แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ HDMI แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ HDMI แสดงบทความทั้งหมด

4/11/2556

ทำความรู้จัก HDMI 1.4


HDMI 1.4 cable
ปัจจุบัน การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต HDMI ถือได้ว่าเป็นมาตราฐานใหม่ที่ดีมากๆ เพราะว่าสามารถได้ทั้งภาพและเสียงในสายเส้นเดียวกัน และมีคุณภาพของภาพที่สูงมากๆ ด้วย
คุณสมบัติที่น่าทึ่ง ถ้าคุณได้รู้จัก HDMI 1.4

ทำความรู้จัก HDMI 1.4

ใหม่ พัฒนาการของพอร์ต HDMI ก็มาถึงแล้ว แต่ก่อนการเชื่อมต่อได้ทั้งภาพคุณภาพสูงและเสียงคุณภาพดี ก็เพียงพอสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว แต่ปัจจุบัน HDMI มีการพัฒนาต่อยอดเข้าไปอีก ทำให้พอร์ต HDMI สามรรถทำอะไรได้มากขึ้น ลองมาดูคุณสมบัติใหม่ของ HDMI 1.4 รับรองคุณต้องทึ่งในคุณสมบัติที่หลายๆ คนต้องการ
  • คุณสมบัติ Ethernet – ด้วยสายเส้นเดียวทำให้เราสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง ภาพ เสียง และเน็ตเวิร์ค
  • รองรับคุณสมบัติแบบ 3 มิติ หรือ 3D ที่ทีวีรุ่นใหม่ๆ รองรับกัน
  • รองรับความละเอียดที่สูงขึ้น
    • 3840 x 2160 pixels ที่ระดับ 24Hz, 25Hz และ 30Hz
    • 4096 x 2160 pixels ที่ 24Hz
  • รองรับ Color Space ให้สีที่สมจริงมากยิ่งขึ้น
  • HDMI 1.4 ไม่รองรับการรุ่นเก่า
ลักษณะของสาย HDMI 1.4 จะมีหน้าตาเช่นเดียวกับ HDMI รุ่นเก่าๆ
เทคโนโลยี HDMI Ethernet Channel เป็นการรวมวิดีโอ,เสียงและข้อมูลเป็นสายเดียวกัน ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อ HDMI ผนวกกับความสามารถของระบบเครือข่ายความบันเทิงในบ้าน โดยใช้เพียงสาย HDMI ด้วยความเร็วเชื่อมต่อระหว่ากันด้วยความเร็ว 100 Mb / วินาที.


