แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Windows 8 Pro แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Windows 8 Pro แสดงบทความทั้งหมด

6/05/2557

การติดตั้ง Windows 8

การติดตั้ง Windows 8

ขั้นตอนการติดตั้ง Windows 8 ขออภัยกำลังจัดทำคู่มือ

comservice

comservice

comservice

comservice

comservice

comservice

comservice

image001

comservice

comservice

comservice

comservice

comservice

comservice

comservice

comservice

comservice
comservice
comservice


comservice

การ Activated  ด้วยไฟล์ .bat ทำไฟล์เองได้ง่ายๆ คือเปิด notepad แล้วคัดลอก 2 บรรทัดนี้ไปใส่ ใส่คีย์แทน xxxxx จากนั้นเซฟเป็น .bat
--------------------------------------------------------------------------------------------
slmgr.vbs -atoslmgr.vbs -ipk xxxxx-xxxxx-xxxxx-xxxxx-xxxxx
slmgr.vbs -ato
--------------------------------------------------------------------------------------------
การ Activated ทำได้ง่ายคือนำไฟล์ .bat ไปเปิดในเครื่องที่ติดตั้ง Windows8 เสร็จเรียบร้อยแล้ว

2/10/2556

รีวิว ระบบปฏิบัติการ Windows 8 อีกขั้น ของระบบปฏิบัติการ ที่รวมประสบการณ์การใช้งานทั้ง PC และ Tablet เข้าด้วยกัน

[31-ตุลาคม-2555] ปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบปฏิบัติการ Windows นั้นยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด และแน่นอนว่า ทุกครั้งที่มีการเปิดตัว Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ ย่อมต้องได้รับความสนใจมากเป็นธรรมดา ซึ่งระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดอย่าง Windows 8 นั้น ก็กำลังเป็นที่สนใจของผู้ใช้งาน Windows มากขึ้นเรื่อยๆ และในวันนี้ ทีมงานได้มีการนำเอา การรีวิว Windows 8 จากเว็บไซต์ ต่างประเทศ​มาให้ได้ชมกัน เราลองมาดูกันว่า Windows 8 จะน่าใช้มากแค่ไหน

การติดตั้ง

สำหรับขั้นตอนการติดตั้งของ Windows 8 นั้นถือว่าทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คุณใส่แผ่นดิสก์ ที่มีตัวติดตั้งของ Windows 8 และทำตามขั้นตอนที่เห็นบนหน้าจอ ก็สามารถติดตั้งได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ระยะเวลาในการติดตั้งนั้น ยังถือว่าเร็วกว่าแต่ก่อนพอสมควรอีกด้วย
นอกจากนี้สำหรับท่านที่ต้องการอัพเกรดจาก Windows 7 ไปเป็น Windows 8 นั้นจะยังมีตัวเลือกสำหรับการแบคอัพ แอพพลิเคชั่น เพื่อนำไปใช้งานบน Windows 8 ได้อีกด้วย แต่การที่จะเลือกให้แบคอัพแอพพลิเคชั่นต่างๆเพื่อใช้งานบน Windows 8 นั้น จะทำให้การติดตั้ง ใช้เวลานานขึ้นกว่าเดิมพอสมควร
ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีขั้นตอนสำหรับ ตั้งค่าผู้ใช้ และเข้าสู่การใช้งาน Windows 8 ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนสีของ ธีม ได้ตามใจชอบ ในทุกเวลาที่คุณต้องการ ซึ่ง Interface แรกที่คุณจะได้พบหลังจากติดตั้ง Windows 8 เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น จะทำให้คุณรู้สึกถึงความทันสมัยของระบบปฏิบัติการในยุคใหม่กันเลยทีเดียว

