2003 ให้ใช้งานได้คล่องตัวมากขึ้น


เอาหละครับ ต่อไปเป็นเทคนิคการปรับแต่งระบบ Windows Server 2003 ให้สามารถทำงานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น อย่างที่ได้บอกไว้แล้ว ว่าระบบปฏิบัติการตัวนี้ เน้นการทำงานในรูปแบบของ Server มากกว่าที่จะเป็น Desktop ธรรมดาทั่วไป ดังนั้น หากต้องการให้เครื่องสามารถ ดูหนังฟังเพลง หรือเล่นเกมส์ได้เต็มที่ ก็ต้องมีการปรับแต่งกันนิดหน่อยก่อนครับ


การปรับแต่งระบบการแสดงผลของการ์ดจอ


โดยกดเมาส์ขวาที่หน้าจอ เลือก properties และ Setting >> Advanced >> Troubleshoot ปรับค่าของ Hardware acceleeator ให้อยู่ในตำแหน่งขวามือสุดหรือ Full ครับ แล้วกดที่ OK จนกลับไปหน้าจอ Desktop



จากนั้น ที่เมนู Start Menu ตรงช่อง Run พิมพ์คำว่า dxdiag และกด Enter และเลือกที่ป้าย Display จะเห็นว่า DirectDraw Acceleration จะเป็น Disable อยู่ ก็ทำการกดที่ปุ่ม Enable ให้เรียบร้อยซะก่อน เสร็จแล้วกดที่ปุ่ม Exit ครับ



การปรับแต่ง Performance ของระบบ


ต่อไป ก็ทำการปรับแต่ง Performance ของระบบ โดยกดเมาส์ขวาที่ไอคอน My Computer บนหน้าจอ เลือกที่ properties เลือกที่ Advance >> Performance Setting >> Advanced เปลี่ยนที่ช่อง Adjust for best processor of และ Adjust for best performance of ให้เป็นที่ Programs แทน Background service ครับ แล้วกดที่ OK



การปรับแต่งและเปิดการใช้งาน Service ต่าง ๆ


ต่อมา เป็นการเปิดใช้งานระบบ Themes โดยเข้าที่ Control Panel >> Administrative Tools >> Service >> Themes ดับเบิลคลิกเข้าไปที่ Themes และเปลี่ยนช่อง Startup Type ให้เป็น Automatic แล้วกด OK ครับ



ที่จุดเดียวกันนี้ ก็ต้องทำการเปิด Service ของระบบเสียงด้วย โดยเลือกช่อง Service ของ Windows Audio และดับเบิลคลิกเข้าไป ทำการเปลี่ยน Startup Type ให้เป็น Automatic ด้วยและกด OK



การปรับแต่งการใช้งานการ์ดเสียงให้มีประสิทธิภาพเต็มที่


ต่อไปก็ทำการปรับแต่งระบบเสียง โดยเข้าไปที่ Control Panel >> Sound and Audio Device ที่ด้านล่างใต้ช่อง Speaker Setting กดที่ปุ่ม Advanced เลือกที่ Performance และเปลี่ยนช่อง Hardware accelerator ให้ไปทางขวามือสุดครับแล้วกด OK



การปรับแต่งระบบความปลอดภัยของ Internet Explorer


เนื่องจาก IE6.0 ที่มีติดมากับ Windows Server 2003 จะมีการตั้งค่าของระบบความปลอดภัยไว้สูงสุด ซึ่งถ้าหากนำมาใช้เล่นเน็ต จะพบปัญหาต่าง ๆ ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการเข้าเว็บไซต์ที่มีการใช้งาน cookies เช่น hotmail ดังนั้น ต้องทำการปรับ ระดับความปลอดภัยของ IE ลงมาให้น้องกว่าปกติสักระดับหนึ่ง โดยเปิด IE ขึ้นมา เลือกที่เมนู Tools >> Internet Options >> Security และเลื่อนแถบ Security Level ให้เป็น Medium ครับ