ประโยชน์สำคัญ
•    รวมวิดีโอ HD เสียงและ ข้อมูล ในสายเคเบิลเดียว
•    ทำให้ความเร็วสูงทั้งสองทิศทาง การสื่อสาร
•    ใช้ IP-based โปรแกรมผ่าน HDMI
•    ความเร็วโอนได้ถึง 100 Mb / sec
1. เพิ่มช่องสัญญาณ ethernet
ในเวอร์ชั่นนี้จะมีการเพิ่มช่องสัญญาณการเชื่อมต่อแบบ ethernet เข้าไปในสายด้วย ทำให้อุปกรณ์นั้นสามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายได้ ทำให้การอุปกรณ์ใหม่ๆ นั้นสามารถรองรับระบบอินเตอร์เน็ตได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงไม่ต้องแยกสายแลนออกมาต่างหากเหมือนที่ผ่านมา โดยความเร็วนั้นสามารถส่งได้สูงสุด 100Mbps
2. รองรับการส่งสัญญาณ 3D ที่ 1080p
ในตอนนี้เทรนด์ใหม่ที่กำลังมาคือเทคโนโลยีการมองแบบสามมิติ ซึ่ง HDMI นี้ก็รองรับเช่นกัน โดยสามารถส่ง 3d stream ควบคู่กับการส่งปกติได้ด้วย โดยจะรองรับได้ถึงระบบ full hd (1080p) ซึ่งปัจจุบันโทรทัศน์ในต่างประเทศหลายๆ ช่องเริ่มมีการแพร่ภาพแบบสามมิติแล้ว รวมถึงเกมพีซีและคอนโซลหลายๆ เกมก็มีแนวโน้มที่จะรองรับในอนาคตด้วย
3. รองรับความละเอียด โคตรสูง
ปัจจุบันนั้นเราดูทีวีกันที่ความละเอียดสูงสุดคือ 1080p แต่เจ้า HDMI 1.4 มองไปไกลกว่านั้น โดยเวอร์ชั่นใหม่นี้จะรองรับความละเอียดได้สูงสุดถึง 3840 x 2160 pixels ที่ 24Hz, 25Hz and 30Hz และ 4096 x 2160 pixels ที่ 24Hz
4. มี Audio Return Channel
ในเวอร์ชั่น 1.4 นี้อุปกรณ์ทีวี สามารถส่งสัญญาณเสียงกลับไปยัง AV Reciever ได้โดยใช้สายสัญญาณ HDMI ตัวใหม่นี้ แทนที่จะต้องใช้สายแยกเหมือนที่ผ่านมา
5. รองรับ color space ที่เพิ่มขึ้น
มีการรองรับ sYCC601, Adobe RGB, และ Adobe YCC601 เพิ่มเข้ามาเพื่อการแสดงรูปภาพที่ให้สีที่สมจริงมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ชอบถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ
6. มีหัวต่อแบบใหม่อีกสองแบบ
HDMI 1.4 เป็นครั้งแรกที่มีหัวต่อแบบ micro connector เข้ามาให้ได้ใช้กัน โดยหัวต่อแบบ micro connector นี้จะใช้ในการเชื่อมต่อเช่น โทรศัพท์มือถือ, กล้องดิจิตอล, pmp (portable media player) โดยในสเปคนั้นสายชนิดนี้เรียกว่าเป็นชนิด D ส่วนอีกแบบคือสายชนิด E ที่เรียกว่า Automotive Connection System ซึ่งจุดประสงค์นั้นจากชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าเป็นการเชื่อมต่อเพื่อกระจายสัญญาณแบบ HD ภายในยานพาหนะนั่นเอง
HDMI 1.4 Micro Connector
7. HDMI 1.4 ไม่รองรับกับอุปกรณ์รุ่นเก่า
เป็นคำกล่าวที่ออกมาจากทาง HDMI.org เองว่าฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ได้กล่าวมานี้ จะไม่สามารถเพิ่มได้โดยการอัพเฟิร์มแวร์ นั่นก็คือหมายความว่ามันจะรองรับเมื่อซื้ออุปกรณ์ตัวใหม่ที่มีิชิปที่สนับ สนุนเท่านั้น
8. ต้องซื้อทีวีใหม่เพื่อรองรับความละเอียด 4K x 2K
แน่นอนตามหัวข้อ เพราะปัจจุบันทีวีนั้นรองรับสูงสุดเพียงแค่ 1080p เท่านั้น ใครอยากได้ภาพคมกว่าันั้นก็เก็บเงินกันได้เลย
9. นอกจากนี้ต้องซื้อสายใหม่
HDMI 1.4 มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของสาย ดังนั้นหากจะใช้งานจำเป็นต้องซื้อสายใหม่ด้วย ซึ่งสายจะมีสองแบบคือ HDMI Cable with Ethernet ที่รองรับความเร็วที่ประมาณ 720p ถึง 1080i ส่วนอีกแบบคือแบบ High Speed ที่รองรับได้สูงสุดที่ 1080p, ระบบสามมิติ, และ color space ที่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญอย่าได้หวังว่าราคามันจะถูกในช่วงแรก
10. เตรียมพบกับ HDMI 1.4 ได้ในช่วงกลางปีหน้า
สำหรับผู้ใช้ตามบ้านอย่างเราๆ นั้นกว่าจะได้เห็นมาตรฐานตัวใหม่นี้ก็ในช่วงประมาณกลางปีหน้านั่นเอง โดยในตอนนี้ผู้ผลิตรายใหญ่ต่างๆ ก็เตรียมที่จะผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ออกมาสู่ตลาดกันแล้ว โดยที่ NXG ได้ทำสาย HDMI 1.4 ออกมาแล้วในรุ่นชื่อว่า Black Pearl ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีอุปกรณ์ไหนเสียบได้ก็ตาม