Start Page และ User Interface

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของ Windows 8 นั่นก็คือ Startpage ที่ไม่หลงเหลือเค้าเดิม ของวินโดวส์เวอร์ชั่นก่อนหน้าเลย ซึ่งหน้าตาแบบใหม่นั้น ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วยการใช้ระบบทัช มากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไป หน้าตาของการใช้งานแบบเดิมๆ ยังคงมีอยู่บน Windows 8 อย่างแน่อนน
และในหน้า Start page นี่เอง จะประกอบด้วย Application ต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม หากคุณเคยใข้งาน Windows Phone มาบ้าง จะรู้สึกว่า Windows 8 นั้น มีการออกแบบที่ต่อยอดมาจาก Windows Phone อย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
นอกจากนี้ คุณยังสามารถจัดการไอค่อนต่างๆบน Start Page ได้อย่างง่ายดาย โดยการคลิกที่ไอค่อนค้างไว้ แล้วลากไปยังตำแหน่งต่างๆ ตามที่คุณต้องการจะจัด รวมไปถึง การคลิกขวา เพื่อโชว์เมนูต่างๆว่าเราจะสามารถทำอะไรกับไอค่อนเหล่านี้ได้บ้าง
สำหรับ จุดเด่นของ Start Page บน Windows 8 คือคุณสามารถค้นหาแอพพลิเคชั่น หรือเข้าใช้งาน แอพพลิเคชั่น ได้อย่างง่ายดาย บนอินเทอร์เฟสที่สวยงาม ซึ่งหากคุณมีหน้าจอแบบทัชสกรีน คุณจะยิ่งรู้สึกถึง ความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นไปอีก
แน่นอนว่าคุณยังสามารถกลับเข้าใช้งานในโหมด Desktop ที่คุณคุ้นเคย ซึ่งหน้าตานั้นจะมีความคล้ายคลึงกับ Windows 7 อย่างมาก แต่คุณสามารถสลับไปยัง Start Page ได้ทุกเวลาที่ต้องการ แต่สำหรับการใช้งานในโหมด Desktop นั้นจะมีความแตกต่างจากการใช้งานจากหน้า Start Page อย่างเห็นได้ชัด
ยกตัวอย่างเช่น การ ตั้งค่าต่างๆใน Setting หากคุณใช้งานบน Desktop Mode อินเตอร์เฟสก็จะเป็นแบบที่คุณคุ้นเคยบน WIndows 7 แต่หาก ต้องการตั้งค่าที่ Start Page จะให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังใช้ Tablet ที่มีเมนูการตั้งค่าที่เหมาะสำหรับการ ทัชเป็นอย่างมาก

แอพพลิเคชั่นสำหรับ Windows 8

แอพพลิเคชั่นมากมายที่ถูกติดตั้งมาพร้อมกับ Windows 8 ยกตัวอย่างเช่น แอพพลิเคชั่น Mail ที่จะช่วยจัดการเกี่ยวกับอีเมลล์ของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยคุณสามารถใช้งานร่วมกับอีเมลล์ใดๆก็ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น hotmail คุณสามารถใช้ Gmail, Yahoo หรือ อีเมลล์อื่นๆได้ตามต้องการ
แอพพลิเคชั่นอีกตัวที่น่าสนใจนั่นก็คือ Calendar ที่คุณจะสามารถบันทึกข้อมูลสำคัญๆ ลงในปฏิทิน นอกจากนี้ ตัวแอพพลิเคชั่นเองยังมีการ Intergrate กับ Google Calendar อีกด้วย หากคุณใช้งาน Google Calendar อยู่ ตัวแอพพลิเคชั่น จะทำการ Sync ข้อมูลเข้ามาให้อัตโนมัติ
และแอพพลิเคชั่น Messaging สำหรับขาแชท หากคุณเป็นคนนึงที่เล่น MSN เป็นประจำ แต่ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถแอด Account Facebook หรือ โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอื่นๆที่รองรับ เพื่อใช้งานสำหรับการแชท โดยเฉพาะ Facebook Chat ได้อีกด้วย
Wather Apps ก็ถือว่าออกแบบมาได้อย่างสวยงามเหมาะมากสำหรับการเปิดทิ้งไว้ดู เพลินๆ ยามว่าง โดยแอพพลิเคชั่นนี้ จะทำการพยากรณ์อากาศล่วงหน้า ในสถานที่ต่างๆแบบ Real-Time
แอพพลิเคชั่นสำหรับเช็คข่าวสาร ก็มีมาให้พร้อมสำหรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น News, Financial, และ Sports Apps โดยจะมาพร้อมกับอินเทอร์เฟสที่สวยงาม คุณสามารถติดตามข่าวสารต่างๆได้อย่างง่ายดาย ผ่าน Windows 8
สำหรับ Xbox Music นั้น คุณยังสามารถดาวน์โหลดเพลงฮิต ติดชาร์จ มาฟังได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึง Xbox Video ที่จะมี หนังต่างๆให้คุณได้เลือกซื้อ อีกทั้งยังมีรายการทีวีให้เลือกชมกันอีกมากมาย
และแน่นอน Windows 8 มาพร้อมกับ Windows 8 Store ที่คุณสามารถซื้อหรือดาวน์โหลด Application เจ๋งๆที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับ Windows 8 ได้อย่างลงตัว จะให้เปรียบเทียบก็คงจะเหมือนกับ Appstore บน iOS หรือ PlayStore ของ Google นั่นเอง