การปรับแต่ง เพื่อให้เข้า Windows ได้ทันทีโดยไม่ต้อง Logon ให้เสียเวลา


ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง จะต้องทำการกด CTRL+ ALT+DEL ก่อนเสมอ และใส่ username กับ password จึงจะสามารถ Logon เข้าใช้งาน Windows 2003 ได้ หากต้องการให้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว สามารถเข้าใช้งาน Windows ได้ทันทีโดยไม่ต้องทำการ Logon ก็สามารถทำได้ดังนี้


เริ่มต้นจากเอาหน้าจอการ Logon ออก โดยเข้าที่ Control Panel >> Administrative Tools >> Local Security Policy ทางขวามือเลือก Interactive Logon: Do not require CTRL + ALT + DEL ดับเบิลคลิกและเปลี่ยนเป็น Enable แล้วกด OK ครับ



จากนั้น ปรับแต่งให้ระบบทำการ Logon เข้า Windows ทันที โดยไม่ต้องใส่ Password เริ่มต้นจาก ที่ Start Menu >> Run พิมพ์คำว่า rundll32 netplwiz.dll,UsersRunDll (ระวังเรื่องการเว้นวรรคให้ดีนะครับ) และกด Enter จากนั้น เอาเครื่องหมายถูกหน้าช่อง Users must enter a user name and password to use this computer ออกไปและกดที่ปุ่ม Apply ด้านล่าง


จะได้หน้าต่างของการใส่ Password ของ Administrator ให้ใส่ Password ของ Admin ที่ตั้งไว้ลงไป และกดปุ่ม OK ครับ



ทดลอง Restart เครื่องใหม่ ถ้าทำถูกต้อง ก็จะเข้ามาหน้าจอของ Windows ได้เลยโดยไม่ต้องใส่ password ครับ


การปรับแต่งหน้าต่างการ Shutdown ให้เป็นแบบปกติเหมือน Windows ตัวอื่น ๆ


บางที การที่จะต้อง Shutdown แล้วต้องคอยใส่สาเหตุของการ Shutdown ทุกครั้งที่น่าเบื่อเหมือนกัน คราวนี้มาดูขั้นตอนการ เปลี่ยนหน้าตาของเมนูการ Shutdown ให้เป็นแบบ Windows รุ่นเก่า ๆ ดีกว่า เริ่มต้นจากที่ Start >> Run พิมพ์คำว่า MMC และกด Enter จากนั้น ที่เมนู File เลือก Add/Remove Snap-in... กดที่ปุ่ม Add >> Group Policy Object Editor กดที่ปุ่ม Add ตามตัวอย่างภาพด้านล่างนี้



เมื่อกด Add แล้วจะมีช่อง Local Computer ก็กดที่ปุ่ม Finish และ Close และ OK จากนั้น ก็กลับมาเลือกที่ Local Computer Policy ทางซ้ายมือ เลือกที่ Computer Configuration >> Administrative Templates >> เลือกที่โฟลเดอร์ System และเลือกดับเบิลคลิกที่ Display Shutdown Event Tracker ทางขวามือจะได้ตามภาพด้านล่าง



เลือก Disabled และกดปุ่ม OK จากนั้นก็ออกจากหน้าต่างนี้ได้เลย จากนั้น ก็ทดลองทำการ Shutdown ดูครับ จะได้หน้าจอที่เปลี่ยนแปลง ไปแล้ว และไม่ต้องใส่สาเหตุของการ Shutdown อีกต่อไป



การปรับแต่งระบบ ให้ทำงานเร็วขึ้นในส่วนอื่น ๆ


ทำการปิดส่วนของ Error Report โดยเข้าที่ Control Panel >> System >> Advanced >> Error Reporting เลือกให้เป็น Disable error reporting แล้วกด OK



ทำการปิดส่วนของ Automatic Update โดยเข้าที่ช่อง Automatic Update และเอาเครื่องหมายถูกอกไปตามภาพด้านล่าง



ปิดระบบ Remote Control โดยเอาเครื่องหมายถูกออกไป ตามภาพด้านล่างนี้ เสร็จแล้วกด OK ครับ



เรียบร้อยครับ ก็ทดลองใช้งานกันดูเอง บางคนอาจจะชอบ บางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ ไม่ว่ากันอยู่แล้วครับ ผมก็ขอจบการแนะนำ Windows Server 2003 ไว้แค่นี้ครับ


ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่คิดจะใช้งาน Windows Server 2003