มารู้จักประเภทของสาย HDMI กันเถอะ


Belkin High Speed HDMI Cable with Ethernet
เดี๋ยวนี้ HDMI ซึ่งเป็นมาตรฐานในการส่งข้อมูลภาพและเสียงหลายช่องแบบดิจิตอล นั้นตอนนี้เป็นที่นิยมมากจนเห็นกันเป็นของธรรมดา ๆ ไปแล้ว แต่เท่าที่สังเกตดู พบว่าหลาย ๆ คนยังสับสนเกี่ยวกับเรื่องประเภทของสาย HDMI วันนี้ RE.V-> ก็จะเอาเรื่องนี้มานำเสนอให้ได้อ่านกันครับ

เลขเวอร์ชั่นนั้นสำคัญไฉน

มาตรฐาน HDMI นั้นเป็นมาตรฐานที่ไม่อยู่นิ่งเหมือนมาตรฐานตัวอื่น ๆ เพราะว่าทางผู้พัฒนามีการเพิ่มเติมความสามารถต่าง ๆ ลงไปในมาตรฐานอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ้า HDMI นี้เก่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบัน เวอร์ชั่นล่าสุดของ HDMI อยู่ที่ 1.4 ซึ่งมีความสามารถหลัก ๆ ที่เพิ่มเติมจากเวอร์ชั่น 1.3 อยู่ดังนี้ครับ
  • HDMI Ethernet Channel (HEC) เพิ่มช่องสัญญาณเครือข่ายความเร็วสูงสุด 100 Mbps หรือให้พูดง่าย ๆ ก็คือเพิ่มสาย LAN เข้ามาใน HDMI น่ะแหละ
  • Audio Return Channel (ARC) ทำให้โทรทัศน์สามารถส่งสัญญาณเสียงกลับไปที่ A/V Reciever ได้ เพื่อให้เสียงจากโทรทัศน์ไปออกที่ชุดลำโพงได้ (ปกติโทรทัศน์จะทำได้แค่รับสัญญาณภาพที่ต่อออกมาจาก AVR เท่านั้น)
  • รองรับระบบภาพแบบ 3D
  • รองรับวิดีโอที่มีความละเอียดระดับ 4K (4096 x 2160 พิกเซล)
  • Content Type รองรับการส่งสัญญาณประเภทของเนื้อหาจากเครื่องเล่นไปโทรทัศน์ ทำให้โทรทัศน์สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้เจ้ากับเนื้อหาได้
  • รองรับ Color Space เพิ่มเติม ซึ่งส่วนมากจะเป็น Color Space ที่ใช้ในไฟล์รูปถ่ายต่าง ๆ เช่น Adobe RGB
นอกจากความสามารถที่เพิ่มมา ก็ยังมีการกำหนดเรื่องของหัวปลั๊กแบบใหม่ ๆ และประเภทของสายที่เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งเราจะพูดถึงในหัวข้อถัดไป