ประสิทธิภาพของ Windows 8

เรียกได้ว่าประสิทธิภาพของ Windows 8 นั้นดีขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น หากคุณใช้ Search Bar ของ Windows 8 คุณจะรู้สึกว่า มันเร็วกว่าการค้นหาไฟล์หรือโปรแกรมบน Windows 7 อย่างมาก
นอกจากนี้ในเรื่องของความเร็วในการ Boot เครื่องของ Windows 8 นั้นยังทำได้เร็วกว่าพอสมควร ซึ่งจากการจับเวลาการ Boot ของ Windows 8 จะใช้เวลาประมาณ 15 - 20 วินาที ในขณะที่ Windows 7 นั้นจะใช้เวลาประมาณ 30-40 วินาทีเลยทีเดียว ยิ่งถ้าคุณมี อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ SSD แล้วล่ะก็ คุณจะรู้สึกว่ามันรวดเร็วจนน่าตกใจเลยทีเดียว

สรุป

ว่ากันว่า ถึงแม้ว่า Windows 8 จะมีีความน่าใช้งานมากแค่ไหน แต่ Windows 7 ยังถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการ ที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบัน ซึ่งน่าจะครองตำแหน่งนี้ไปด้วยระยะเวลายาวนานอีกพอสมควร เนื่องจากผู้้ใช้หลายคน อาจจะยังไม่มีความจำเป็นที่จะเปลี่ยน และอาจจะไม่อยากที่จะต้องเริ่มต้นสร้างความเคยชินใหม่ กับระบบปฏิบัติการใหม่
แต่ในความเป็นจริงแล้ว Windows 8 นั้นถือว่า Microsoft นั้นออกแบบมาได้อย่างทันสมัย และง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น คุณยังคงสามารใช้งานในโหมด Desktop ที่คุณถนัด และ คุณยังสามารถสลับไปใช้ การแสดงผลแบบใหม่ที่สวยงาม ในเวลาที่คุณต้องการ
นอกจากนี้ ความเร็วและความสเถียรที่มากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านั้น ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ Windows 8 นั้นมีควาวมน่าสนใจมากขึ้น และแน่นอนว่า เมื่อคุณได้ลองใช้งานจริง คุณอาจจะติดใจกับหน้าตาแบบใหม่ของ Windows 8 จนอาจจะไม่อยากกลับไปใช้ของเดิมอีกเลยก็เป็นได้

Windows 8 จะเหมาะ หรือ ไม่เหมาะสำหรับทุกคน

Pic_283786


ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 8 พร้อมกันทั่วโลก 26 ตุลาคมนี้ หากมองเผินๆ มันคือ โอเอสตัวต่อมาจาก Windows 7 คนส่วนหนึ่งคิดว่า อีกสักพักเราก็คงเปลี่ยนจาก Windows 7 มาเป็น Windows 8 ตามวงรอบการอัพเกรด แต่การคิดแบบนี้มันผิด!!

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้มีจุดประสงค์หรือเป้าหมายอันใดจะโจมตี Windows 8 นะครับ แต่ในฐานะคอลัมนิสต์ด้านไอทีที่ลองใช้ Windows 8 มาพักใหญ่ๆ แล้ว ผมคิดว่าเราควรจะตรงไปตรงมากับผู้บริโภค ซึ่งในที่นี้ก็คือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์สักหน่อย

ข่าวใหญ่ที่สำคัญในรอบเดือนนี้คงเป็นข่าวว่าไมโครซอฟท์พัฒนา Windows 8 เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่มันยังไม่ขายจริงเพราะไมโครซอฟท์จะต้องส่ง Windows 8 ให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ทั้งหลายนำไปติดตั้งบนเครื่องเสียก่อน และจะเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลก 26 ตุลาคมนี้ ซึ่งตอนนั้นคงเป็นข่าวใหญ่โตแน่นอน