1. ต้องเข้าใจก่อนว่า Windows 2003 ชื่อก็บอกว่าเป็น Server ครับ อาจจะไม่เหมาะกับการใฃ้งานทั่วไปนัก
2. ข้อดีของ Windows 2003 คือความสเถียรที่มีค่อนข้างมาก แทบจะไม่ต้องบูตเครื่องใหม่ ระหว่างการใช้งานเลย
3. หลายคนบอกว่า Windows 2003 ไม่เหมาะกับการเล่นเกมส์ แต่ผลการทดสอบ 3DMark ได้คะแนนเท่ากับ Windows XP
4. Driver ส่วนมากจะใช้ driver ของ 2K/XP ได้เลย เท่าที่ทดลอง จะมีอุปกรณ์บางชิ้นเท่านั้น ที่ต้องใช้ driver ของ 2003
5. โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ใช้ได้คือ Norton Antivirus Corporation Edition ส่วน McAfee, PC-Cillin ปกติใช้ไม่ได้
6. ไฟล์ที่ดาวน์โหลดจาก microsoft จะเป็นรุ่นทดลองใช้งาน เท่าที่ทราบยังไม่มีวิธีการทำให้ใช้งานได้ตลอดไปครับ
7. ข้อมูลเพิ่มเติมจากข้อ 6. สำหรับคนที่คิดจะแคร็ก LH-Net-XP-Crack ใช้ไม่ได้และ Reset 5.02 ก็ไม่ได้ผลนะครับ


5/01/2552

เพิ่มสัญญาณWireless !!สุดยอดมากๆ

เพิ่มสัญญาณWireless !!สุดยอดมากๆ

เพิ่มสัญญาณไวร์เลส ด้วยจานรับจาก Chinese Cookware
พอดีเปิดไปเจอเว็บสอนโมดิฟาย ไวร์เลสแบบ USB Adapter
อุปกรณ์ที่ต้องมี
สิ่งที่ต้องมี
1.ไวร์เลสแบบ USB
2.กระชอนอะลูมิเนียมเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 "
3.เครื่องไม้เครื่องมือ
ผลที่ได้คือสัญญาณจะแรงขึ้นจากเดิม 10-15 DBm ครับ
Note.สำหรับท่านที่หา กระชอนอะลูมิเนียมไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับให้ใช้ฟอยด์ห่อด้านหลังกระชอนแทน คุณสมบัติของอะลูมิเนียมและฟอยด์คือสามารถสะท้อนคลื่นได้ดังนั้นก็เลือกใช้เอานะครับ ถ้าใช้ฟอยด์ก็ได้ถูกดี แต่ใช้กระชอนอะลูมิเนียมจะมีราคาแพงหน่อย
การออกแบบจานรับภาพการคำนวนออกแบบจาน
1.หาจุด Facal Point คือจุดที่ USB Adapterของเราอยู่ห่างจากจานโดยใช้
fc=D2/16c
fc คือ Facal Point
D2 เส้นผ่านศูนย์กลางยกกำลังสอง
c ระยะลึกของจาน
2.เมื่อเราเอา f/D แล้วจะได้ Ratio ออกมาซึ่งอยู่ในช่วง 0.25 -0.55 ถือว่าใช้ได้ สำหรับ 2.4 Ghz Parabola

อธิบายการหาจุด Facal Point

เมื่อคำนวณอะไรเรียบร้อยหมดแล้วก็เจาช่องตรงกลางแล้วเอา USB เสียบไปตรงกลางอันนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือทางด้านช่างครับ
และก็ลองวัดสัญญาณดูครับ โดยใช้โปรแกรมฟรีจาก
http://www.netstumbler.com/
ข้อมูลจากเว็บ

ดูตัวที่ฝรั่งที่เค้าทำได้ที่เว็บนี้ครับ

http://www.usbwifi.orcon.net.nz/






f

ก

ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.metacafe.com/watch/1017644/hack_wifi/
http://www.smorty71.com/2005/02/diy-wifi-antenna.html
http://www.uberreview.com/2007/02/super-cantenna-directional-wi-fi-antenna.htm
http://www.stmug.com/Meetings/2006/June06.html
http://202.151.178.27/network/view.php?ID=583