11/27/2555

VPS,Hosting on SSD แรงจริงหรือมั่วนิ่ม !?

เนื่องจากมีคนสอบถามมามากมาย เกี่ยวกับการเลือกใช้งาน VPS และสับสนว่า VPS ที่มีคำโฆษณาว่า ใช้ SSD เร็ว มันจริงหรือ ?? ผมบอกได้เลย ว่า มันเร็วจริง “แต่” ต้องดูด้วยว่า มันเป็นยังไง ซึ่งในบทความนี้ขอเกริ่นคร่าวๆเริ่มตั้งแต่การทำงานของ Hard Disk แบบที่ใช้กันทั่วไป (Sata II, Sata III) หรือแบบจานหมุน ก่อนเลยและกันว่ามีการทำงานยังไง
วิธีการทำงานของ Hard Disk คร่าวๆ


HDD
ภาพ Hard Disk แบบจานหมุน
HDD sector

การแบ่งพื้นที่และการเก็บข้อมูลบนจาน
            Hard Disk แบบจานหมุน ความเร็วของมันขึ้นอยู่กับรอบของ Hard Disk ซึ่งแบบจานหมุนทั่วไป คือ 5400 rpm (round per minute) และ 7200 rpm ซึ่ง Hard Disk แบบนี้จะมีค่าของ MTBF (ความทนทาน หรืออายุการใช้งาน) ที่สูง พังยาก ยิ่งถ้าเครื่องไม่ได้กระแทก ไม่ได้ดับบ่อยๆ ใน Hard Disk บางรุ่นอาจจะอยู่ได้ถึง 120,000 ชั่วโมง หรือประมาน 13 ปีเลยทีเดียว ซึ่งโดยปกติแล้ว ขีดจำกัดของ Computer ที่ไม่สามารถเร่งความเร็วให้ได้สูงกว่าที่เป็นอยู่ ก็คือ Hard Disk นี่เอง เนื่องจาก Hard Disk ที่มีจำนวนรอบน้อยๆ อย่าง 5400,7200 rpm นั้น กว่าจะอ่านข้อมูล หรือว่าหาข้อมูลที่อยู่ในจานแม่เหล็กได้นั้น จะใช้เวลาค่อนข้างที่จะนาน เพราะในจานๆนึง จะแบ่งเป็นบล๊อคๆ ที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูล และเมื่อขนาดของ Hard Disk ใหญ่ จานก็จะมีความกว้าง บล๊อคก็จะกว้างตามไปด้วย ทีนี้ในการหาข้อมูล ตัวหัวอ่านก็จะต้องเลื่อนไปเรื่อยๆตามบล๊อคของจานหมุน จนกว่าจะเจอ นี้หละคือขีดจำกัดของ Hard Disk แบบทั่วไป ซึ่งถ้างานบางงานเราต้องการ Access Time (ระยะเวลาในการเข้าถึงข้อมูล) ที่รวดเร็วมากๆ ตัว Hard Disk แบบทั่วไปนี้ถือว่าสอบตกเลยทีเดียวเพราะเหตุนี้ จึงได้เกิด Hard Disk อีกสองประเภทที่เห็นได้ตามท้องตลาด คือ Hard Disk แบบ SAS หรือ Near-line SAS และอีกแบบคือ SSD ซึ่ง Hard Disk แบบ SSD นี่แหละ คือหัวข้อของวันนี้


            SSD (Solid State Drive) เป็น Hard Disk ที่ไม่ได้มีการเก็บข้อมูลอยู่บนจานแม่เหล็ก ซึ่งมีหน่วยความจำเป็นแบบ Flash Memory ซึ่งทำให้การอ่านข้อมูล และการเขียนข้อมูลนั้นรวดเร็วกว่าแบบจานหมุน เพราะไม่ต้องรอระยะเวลาในการค้นหาข้อมูลทีละ Sector แต่จะค้นหาข้อมูลใน Flash Memory ได้ทันที ลดขีดจำกัดของ Hard Disk แบบจานหมุน ที่ถ้ามีรอบที่เยอะ ก็จะเกิดความร้อนเยอะ ซึ่งเจ้า SSD นี้ มีอายุการใช้งานค่อนข้างที่จะน้อย (สำหรับ SSD แบบทั่วไปที่เห็นกันได้ง่ายๆตามท้องตลาด จะมีอายุการใช้งานเพียง 1-5 ปีเท่านั้น) และ SSD มีราคาที่สูง แต่ขนาดความจุค่อนข้างน้อย จึงไม่เหมาะที่จะใช้งานในการเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญซึ่งถ้าต้องการที่จะ ใช้กันจริงๆ ก็ควรที่จะมีการ Backup ข้อมูลไปยัง Hard Disk แบบ SATA เพื่อเป็นการ Backup ข้อมูลเก็บไว้ทุกๆวัน
จากที่อ่านมา ดูเหมือนมันจะมีแต่ข้อดีนี่นาเจ้า SSD แถมเดี๋ยวนี้ราคา SSD เดี๋ยวนี้ก็ไม่แพงแล้วด้วย ดูราคากันดีกว่า