ถ้ามองเผินๆ Windows 8 ถือเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดจากไมโครซอฟท์ นับรุ่นต่อจาก Windows 7 ที่หลายคนคงใช้งานกันอยู่แล้ว ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดธรรมเนียม อีกสักพักเราก็คงเปลี่ยนจาก Windows 7 มาเป็น Windows 8 ตามรอบของการอัพเกรดทั่วๆ ไป

ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยว่า รอบนี้มันเป็นวิธีคิดที่ผิดครับ

Windows 8 นับรุ่นต่อจาก Windows 7 ก็จริง ตัวเลขเพิ่มมาอีกแค่หนึ่ง แต่คราวนี้ไมโครซอฟท์ปฏิวัติตั้งแต่ฐานราก จนเราอาจงงงวยว่าตกลงนี่มันเป็น “วินโดวส์” ที่เราคุ้นเคยมาหลายสิบปีจริงหรือเปล่า?

คอลัมน์ตอนนี้ผมจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดครับ



ก่อนอื่นขอย้อนความสักเล็กน้อยว่า “วินโดวส์” ของไมโครซอฟท์ที่สืบทอดกันมายาวนานนั้นใช้วิธีการติดต่อกับผู้ใช้ที่เรียกว่า “เดสก์ท็อป” ซึ่งประกอบจากไอคอน หน้าต่าง เมนู ดังที่เราคุ้นเคยกันดี ผู้ใช้จะสั่งงานวินโดวส์ด้วยเมาส์และคีย์บอร์ด และดูผลลัพธ์จากหน้าจอ

วินโดวส์ใช้แนวทางแบบนี้มาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง เราเห็นการเปลี่ยนผ่านจาก Windows 95 มาเป็น Windows XP และไล่มาจนถึง Windows 7 ถึงจะมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามามากมาย เปลี่ยนโฉมหน้าตาให้สวยหรู มีแสงเงาสวยงาม แอนิเมชั่นพลิ้วไหวสักแค่ไหน แก่นของมันก็ยังใช้แนวคิดแบบ “เดสก์ท็อป” เช่นเดิม

แต่ยุคสมัยของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจอสัมผัส เริ่มคุกคามจนไมโครซอฟท์ต้องปรับตัว และ Windows 8 ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ไมโครซอฟท์ออกแบบระบบปฏิบัติการใหม่หมดเพื่อรองรับการสั่งงานด้วยนิ้วสัมผัสแบบใหม่

ไมโครซอฟท์เลือกเก็บ “เดสก์ท็อป” แบบเดิมเอาไว้ (ของมันยังใช้ได้ดีก็ไม่ควรทิ้ง) และสร้างวิธีการติดต่อกับผู้ใช้แบบใหม่ขึ้นมาอีกอันหนึ่ง โดยออกแบบให้เน้นการสั่งงานด้วยนิ้วเป็นหลักจริงๆ ผลคือหน้าจอแบบใหม่ที่ไมโครซอฟท์เรียกว่า “เมโทร” (Metro ชื่ออย่างเป็นทางการอาจเปลี่ยนแปลงได้)

เจ้า Metro คือสี่เหลี่ยมสีสันสดใสพร้อมไอคอนโทนสีเดียว ที่ไมโครซอฟท์นำมาโปรโมทอยู่บ่อยๆ นั่นล่ะครับ นี่คืออนาคตที่ไมโครซอฟท์กำลังจะมุ่งไป


หน้าจอ Start Screen แบบใหม่ของ Windows 8 ที่ใช้การออกแบบแนว Metro


ตัวอย่างแอพดูหุ้นบน Windows 8 ที่ใช้การออกแบบแนว Metro

Windows 8 เพิ่มโหมดการทำงานแบบ Metro เข้ามา เรามีหน้าจอใหม่ที่เรียกว่า Start Screen ใช้แทน Start Menu แบบเดิม หน้าจอนี้จะรวมไอคอนของโปรแกรมต่างๆ ที่สามารถขยับไปมาได้ แสดงสถานะอัพเดตได้ตลอดเวลา (ถ้าใครเคยจับมือถือตระกูล Windows Phone มาก่อน มันใช้แนวคิดแบบเดียวกันเป๊ะเลย)

นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังเพิ่ม “แอพ” แบบใหม่ที่ทำงานเต็มหน้าจอเหมือนแอพบนไอแพดหรือแอนดรอยด์ แอพพวกนี้ออกแบบด้วยแนวทาง Metro เน้นการใช้งานบนจอสัมผัสที่สั่งงานด้วยนิ้ว ไม่เน้นคีย์บอร์ดและเมาส์

ทั้งหมดรวมกันเป็น Windows 8 ครับ สรุปสั้นๆ อีกรอบว่า Windows 8 มีโหมดการทำงาน 2 แบบคือ เดสก์ท็อปแบบเดิม รันโปรแกรมเก่าๆ ของวินโดวส์ได้หมด และ Metro แบบใหม่ ที่ต้องใช้แอพแบบใหม่เท่านั้น

ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างโหมดเดสก์ท็อปกับ Metro ได้ตามต้องการ

ปัญหาคือ Metro ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเมาส์และคีย์บอร์ด ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะทำงานกับเมาส์และคีย์บอร์ดได้ ผลก็ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แถมไมโครซอฟท์ยัง “หักดิบ” ตัด Start Menu ของเดิมที่ออกแบบมาสำหรับเมาส์และคีย์บอร์ดทิ้งไป คนที่อยากเรียกโปรแกรมของวินโดวส์เดิมๆ ขึ้นมาทำงาน จำเป็นต้องเข้าไปยังหน้าจอ Start Screen (ที่ออกแบบด้วย Metro เพื่อนิ้วสัมผัส) เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะใช้เมาส์และคีย์บอร์ดก็ตามที

คนที่ย้ายจาก Windows 7 มายัง Windows 8 ย่อมพบอุปสรรคนี้แน่นอน และผมเชื่อว่าส่วนใหญ่จะไม่ชอบ บางคนอาจถึงขั้น “สาปส่ง” ไมโครซอฟท์ด้วยซ้ำ

นี่จึงเป็นที่มาของชื่อคอลัมน์ตอนนี้ว่า “Windows 8 ไม่เหมาะสำหรับทุกคน” นั่นเองครับ

อย่างที่บอกไปแล้วว่า Windows 8 ออกแบบมาโดยให้จอสัมผัสเป็นพระเอก อุปกรณ์ที่เหมาะกับมันจึงเป็นพวกแท็บเล็ตมากกว่าคอมพิวเตอร์จอไม่สัมผัส (ทั้งโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ) อธิบายแบบง่ายๆ ได้อีกว่าไมโครซอฟท์ตั้งใจออกมาชนกับไอแพดนั่นแหละ

แต่เนื่องจากไมโครซอฟท์มีระบบเดสก์ท็อปแบบเดิมที่แข็งแกร่ง ใช้เป็นจุดขายเหนือไอแพดของแอปเปิลได้ (ผมเชื่อว่าลึกๆ แล้วคนใช้ไอแพดก็อยากให้มันใช้ Microsoft Office ตัวเต็มของไมโครซอฟท์ได้ เอาไว้ทำงานเอกสารยามต้องใช้) ไมโครซอฟท์เลยขายพ่วง “เดสก์ท็อป” มาด้วย

ขายพ่วงเฉยๆ ไม่พอ ไมโครซอฟท์ดันทำเรื่องให้มันซับซ้อน (อันนี้ต้องโทษไมโครซอฟท์นะครับ) แยก Windows 8 ออกเป็น 2 รุ่นใหญ่ๆ คือ รุ่นที่มีเดสก์ท็อปพ่วงมาด้วย กับรุ่นที่ไม่มี


แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ของ Windows 8 รุ่นต่างๆ

จากแผนภาพจะเห็นกรอบสีน้ำเงินที่ผมวาดเอาไว้ อันนี้คือ Windows 8 รุ่นสมบูรณ์ สามารถทำงานได้ทั้งโหมดเดสก์ท็อปและ Metro รองรับโปรแกรมยุคปัจจุบันอย่าง Photoshop, Firefox, AutoCAD หรือเกม WarCraft ครบถ้วน (อะไรที่ทำงานบน Windows 7 ได้จะไปทำงานบนเดสก์ท็อปของ Windows 8 ได้ด้วย) มันแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยคือรุ่นมาตรฐาน (Standard) และรุ่นมืออาชีพ (Professional) ซึ่งมีฟีเจอร์ต่างกันไม่มาก ผมจะไม่ลงรายละเอียดในที่นี้เพราะจะยาวเกินไป