ประเภทของสาย HDMI


ทาง HDMI นั้นได้เริ่มแบ่งประเภทของสายตั้งแต่ช่วงประมาณเวอร์ชั่น 1.3 ซึ่งก็คือแบบ Standard และ High Speed และในเวอร์ชั่น 1.4 เองนั้นก็ได้มีการเพิ่มชนิดของสายเข้ามาอีก ทำให้ปัจจุบันสาย HDMI มีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่
  • Standard HDMI Cable รองรับปริมาณข้อมูลในการส่งสัญญาณภาพที่ 1080i และ 720p ได้อย่างราบลื่น เหมาะกับการใช้งานกับพวกกล่องเคเบิ้ลทีวี กล่องดาวเทียม หรือเครื่องเล่นดีวีดีแบบ up-scale
  • Standard HDMI Cable with Ethernet ความสามารถเหมือนสาย Standard แต่เพิ่ม Ethernet Channel สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ HDMI-HEC
  • Standard Automotive HDMI Cable ความสามารถเหมือนสาย Standard แต่เพิ่มเติมการทดสอบให้มากกว่า เพราะสายต้องนำไปใช้ในรถยนต์ซึ่งมีการกวนกันของสัญญาณสูงกว่าการใช้งานตาม บ้าน
  • High Speed HDMI Cable รองรับปริมาณข้อมูลในการส่งสัญญาณภาพได้มากกว่าที่ 1080p ขึ้นไป และรองรับการส่งสัญญาณภาพแบบ 3D 4K และ Deep Color เหมาะกับการใช้งานกับเครื่องเล่นบลูเรย์ เครื่องเล่นเกมแบบ HD เช่น PlayStation 3
  • High Speed HDMI Cable with Ethernet ความสามารถเหมือนสาย High Speed แต่เพิ่ม Ethernet Channel เข้ามา
ซึ่งสายแต่ละประเภทนั้นจะถูกทาง HDMI ทดสอบประสิทธิภาพตามเกณฑ์ข้างบน ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้โลโก้บนตัวสินค้าได้ อย่างไรก็ตามตัวสายนั้นอาจจะมีประสิทธิภาพที่มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดที่สาย เส้นนั้นทดสอบผ่านได้ เช่น สายแบบ Standard บางเจ้าอาจจะสามารถส่งสัญญาณภาพได้ถึง 1080p ซึ่งมากกว่ามาตรฐาน แต่อาจจะไม่สามารถใช้งานกับสัญญาณภาพแบบ 3D ได้ หรือสาย HDMI บางรุ่นของบริษัท Monster ซึ่งทำสายมาให้รองรับปริมาณข้อมูลเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ จนกล้ารับประกันว่า ไม่ว่าอุปกรณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเกรดไปอย่างไร สายของ Monster จะยังใช้งานได้อยู่
แล้วเลขเวอร์ชั่นล่ะ ไม่ใช้แล้วเหรอ คำตอบมันก็ไม่ได้ใช้กันแต่แรกแล้วครับ แต่ผู้ผลิตเป็นคนเอาเลขเวอร์ชั่นไปใส่กันเอง จนทำให้คนซื้อเมื่อก่อนลืมไปเลยว่าสาย HDMI มันมีแค่ Standard กับ High Speed เท่านั้น ไม่ใช่ 1.2 1.3 หรือ 1.4 และนี้อาจจะเป็นสาเหตุให้ทาง HDMI ได้บังคับให้เหล่าผู้ผลิตสายห้ามใส่เลขเวอร์ชั่นลงในตัวสินค้า บรรจุภัณฑ์ และการโฆษณา ซึ่งผมคิดว่าเพื่อลดความสับสนในการเลือกซื้อสายให้ถูกต้องตามการใช้งาน
สรุปก็คือสาย HDMI มี 5 ประเภท และเลขเวอร์ชั่นก็ไม่ได้บอกถึงประเภทของสายครับ