SSD Price
OCZ VERTEX 3
60 GB SATA III (read up to 535/s,write up to 480/s) 2690
OCZ VERTEX 3
120 GB SATA III (read up to 550/s, write up to 500/s) 3990
OCZ VERTEX 3
240 GB SATA III (read up to 550/s, write up to 520/s) 8590
OCZ AGILITY 4 64 GB SATA III (read up to 300/s, write up to 200/s) 2390
OCZ AGILITY 4 128 GB SATA III (read up to 400/s, write up to 300/s) 3690
OCZ AGILITY 4 256 GB SATA III (read up to 400/s, write up to 400/s) 7500
OCZ VERTEX 4 64 GB SATA III (read up to 460/s, write up to 220/s) 5Y 2990
OCZ VERTEX 4 128 GB SATA III (read up to 550/s, write up to 420/s) 5Y 4450
OCZ VERTEX 4 256 GB SATA III (read up to 550/s, write up to 465/s) 5Y 9000
จากราคาข้างต้น จะเห็นได้ชัดว่า เดี๋ยวนี้ราคา SSD ที่มีขนาดความจุที่ 256 GB นั้นมีราคาแค่ 9,000 บาทเท่านั้นเอง (จากแต่ก่อนขนาดเท่านี้ราคาจะอยู่ที่ 2 หมื่นบาทอย่างต่ำ) แต่มันเป็นระดับ Desktop Grade นะครับ ซึ่งถ้าจะเอาจริงๆ ระดับ Server Grade แพงหูฉี่เลยล่ะครับ ทีนี้เรามาดู HDD SATA กันบ้างดีกว่า ซึ่งผมจะขอเลือกระดับ Enterprise มาโชว์เท่านั้น


HDD SATA Price


WD 5003 ABYX 500 GB SATA II 64 MB RE4 Enterprise 5-Y 3390
WD 1003 FBYX 1 TB SATA II 64MB RE4 Enterprise 5-Y    4350
จากราคาจะเห็นได้ชัดว่า ถ้าเราเทียบกันตามพื้นที่ที่ได้รับต่อราคาแล้วนั้น SSD โคตรรรรแพงเลยใช่มั๊ยละครับ เรามาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่าว่า สรุปแล้ว Hosting on SSD หรือ VPS on SSD มันดีจริงหรือ?

ประเด็นที่ถกเถียง

สำหรับที่ผมเก็บข้อมูลมา การใช้ SSD on Server จะมีทั้งสิ้น 3 ประเภท คือ
1. SSD run OS และ SATA เป็น Storage
สำหรับคนที่ทำแบบนี้ ทางทฤษฏีคือมันแทบจะไม่มีผลใดๆ นอกจากการทำให้ Boot OS เร็วกว่าปกติ และมีโอกาสเสี่ยงในการที่ Main OS จะพังเร็วกว่าปกติเพราะมีอายุการใช้งานที่น้อยซึ่ง แต่บางคนก็ทักว่า “อ้าว มันก็เป็น SSD นะ” แต่อย่าลืมว่า ข้อมูลที่คุณค้นหา และเก็บข้อมูลนั้น มันอยู่บน Hard Disk ที่เป็น SATA ซึ่งจะหาข้อมูลอะไร มันก็ต้องไปหาจาก Hard Disk อีกที สรุปแล้ว ความต่างแทบจะมองไม่เห็นในการใช้งานจริงเลย เพราะเครื่อง Boot บ่อยๆ ถือว่า Availability ไม่ผ่าน
2. SSD run OS and Storage
สำหรับการทำงานแบบนี้ อย่างที่กล่าวไป คือมันเร็วกว่า Hard Disk ปกติจริง แต่ โปรดถามผู้ให้บริการและชั่งใจจากน้ำหนักดีๆ ว่าราคาของ VPS ที่ขาย และขนาดของการใช้งาน “มันสมเหตุสมผลกันหรือเปล่า” และควรที่จะเลือกแบบ Storage มีการเชื่อมต่อกันโดยใช้ RAID1 เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการ Lost Data
3. SATA for Storage and RAID1,5,6 และเอา SSD มาทำเป็น cache
            วิธีการนี้เราเรียกกันว่า Flashcache ซึ่งจะเอา Hard Disk มา RAID เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล และการเอา SSD มาทำเป็น Cache ขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการช่วยและลดระยะเวลาในการ Read/Write ข้อมูล ซึ่งจะมี Mode ในการใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 3 Mode คือ
  • Writethrough : เขียนลง ssd+harddisk พร้อมกัน ใช้ ssd เป็น backup write cache ในตัว (แต่ถ้า ssd เขียนข้อมูลช้าจะทำให้เครื่องอืด แต่ถ้าเร็วละเร็วกว่าปกติแน่นอน)
  • Writearound : เขียนลง harddisk อย่างเดียว โอกาสพังถ้าไฟดับระหว่างเขียนก็เท่าๆ กับแบบปกติ
  • Writeback : เขียนลง ssd ก่อน แล้วว่างเมื่อไหร่ค่อย flush ลง harddisk .. mode นี้ลองแล้วเร็วมาก แต่ค่อนข้างเสี่ยงกรณี ssd พัง

