แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ระบบเครือข่าย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ระบบเครือข่าย แสดงบทความทั้งหมด

12/18/2561

การตรวจสอบและแก้ไขปัญหา ของระบบเครือข่าย

การตรวจสอบและแก้ไขปัญหา ของระบบเครือข่าย

สาระสำคัญ

ปัญหาของระบบเครือข่ายเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งในบางครั้งจำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบ ดังนั้น การตรวจสอบดังกล่าวจะต้องดำเนินการไปทีละอย่าง เพื่อหาจุดบกพร่องบนเครือข่ายว่าต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้นั้นเกิดจากสาเหตุใดโดยเนื้อหาต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างการตรวจสอบหาข้อบกพร่องเบื้องต้น

สาระการเรียนรู้

1. การตรวจสอบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ 2. การทดสอบติดต่อกับคอมพิวเตอร์ปลายทาง 3. การตรวจสอบการตั้งค่าในเวิร์คกรุ๊ป

สมรรถนะประจำหน่วย 1. ประยุกต์ใช้งานเครือข่ายในการปฏิบัติงานขององค์กร

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 1. สามารถตรวจสอบข้อบกพร่องของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่อเครือข่าย 2. สามารถปรับปรุงและติดตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อให้ระบบสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้สำเร็จ 3. ฝึกวิเคราะห์ปัญหาด้านเครือข่าย และหาหนทางแก้ไขได้ตรงจุด 4. สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาของระบบเครือข่ายไปประยุกต์ใช้งานจริงได้อย่างเหมาะสม


1. การตรวจสอบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์

ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ถูกติดตั้งไม่ดีพอให้ไม่สามารถเชื่อมต่อเข้าเครือข่ายได้ โดยเบื้องต้นในที่นี้จะดำเนินการตรวจสอบอุปกรณ์การ์ดเครือข่ายและอุปกรณ์ฮับและสายแลน เบื้องต้น

การตรวจการ์ดเครือข่าย

1. ที่เดสก์ท็อป ให้คลิกขวาที่ไอคอน My Computer แล้วเลือกรายการ Properties

2. คลิกที่แท็บ Hardware

3. คลิกที่ปุ่ม Device Manager


4. ให้ตรวจสอบดูอุปกรณ์เครือข่ายตรง Network Adapter หากพบสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายตกใจ ในหมายความว่าพบปัญหาเบื้องต้นที่การ์ดเครือข่ายแล้ว ซึ้งอาจเกิดจากการไม่ได้ติดตั้งไดรฟ์เวอร์ของการ์ดเครือข่ายบนเครื่องนั้น ๆ

5. ทำการคลิกขวาที่ชื่อการเครือข่ายนั้นแล้วเลือกรายการ Properties




6. คลิกที่แท็บ Driver

7. คลิกปุ่ม Updarte Driver



8. กำหนดให้เครื่องค้นหาแบบอัตโนมัติ ด้วยการเลือกรายการ Install the software automatically แล้วคลิกปุ่ม Next


9. เมื่ออัพเดตเรียบร้อยแล้วให้คลิก Finish

10. จากนั้นให้คลิก Close

ตรวจสอบสายแลน

ให้ดำเนินการตรวจสอบสายแลนว่าได้เสียบเข้าไปในเครื่องเรียบร้อยแล้วหรือยังรวมถึงสายแลนที่ใช้เชื่อมต่อจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และหากเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงสองเครื่องสายแลนจะต้องเป็นชนิดสายไขว้

โดยตรวจสอบปลั๊กสายแลนว่าเสียบเข้าเครื่องแล้วหรือยัง



ตรวจสอบอุปกรณ์ฮับหรือสวิตช์



ในกรณีที่เครือข่ายฮับหรือสวิตช์ให้ดำเนินการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ฮับหรือสวิตช์เสียบปลั๊กไฟหรือยัง รวมถึงปลั๊กสายแลนว่าเชื่อมต่อลงในแต่ละพอร์ตแน่นหรือไม่


2. การทดสอบการติดต่อกับคอมพิวเตอร์ปลายทาง

ในกรณีเกิดปัญหาที่เครื่องบนเครือข่ายไม่สามารถกับเครื่องปลายทางได้ให้ดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนนี้

1. เข้าไปที่ Network Connections หากเป็นไปดังรูป ยังไม่ได้เสียบสายแลนให้ดำเนินการเสียบสายแลนเพื่อเชื่อมต่อแต่ละเครื่องให้เรียบร้อย

2. หากไอคอนมีสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายตกใจ แปลว่าเชื่อมต่อไม่ได้ จะต้องทำการตั้งค่าใหม่


3. ให้คลิกขวาแล้วเลือกรายการ Properties


4. ตรวจสอบการคลิกเครื่องหมายถูก โดยให้คลิกตามรูป จากนั้นคลิกรายการ Internet Protocol แล้วคลิก OK