รวมปัญหาที่หลาย ๆ คนมักจะถามประจำ

ผมมีเครื่อง XXX อยู่ อยากจะต่อดู 3D มีสาย HDMI รุ่นเก่าอยู่ ต้องเปลี่ยนสาย HDMI ใหม่หรือไม่
ถ้าหากสายที่ใช้เดิมนั้นเป็นสายแบบ High Speed ส่วนมากจะสามารถใช้ดู 3D ได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย และทุกฟีเจอร์ใน HDMI 1.4 นั้นหากมีสาย High Speed เดิมอยู่แล้ว แทบไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนสายใหม่เลย ยกเว้นฟีเจอร์ Ethernet Channel เท่านั้นที่ต้องใช้สายเส้นใหม่ เพราะมีการปรับปรุงตัวสายเพิ่มเติม
สาย HDMI สามารถยาวได้ที่สุดเท่าไร
ทาง HDMI ไม่ได้กำหนดความยาวมากสุดของสายเอาไว้ เพียงแต่ถ้ามีคนทำสายความยาวมาก ๆ มาแล้วผ่านการทดสอบประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดก็จะการรับรองไป จาก FAQ ของทาง HDMI นั้นได้เคยรับรองสายความยาวมากถึง 10 เมตรมาแล้ว
ใช้อุปกรณ์ที่เป็น HDMI 1.4 ต้องใช้สายที่เป็น HDMI 1.4 หรือไม่
จากข้างต้นที่ว่าตัวสายไม่มีเวอร์ชั่น จะใช้สายอะไรก็ได้ แต่เลือกประเภทของสายให้ถูกกับการใช้งานล่ะกัน
จะรู้ได้อย่างไรว่าสายที่ซื้อมานั้นได้รับการรับรองจากทาง HDMI จริง ๆ ไม่ใช่เอาโลโก้มาติดบนกล่องเท่ ๆ
แนะนำให้ซื้อสายจากบริษัทหรือผู้ผลิตที่เป็นสมาชิกกับทาง HDMI สามารถดูรายชื่อได้จากที่นี้
สาย HDMI ราคาถูกกับราคาแพงต่างกันที่ไหน
สายราคาถูกกับราคาแพงนั้นมักต่างกันที่การออกแบบหัวปลั๊ก คุณภาพของตัววัสดุที่ใช้ทำสาย และขั้นตอนการทดสอบคุณภาพต่าง ๆ สายที่แพงกว่านั้นมักจะออกแบบมาให้ตัวสายทนต่อการดึงหัวปลั๊กเข้า – ออก การขดงอของสาย การหักสายที่ตัวปลั๊กได้ดีกว่าสายราคาถูก โดยเฉพาะสายราคาถูกโนเนมที่หน้าตาอาจจะดูคล้าย ๆ สายมียี่ห้อ แต่พอใช้งานไปสักระยะก็พังคามือซะแล้ว และส่งสัญญาณได้ตามที่ระบุเอาไว้ นอกจากนี้บางบริษัทยังมีการรับประกันสินค้าให้ด้วย

More info

ใครสนใจอยากอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติม สามารถตามไปอ่านได้ที่เว็บของทาง HDMI ได้เลยครับ