จบแล้วครับสำหรับบทความเรื่อง “VPS,Hosting on SSD แรงจริงหรือมั่วนิ่ม !?” ก็ขอให้ผู้ที่ใช้บริการและเลือก VPS ตัดสินใจดีๆก่อนจะซื้อกันนะครับ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลของท่าน

Harddisk SATA III นำมาใช้กับ Mainboard ที่รองรับแค่ SATA II ได้ไหมครับ

ได้ แต่เร็วแค่ SATA2


จากที่ได้ลอง  ไปซื้อ wd 500 GB SATA III  มาใส่คอมที่ hdd เสีย  และลง windows ใหม่  ใน MB   com ที่เป็น SATA II   ผมคือใช้ได้ไม่มีปัญหา  

ก่อนที่จะลง windows ผมได้เอามาลองกับเครื่องผม  ที่เป็น  SATA II  ก็สามารถใช้ได้ไม่มีปัญหา   โดยไม่ต้อง   set jumper ใดๆ


สรุปทั้งนี้ทั้งนั้น   สามารถใช้ได้ครับ  ส่วนจะ 100 % อันนี้ไม่ทราบเพราะมันขึ้นกับ M/B chip set และอื่นๆ

งานนี้ต้องลองครับ  เพราะ HDD SATAIII ราคาถูกกว่า  SATAII


HD. SATA II กับ SATA III มันต่างกันยังไงครับ คือจะซื้อมาใช้เอง แล้วเมนบอร์ดตัวธรรมดาๆที่ขายกันอยู่ใน advice มันใส่กันได้หรือเปล่า ขอถามผู้รู้หน่อย จะได้เอามาใช้ดูครับผม พอดีที่ร้านยังใช้ระบบ hd. อยู่ถ้าได้อาจจะเอามาใช้เผื่อเพิ่มเครื่อง แต่ตอนนี้อยากลองใช้คนเดียวก่อน
ขอบคุณล่วงหน้าครับผม


hdd sata3 จะเร็วกว่านิดหน่อย
hdd sata 2 วิ่ง 120 MBps
hdd sata 3 วิ่ง 125 MBps

port sata 2 Maximum Transfer rate 3Gbps =375MBps
port sata 3 Maximum Transfer rate 6Gbps =750MBps

จะเห็นได้ว่า HDD วิ่งได้แค่ 1ใน3 ของ sata2 

แพงกว่ากันเยอะอยู่นะครับ

คุณซื้อไปทำอะไรเอ่ย?

ถ้าเอาไว้โหลดบิท เก็บหนัง เก็บเพลง เก็บเกม Sata II ก็เหลือเฟือ

ถ้าเอาไว้แบ๊คอัพไฟล์ ทำแบ๊คอัพ ghost เครื่องในร้าน คุณเป็น Sata III แต่เวลาเอาไปโกสต์ รับส่งข้อมูลกะ Hdd เครื่องลูกที่เป็น Sata II มันก็วิ่งที่ความเร็ว Sata II อยู่ดี อีกอย่างถ้าจะเอาไว้เป็น Hdd สำรองข้อมูล ผมแนะนำให้ใช้ Green ของ Western ดีกว่า ถูกกว่ากันบานเบอะ

MSI P4M900M3-L Core 2 Duo/ P4M900/ SATA2/ RAID/ A&V&L/ MATX Motherboard

MSI P4M900M3-L Core 2 Duo/ P4M900/ SATA2/ RAID/ A&V&L/ MATX Motherboard
 MSI P4M900M3-L Core 2 Duo/ P4M900/ SATA2/ RAID/ A&V&L/ MATX Motherboard
Price:
Our Price:
You Save: $40.15 (37%)