5. กรอกชุดหมายเลขไอพีลงไป ซึ่งต้องกำหนดตัวเลขให้ตรงกลุ่มกัน เช่น 192.168.1 ส่วนตัวสุดท้ายคือหมายเลขประจำเครื่อง ซึ่งจะต้องมีค่าแตกต่างกัน โดยในที่นี้กำหนดเป็นหมายเลข 5 และซับเน็ต คือ 255.255.255.0 เหมือนกันทุกเครื่อง แล้วกดปุ่ม OK



6. คลิกเครื่องหมายถูกตรงเซกบ๊อกซ์ Show icon notification area when connected แล้วตามด้วยคลิกปุ่ม Close

7. เครื่องได้เชื่อมโยงเข้าเครือข่ายแล้ว


8. ไอคอนได้เปลี่ยนรูปเป็นดังนี้ ซึ่งหมายความว่าเชื่อมโยงเครือข่ายแล้ว


9. ไปที่ทาสก์บาร์ ดับเบิลคลิก

ดูตรงข้อความที่ลูกศรชี้จะเห็นว่าได้เชื่อมต่อจริง

ทีความเร็ว 100 Mbps




10. คลิกที่แท็บ Support แล้วดูที่ลูกศรชี้



ก็จะพบหมายเลขไอพีแอดเดรสของเครื่อง

11. จากนั้นให้ทดลองใช้คำสั่ง Ping เพื่อทดสอบการเชื่อมต่อกับเครื่องอื่น ๆ บนเครือข่ายหายเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ปลายทางได้ก็จะมีการตอบกับมาดังรูป

12. หากมีการตอบรับกับมาเป็น Time Out หมายความว่าเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ปลายทางไม่ได้ ให้กลับไปตรวจสอบตามขั้นตอนที่ 1 ใหม่อีกครั้ง


3. การตรวจสอบการตั้งค่าในเวิร์คกรุ๊ป

กรณีเครื่องคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายไม่สามารถเข้าไปเป็นสมาชิกในเวิร์คกรุ๊ปได้ให้ดำเนินการตรวจตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ขั้นตอนแรก ให้ตรวจสอบไฟร์วอลล์ก่อน ด้วยการไปที่ Control Panel แล้วดับเบิลคลิกที่ไอคอน Windows Firewall หากได้ติดตั้งค่าดังกล่าวแล้วสามารถข้ามไปขั้นตอนที่ 5 ได้เลย



2. จะแสดงไดอะล๊อกบ๊อกซ์ Windows Firewall ดังรูป







3. คลิกที่แท็บ Execptions

4. คลิกที่เครื่องหมายถูกที่ File

and Printer Sharing แล้ว

ตามด้วยปุ่ม OK


5. เข้าไปที่ My Network Places แล้วคลิกที่รายการ View workgroup computers หากพบว่าเครื่องเราพบอยู่โดด ๆ ไม่พบเครื่องอื่น ๆ เลย ในขณะที่เครื่องอื่นพบสมาชิกในเครือข่ายให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่ากรอกชื่อเวิร์คกรุ๊ปไม่ตรงกัน

6. แก้ไขใหม่ด้วยการคลิกขวาที่ไอคอน



My Computer แล้วเลือกรายการ Properties

  








7. คลิกที่แท็บ Computer Name


8. คลิกปุ่ม Change…….



9. กรอกชื่อเวิร์คกรุ๊ปให้ถูกต้อง


10. แสดงข้อความเข้าสู่เวิร์คกรุ๊ป Workgroup 11. แล้วบู๊ตเครื่องใหม่


12. เข้าไปที่ My Network Places แล้วคลิก


ที่ View workgroup computers ก็จะพบว่า


เครื่องอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายบน


เวิร์คกรุ๊ป workgroup





ปัญหาของระบบเครือข่ายสามารถเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบหาข้อบกพร่อง ดังนั้น ควรตรวจสอบที่ละขั้น ทีละจุด เพื่อหาต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้ไม่สามรถเชื่อมต่อเครือข่ายได้นั้นเกิดจากสาเหตุใด


การตรวจสอบหาข้อบกพร่องบนเครือข่าย สามารถตรวจได้จาก

1. ตรวจสอบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น
- ตรวจสอบการ์ดเครือข่าย
- ตรวจสอบสายแลน
- ตรวจสอบอุปกรณ์ฮับหรือสวิตซ์