"ต่อคอมพิวเตอร์เข้าทีวี" ทำอย่างไร ต่อ สาย HDMI เข้า TV

จัดให้ !!! มือใหม่มาทางนี้ "ต่อคอมพิวเตอร์เข้าทีวี" ทำอย่างไร ที่นี่มีคำตอบ

จัดให้ !!! มือใหม่มาทางนี้ "ต่อคอมพิวเตอร์เข้าทีวี" ทำอย่างไร ที่นี่มีคำตอบ

สวัสดีครับวันนี้นาย ToNy จะพาไปรับชมวิธีการต่อคอมพิวเตอร์ของคุณให้ขึ้นมาแสดงผลบนจอทีวีกัน โดยบท ความนี้เหมาะสำหรับ "มือใหม่" หรือผู้ที่เริ่มต้นใช้งานนั่นเอง ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะเคยเห็นกัน บ้างแล้วถึงประโยชน์ของมันที่ทำให้รับชมภาพแบบใหญ่จุใจกว่าจอมอนิเตอร์ที่ บ้าน ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเน็ต ท่องเว็บ นำเสนอผลงาน หรือขายของ และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่จะนำไปใช้งานกัน แต่คุณกำลังประสบปัญหานี้หรือไม่ !!!? ไม่รู้ว่าจะใช้สายอะไร เสียบเข้าช่องต่ออันไหน หรือต่อแล้วภาพไม่ขึ้นแก้ไขอย่างไรดี เราจะมาคลายข้อสงสัยนั้นกันแบบ "สั้นๆได้ใจความ" ถ้าพร้อมจะลุยแล้ว  ตามมาได้เลย

STEP 1 :: ขั้นตอนแรก ตรวจสอบว่าทีวีและคอมพิวเตอร์ของคุณมีช่องต่ออะไรบ้าง ??

 
Note :: ถ้าจะพูดกันแบบบ้านๆให้เข้าใจง่าย การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คเข้ากับทีวีของเรานั้น ต้องมีช่องต่อ Output จากคอมพิวเตอร์ไป Input ที่ทีวี เท่านั้นเองครับ ส่วนการเดินทางมาของสัญญาณบางทีไม่มีตรงๆ ก็ต้องหาตัวแปลง หรือเล่นแร่แปรธาตุว่ากันไปตามอุปกรณ์ที่เรามี

 



ช่องต่อ HDMI : ถ้า ทีวีของคุณเป็น LCD TV , LED TV, PLASMA TV แน่นอนว่าต้องมีช่องต่อแบบ HDMI ( High-Definition Multimedia Interface ) มาให้อยู่แล้ว ให้เราใช้ สาย HDMI เชื่อมต่อเข้าไปโดยตรงเลยระหว่างคอมพิวเตอร์และทีวี เป็นวิธีที่ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ง่ายที่สุด และที่สำคัญ มือใหม่บางท่านอาจจะไม่รู้ว่าเจ้าสาย HDMI มันรวมทั้งภาพและเสียงไว้ในเส้นเดียวกันซะด้วย ไม่ยุ่งยากอย่างที่ คิด ตัวอย่างเช่นเราเล่นเกมส์ในคอมพิวเตอร์แล้วใช้สาย HDMI ต่อแสดงผลออกจอทีวี เสียงในเกมส์ที่เราเล่นก็จะออกที่ลำโพงของทีวีด้วย !!! และในปัจจุบันนี้การ์ดจอของคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ก็จะมีช่องต่อ HDMI Out มาให้แล้วเช่นกัน ตั้งแต่รุ่นที่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหลายๆพัน หรือถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คปัจจุบันก็มีช่องต่อ HDMI Out มาให้เช่นกัน

ข้อดีอีกหนึ่งอย่างของการใช้สาย HDMI คือการปล่อยสัญญาณแบบ Digital To Digital ทำให้คุณภาพของภาพและเสียงที่ได้นั้นไม่ถูกลดทอนลงไปเหมือนสายชนิดอื่นเช่น สาย VGA ที่เป็น Analog ก็ต้องผ่านการแปลงจาก Digital เป็น Analog ก่อน อะไรก็ตามที่ถูกแปลงสัญญาณ คุณภาพของมันก็ต้องมีลดลงบ้างไม่มากก็น้อย จริงไหมครับ?