Windows 8 รุ่นสมบูรณ์ในกรอบสีน้ำเงิน ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ซีพียูของอินเทลเท่านั้น คอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบันทุกตัวอยู่ในหมวดนี้ ดังนั้น คนที่มีโน้ตบุ๊กหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่อยากใช้ Windows 8 จะต้องเลือกซื้อ Windows 8 Standard หรือ Pro มาติดตั้งเอง (ซึ่งผมอธิบายไปแล้วว่าอุปกรณ์พวกนี้ทำงานกับ Windows 8 ได้ไม่ดีเท่าไร)

อย่างไรก็ตาม นอกจากโน้ตบุ๊กหรือคอมตั้งโต๊ะแล้ว เราจะเริ่มเห็นอุปกรณ์แบบใหม่ๆ ที่เป็นลูกผสมระหว่างแท็บเล็ตกับโน้ตบุ๊ก นั่นคือหน้าจอสามารถถอดออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ และถ้าต้องการพิมพ์งานหรือใช้งานเมาส์-คีย์บอร์ด ก็สามารถ “ประกอบร่าง” เข้ากับแผ่นคีย์บอร์ดกลายเป็นโน้ตบุ๊กธรรมดาได้ด้วย

อุปกรณ์แบบใหม่นี้จะเรียกว่า “แท็บเล็ตแบบไฮบริด” ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีใครทำออกมาขาย (รอ Windows 8 เปิดตัวเสร็จก่อน) ผมมองว่าเจ้านี่ล่ะครับคือไม้ตายของ Windows 8 เพราะมันรองรับทั้งสองโหมดการทำงาน ถ้าถอดมาแต่จอก็ใช้งานแอพแบบ Metro เหมือนกับใช้ไอแพดหรือแท็บเล็ตแอนดรอยด์ แต่เมื่อต้องทำงานจริงจังก็ประกอบร่างเป็นโน้ตบุ๊ก ใช้งาน Photoshop หรือเล่นเกมได้สบาย

แต่นั่นยังไม่จบครับ ไมโครซอฟท์ยังมี Windows 8 ชุดเล็ก ที่ทำงานได้เฉพาะโหมด Metro เอามาชนกับแท็บเล็ตที่วางขายอยู่ในท้องตลาดตอนนี้ด้วย ไมโครซอฟท์เรียกมันว่า Windows RT โปรดจำชื่อนี้ไว้ดีๆ เพราะจะได้ยินอีกบ่อยมากในอนาคต

Windows RT ออกแบบมาสำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ต้องเป็นหน่วยประมวลผลตระกูล ARM แบบเดียวกับที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทุกวันนี้ใช้งานอยู่ (รวมถึงไอโฟนและไอแพดด้วย) มันตัดโหมดการทำงานแบบเดสก์ท็อปออกไปเพื่อให้เบาเครื่องและประหยัดแบต ส่วนแอพที่เป็น Metro นั้นก็ออกแบบมาสำหรับจอสัมผัสอยู่แล้ว น่าจะทำงานได้ดีเมื่อใช้กับแท็บเล็ต

ดูไปแล้วเหมือนว่ามันจับตลาดเดียวกับไอแพดและแท็บเล็ตแอนดรอยด์ทั้งหลาย ซึ่งหลายคนอาจตั้งคำถามว่าถ้ามีไอแพดอยู่แล้ว ทำไมเราต้องเปลี่ยนไปใช้แท็บเล็ต Windows RT กันด้วยเล่า

ไมโครซอฟท์มีคำตอบเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว โดยการแถม Microsoft Office 2013 ตัวใหม่ล่าสุดมากับ Windows RT ทุกตัว (จริงๆ อาจจะเรียกได้ว่าคิดราคารวมมาแล้วก็ได้) จุดขายของ Windows RT จึงเป็นแท็บเล็ตที่ใช้ Microsoft Office 2013 รุ่นพิเศษได้ด้วย (Word, Excel, PowerPoint, OneNote) รับรองว่าเปิดไฟล์เอกสารไม่มีเพี้ยน