2. ตรวจสอบการทดสอบการติดต่อกับคอมพิวเตอร์ปลายทาง

3. ตรวจสอบการติดตั้งค่าในเวิร์คกรุ๊ป

9/10/2560

ประเภทของเครื่อข่าย PAN MAN WAN LAN

ระบบเครือข่าย Pan
เครือข่าย ส่วนบุคคล หรือ แพน (Personal area network) : PAN)PANPAN คือ "ระบบการติดต่อสื่อสารไร้สายส่วนบุคคล" ย่อมาจาก Personal Area Network หรือเรียกว่า BluetoothPersonal Area Network (PAN)คือเทคโนโลยีการเข้าถึงไร้สายในพื้นที่เฉพาะส่วนบุคคล โดยมีระยะทางไม่เกิน 1เมตร และมีอัตราการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงมาก (สูงถึง 480 Mbps) ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้กันแพร หลาย ก็เช่น• Ultra Wide Band (UWB) ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.3a• Bluetooth ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.1• Zigbee ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.4เทคโนโลยีเหล่านี้ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์ต่อพ่วง(peripherals) ให้สามารถรับส่งข้อมูลถึงกันได้ และยังใช้สำหรับการรับส่งสัญญาณวิดีโอที่มีความละเอียดภาพสูง (high-definition video signal) ได้ด้วยPersonal Area Network (PAN)ช่วยให้เราสามารถจัดการข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆที่เคลื่อนที่ไปมาได้ อย่างหลากหลายคิดค้นโดยนักวิจัยของ MIT รวมกับIBM โดยจะสร้างกระแสไฟฟ้าแรงต่ำ (ระดับพิโคแอมป ) ออกไปตามผิวหนังโดยเครื่องรับสัญญาณตามจุดต่างๆ ของร่างกายสามารถรับสัญญาณได้ เทคโนโลยีนี้จะเหมาะกับการใช้งานทางการแพทย์ เพราะอุปกรณ์ โดยมากจะมีการติดตั้งตามลำตัวมนุษย์พัฒนาโดย Bluetooth Special Interest Group


เครือข่ายสามารถจำแนกออกได้ หลายประเภทแล้วแต่เกณฑ์ที่ใช้ เช่น ขนาด ลักษณะการแลกเปลี่ยนข้อมูลของคอมพิวเตอร์ เป็นต้น 
โดยทั่วไปการจำแนกประเภทของเครือข่ายมีอยู่ 3 วิธีคือ

1. ใช้ขนาดทางกายภาพของเครือข่ายเป็นเกณฑ์ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
 
       
         1.1 LAN (Local Area Network) : ระบบเครือข่ายระดับท้องถิ่น
                        



เป็นระบบเครือข่ายที่ใช้งานอยู่ในบริเวณที่ไม่กว้างนัก     อาจใช้อยู่ภายในอาคารเดียวกันหรืออาคารที่อยู่ใกล้กัน เช่น  ภายในมหาวิทยาลัย  อาคารสำนักงาน 
คลังสินค้า หรือโรงงาน เป็นต้น  การส่งข้อมูลสามารถทำได้ด้วยความเร็วสูง และมีข้อผิดพลาดน้อย ระบบเครือข่ายระดับท้องถิ่นจึงถูกออกแบบมาให้ช่วยลด
ต้นทุนและเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการทำงาน และใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ร่วมกัน 

 1.2 MAN (Metropolitan Area Network) : ระบบเครือข่ายระดับเมือง
                                                         


เป็นระบบเครือข่ายที่มีขนาดอยู่ระหว่าง Lan และ Wan เป็นระบบเครือข่ายที่ใช้ภายในเมืองหรือจังหวัดเท่านั้น การเชื่อมโยงจะต้องอาศัยระบบบริการเครือข่ายสาธารณะ จึงเป็นเครือข่ายที่ใช้กับองค์การที่มีสาขาห่างไกลและต้องการเชื่อมสาขา เหล่านั้นเข้าด้วยกัน เช่น ธนาคาร   เครือข่ายแวนเชื่อมโยงระยะไกลมาก จึงมีความเร็วในการสื่อสารไม่สูง เนื่องจากมีสัญญาณรบกวนในสาย เทคโนโลยีที่ใช้กับเครือข่ายแวนมีความหลากหลาย มีการเชื่อมโยงระหว่างประเทศด้วยช่องสัญญาณดาวเทียม เส้นใยนำแสง คลื่นไมโครเวฟ คลื่นวิทยุ สายเคเบิล 

1.3 WAN (Wide Area Network) : ระบบเครือข่ายระดับประเทศ หรือเครือข่ายบริเวณกว้าง
  


เป็น ระบบเครือข่ายที่ติดตั้งใช้งานอยู่ในบริเวณกว้าง เช่น ระบบเครือข่ายที่ติดตั้งใช้งานทั่วโลก เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่อยู่ห่างไกลกันเข้าด้วย กัน อาจจะต้องเป็นการติดต่อสื่อสารกันในระดับประเทศ ข้ามทวีปหรือทั่วโลกก็ได้ ในการเชื่อมการติดต่อนั้น จะต้องมีการต่อเข้ากับระบบสื่อสารขององค์การโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่ง ประเทศไทยเสียก่อน เพราะจะเป็นการส่งข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารกันโดยปกติมี อัตราการส่งข้อมูลที่ต่ำและมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาด การส่งข้อมูลอาจใช้อุปกรณ์ในการสื่อสาร เช่น โมเด็ม (Modem) มาช่วย