Recommended :: ด้วย คุณภาพอย่างที่ผมบอกไป จึงแนะนำให้ทุกท่านเชื่อมต่อด้วยวิธีนี้ครับ เหมาะมากๆกับการดูหนังความละเอียดระดับ HD ( High-Definition ) 1080P รวมทั้งให้คุณภาพเสียงที่เยี่ยมยอดอีกด้วย
 

ตัวอย่างช่องต่อ HDMI จาก LCD TV


สาย HDMI LCDTVTHAILAND


เปรียบเทียบระหว่างภาพ HD ที่ใช้สาย HDMI กับ SD ที่ใช้สายธรรมดา

ช่องต่อ VGA PC :: สำหรับ อีกสายหนึ่งที่มีให้เลือกใช้ในการเชื่อมต่อกับทีวี ก็คือสาย VGA ( ส่วนใหญ่จะเป็นหัวสีน้ำเงิน ) ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยสามารถเชื่อมต่อเข้าที่ด้านหลังทีวีได้ทันที เราจะพบเจอได้ทั่วไปในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คแทบทุกรุ่นและคอมพิวเตอร์ PC ที่ใช้การ์ดจอแบบ Onboard หรือการ์ดจอรุ่นเก่าๆ โดยสาย VGA นี้จะปล่อยสัญญาณแบบ Analog ก็เลยต้องแปลงจาก Digital เป็น Analog และกลับเป็น Digital ออกทีวีอีกทีหนึ่ง หลายขั้นตอนกว่า จึงทำให้คุณภาพของภาพที่ต่อออกมาด้อยกว่าแบบแรกครับ และสาย VGA นี้จะส่งสัญญาณภาพได้อย่างเดียวนะครับ ถ้าจะให้เสียงออกต้องเล่นไสยศาสตร์กันสักหน่อย ไม่ใช่แล้วครับ !!! วิธีที่ถูกต้องคือใช้สายแจ๊คแบบ 3.5 mm. ทั้งสองหัว เชื่อมต่อออกไประหว่างคอมพิวเตอร์และทีวีเท่านั้นเอง
 

ตัวอย่างช่องต่อ VGA ( PC ) ที่ด้านหลังทีวีครับ


สาย VGA


ช่องต่อตรงกลางไว้สำหรับ VGA ครับ ซึ่งหน้าตาแบบเดียวกับที่อยู่บนทีวี 

DVI to HDMI  ไม่ยาก !! สำหรับคอมพิวเตอร์แบบ PC ที่ใช้กันตามบ้านเรานั้น มีบางรุ่นที่การ์ดจอเป็นแบบ DVI  แต่ว่าทีวีนั้นไม่มีช่องต่อแบบ DVI ทำให้เราต้องพึ่ง "ตัวแปลง" ชนิดต่างๆ ทั้ง DVI to VGA หรือ DVI to HDMI  รูปแบบของการแปลงนั้นมีทั้งสายสำเร็จรูป หรือเป็น อแดปเตอร์ อันนี้ก็แล้วแต่ทรัพยากรณ์แถวบ้านท่านที่จะสามารถหามาได้เลยครับ อ้อ.. ข้อแตกต่างของ DVI กับ HDMI นั้น ในเรื่องภาพแทบจะไม่ต่างกัน เพียงแต่เจ้า DVI นั้นจะไม่ได้รวมการส่งสัญญาณ "เสียง" เอาไว้ด้วยครับ

 

สาย DVI to HDMI



อแดปเตอร์แปลงจาก DVI ไปเป็น HDMI

 
ไม่ได้ใช้สาย HDMI ทำอย่างไรให้เสียงไปออกทีวี ??
สำหรับ "มือใหม่" บางคนที่ไม่ได้ใช้สาย HDMI ในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับทีวี มักจะพบกับปัญหานี้ คือต้องการให้เสียงไปออกที่ลำโพงของทีวีนั่นเอง วิธีการที่ง่ายที่สุด  (ถ้าไม่นับการต่อผ่านแอมป์) ก็คือ

- ใช้สายชื่อมต่อแบบ Mini 3.5 มม. จากคอมพิวเตอร์ไปเข้าที่ Audio ขาว/แดง บนทีวีนั่นเอง

สายเชื่อมต่อที่เรียกว่า Mini To RCA หรือแบบ 3.5 มม. ที่นิยมเรียกกัน


ต่อเข้าช่องนี้ไปเลยครับ Audio IN สีขาวแดง