นอกจากนี้ เพื่อการันตีว่า Windows RT บนแท็บเล็ตจะออกมาดี ไมโครซอฟท์จึงทำฮาร์ดแวร์ของตัวเองชื่อ Microsoft Surface มาขายด้วย (รายละเอียดอ่านได้จากคอลัมน์ตอนเก่าๆ) แต่ก็จะมีฮาร์ดแวร์แท็บเล็ตจากผู้ผลิตรายอื่นๆ อย่าง Dell, Lenovo, Samsung ให้เลือกซื้อด้วยเช่นกันในวันเปิดตัว


คลิปวิดีโอแสดงการทำงานของ Metro กับแท็บเล็ตแบบไฮบริด

จะเห็นว่าทั้ง Windows 8 รุ่นสมบูรณ์ (Standard, Professional) และ Windows 8 รุ่นแท็บเล็ต (Windows RT) ต่างมีกลุ่มเป้าหมายของตัวเองครับ รุ่นสมบูรณ์เน้นเจาะกลุ่มลูกผสมโน้ตบุ๊ก-แท็บเล็ต ส่วน Windows RT เจาะตลาดแท็บเล็ตโดยเฉพาะที่มีจุดขายตรงแถม Microsoft Office มาให้ด้วย

ถ้าดูกันดีๆ แล้ว กลุ่มเป้าหมายของ Windows 8 ไม่ใช่โน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในปัจจุบันแม้แต่น้อย เท่าที่ผมลองใช้ Windows 8 ทั้งบนโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมาหลายเดือน ก็พบว่าแทบไม่ต่างอะไรจาก Windows 7 เลย มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาเล็กน้อย และทำงานได้เร็วขึ้นเท่านั้น (ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดี)

โดยสรุปแล้ว ผมคิดว่า Windows 8 ไม่เหมาะสำหรับโน้ตบุ๊กและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในปัจจุบันสักเท่าไรนะครับ คนที่ใช้ Windows 7 อยู่แล้วจะใช้ต่อไปโดยไม่อัพเกรดก็ไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนคนที่จะซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ในอนาคตอาจได้ Windows 8 มาให้เลย มันก็ใช้งานได้เหมือนกันแค่อาจไม่คุ้นกับหน้าจอ Metro เท่านั้นเอง

แต่คนที่คิดจะซื้อแท็บเล็ตช่วงปลายปีนี้ อาจมองแท็บเล็ต Windows RT ที่ขายในราคาใกล้เคียงกับไอแพดและแอนดรอยด์เป็นตัวเลือกด้วย (เพราะมันใช้ Office ได้) อันนี้ต้องรอสินค้าวางขายจริงๆ ก่อนแล้วจึงจะบอกได้ว่ามันใช้แล้วเวิร์กแค่ไหน

นอกจากนี้ คนที่คิดจะซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ในช่วงนี้อาจดึงจังหวะรออีกสักระยะ เพราะสินค้าชนิดใหม่อย่างแท็บเล็ตแบบไฮบริดที่ใช้ Windows 8 Standard/Professional กำลังจะทำตลาดด้วยเช่นกัน (ไมโครซอฟท์จะออก Surface Pro สำหรับงานนี้ด้วย) ขอให้จับตาดูให้ดี เพราะถ้าสินค้ากลุ่มนี้ประสบความสำเร็จ มันอาจปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ ไปเลยก็เป็นได้


วิธีการติดตั้ง Windows 8 Pro แบบละเอียด

 วิธีการติดตั้ง Windows 8 Pro แบบละเอียด

หลังจากที่เราผ่านขั้นตอนของการซื้อ และดาวน์โหลด Windows 8 Pro มาแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการติดตั้งกันแล้วนะครับ สำหรับเพื่อนๆที่เคยติดตั้ง Windows 7 ด้วยตัวเองมาก่อนแล้วล่ะก็ บอกได้ว่า“มันง่ายมากๆเลยจอร์จ” เรียกว่า มีข้อแตกต่างนิดหน่อยเท่านั้นเอง ที่สำคัญต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมตามนี้ก่อนครับ

Windows 8 Pro Installation steps
หน้าจอติดตั้ง Windows 8 Pro
  1. USB Flash Drive หรือ DVD สำหรับติดตั้ง Windows 8 Pro ที่เราได้ทำไว้ในตอนที่แล้ว 
  2. Product Key ที่ทาง Microsoft ส่งให้เราทางอีเมล์
  3. สติ และความกล้า อย่าได้กลัวที่จะลงมือทำเองนะครับ มันไม่ได้ยากเลย
 การติดตั้ง Windows 8 Pro 
  1. กรณีลงแบบ USB Flash Drive ให้เสียบคาไว้ก่อน แล้วเปิดเครื่อง กด F10 หรือ F12 รัวๆ รอไปเลย เพื่อเข้า Boot Menu ส่วนมาก Notebook/PC จะใช้ปุ่มนี้ จากนั้นก็ให้ไปเลือก USB Flash Drive แล้ว Enter
  2. กรณีลงแบบ DVD ที่เราไรท์ลงไปก่อนหน้านี้ ก็ทำเหมือนกันครับ เพียงแต่หลังจากที่เข้า Boot Menu แล้วให้เลือก CD/DVD
  3. ระหว่างที่กำลังบูทเครื่อง ถ้ามีข้อความ “Press any key to boot from” อะไรแบบนี้ ให้กดปุ่มอะไรก็ได้ครับ ผมชอบกด Space Bar เพราะมันใหญ่ดี
  4. จากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าจอแบบนี้ครับ  และขอแนะนำให้เลือกแบบที่โชว์อยู่นี่นะครับ
    การติดตั้ง Windows 8 อย่างละเอียด
    ภาพอาจจะไม่ค่อยชัดนะครับ ผมใช้กล้องถูกๆถ่าย
  5.  กดปุ่ม Next ไปเลย รอแป้บนึง แล้วจะมาโผล่หน้าจอ ตรงนี้ให้เราใส่ Product key ที่ส่งให้เราทางอีเมล์เข้าไปครับ จากนั้นก็กด Next
    ใส่ product key ครับ
  6. มาถึงตรงนี้ก็เช็คถูกตรงช่อง I accept the licence terms แล้วก็กด Next ต่อโลด
    Accept Installation
  7. ผมลงแบบ Clean Install นะครับ ไม่ได้ลงแบบ Upgrade ฉะนั้นก็เลือก Drive หรือ Partition ที่ต้องการลง แล้วกด Format เลยครับ ล้างให้เกลี้ยง เสร็จแล้วก็กด Next ต่อไป
    Clean Installation
  8. เริ่มทำการติดตั้งแล้วครับ รอซักพักนึงนะ (จะว่าไปมันเร็วมากครับ เร็วกว่าตอนติดตั้ง Windows 7 เยอะเลย)
    Installing windows
  9. พอมาถึงหน้านี่ก็จะเป็นการกำหนด Personalise กันละ ชอบสีไหนก็เลือกกันเอาเองครับ แล้วก็ตั้งชื่อเครื่อง PC ของคุณซะ กด Next และในหน้าจอถัดไปให้เลือก Use Express Settings นะครับ (ผมไม่โชว์รูปนะ) แต่ถ้าคุณมีเวลาว่างจะกด Customise ก็ได้ ไม่ว่ากัน
    Personalise Windows 8
  10. ตรงนี้จะสำคัญมากครับ ให้ใส่ email ของ Microsoft ลงไป แต่ถ้าไม่มีให้มองข้างล่างครับ คลิกที่ Sign in without a Microsoft account ถ้าให้ดีควรเป็นอีเมล์ที่คุณได้ลงทะเบียนซื้อ Windows 8 ไว้นั่นแหละครับ
    Sign in to your PC
  11. พอดีว่าของผมเป็นอีเมล์ของ Microsoft อยู่แล้ว มันจะให้เราใส่ Password ครับ จากนั้นก็กด Next
    enter User and Password
  12. และแล้วก็ใกล้จะได้ยลโฉม Windows 8 Pro กันแล้วครับ…..รอกันไป
    Once your PC is ready
  13. การติดตั้ง Windows 8 Pro ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ณ บัดนาว…ใครทำไม่สำเร็จบ้างเอ่ย หรือ ติดขัดตรงไหน โพสถามได้ครับ…และ “โปรดติดตามตอนต่อไป”สบายดี จ๊บข่าว
    Complet Installation Windows 8 Pro
ขอบคุณบทความจาก

http://www.rain-it.com