 Description
MSI P4M900M3-L Core 2 Duo/ P4M900/ SATA2/ RAID/ A&V&L/ MATX Motherboard
Specification
Mfr Part Number: 7387-010(P4M900M3-L)
CPU: Socket 775 Support Intel Core 2 Duo/ Pentium D 8XX, 9XX/ Pentium 4 EE/ Pentium 4 5XX, 6XX/ Celeron D 3XX Processors; Supports Intel Hyper-Threading Technology; Supports Intel EIST Technology; FSB 1066/800/533 MHz
Chipset: VIA P4M900 & VT8237S
Memory: 2x 240pin DDR2-667/533/400 DIMMs, Max Capacity 2GB
Slots: 1x PCI-Express x16 Slot; 2x 32-bit PCI 2.2 Slots
IDE/SATA: 1x ATA-133 Channel; 2x SATA2 Ports, Support RAID 0, 1
Audio: Realtek ALC888 8-Channel HD Audio CODEC
Video: Integrated S3 Graphics Chrome9 HC Graphics Controller
LAN: Realtek RTL8201CL 10/100Mbps Ethernet Controller
Ports: 8x USB 2.0 Ports (4 rear, 4 by headers); 2x PS/2 Ports; 1x Serial Port; 1x Parallel Port; 1x VGA Port; 1x RJ45 LAN Port; Audio I/O Jacks
Power Connector: 1x 24pin Main Power, 1x 4pin CPU Power
Form Factor: Micro ATX, 9.61 x 7.9 inch

Availability: All our products are Shipped in OEM PACKAGING (bare product) MEANT TO BE USED AS REPLACEMENT ONLY, Usually ships in 2 to 3 Business days in Warehouse in California, 5 to 8 Business Days in Warehouse in China
Weight: 5 lb

 Reviews

ปี 51

11/16/2555

ต่อคอม เข้า tv plasma pana 42\" ให้ภาพออก โดยใช้สายแลน

จะต่อคอม ให้ภาพออก tv plasma pana 42" โดยใช้สายแลน ได้ป่าวครับ มันมีช่องเสียบแลนให้ 1ช่อง ไม่มีตั้งซื้อ การ์ดจอ กับ สายใหม่ครับ
คอมผมรุ่นเก่า P4 2.4G ,RAM DDR 1.5 G

ทำได้ไหม ทำไมจะทำไม่ได้
แต่จะกล้าทำไหมต่างหาก
เอาคอมพ์ที่ใช้+tv ไปขายยังไม่พอซื้อเลยครับ

อย่างที่บอกครับ ว่า "ทำได้"
แต่ค่าอุปกรณ์ มันแพง อย่างใน #4 ตัวนั้นราคา 15000+
ใน# 5 ไม่ต้องถามถึงราคา เพราะให้เหมือนทำ system ในองค์กร
สรุปได้ว่า"แพงกว่าที่คุณคิด"
ทางออกง่ายๆ ไปดูพอร์ทด้วยหลังเครื่องกับ tv ถ้ามีพอร์ทตรงกัน
อาทิ s-video หรือ d-sub(ที่คอมพ์มีอยู่ล่ะ ก็ตัวที่จอคอมพ์) ก็แค่ซื้อสายมาต่อ จะได้ภาพ
ส่วนเรื่องเสียง ก็เอาสาย Y 3.5" ต่อsound หลังคอมพ์มาต่อทีวี 



ทั้งทีวีและคอมต้องต่อกับเร้าเตอร์ผ่าน สายแลน  และ ทีวีต้องมีคุณสมบัติเล่นไฟล์ผ่านเน็ตเวิร์คได้ครับ (ไม่รู้ว่ามันมีคุณสมบัตินี้หรือเปล่า)

ยังจำ เทคโนโลยี DLNA กันได้อยู่มั๊ย

ยังจำรูปโป๊ที่โผล่กลางสภากันได้ป่ะ

นั่นแหล่ะ เครื่องรุ่นใหม่ ๆ ทำได้สะบาย

ถ้าเครื่องรุ่นเก่าหน่อย ก็ต้องใช้ตัวกลางช่วย

ถูกสุดก็คงเป็น HD Media Player ต่าง ๆ 


สายแลน หมายถึงสายโทรศัพท์ ที่ใช้ต่อเน็ตครับ
จะต่อทีวี ต้องใช้การ์ดจอออกทีวีมาใส่ในคอมพ์ก่อนครับ
ตอมพ์รุ่นนี้เมื่อก่อนผมใช้ต่อออกได้  แต่ต้องซื้ออุปกรณ์
มาเพิ่ม และเซ็ทค่าออกทีวีที่หน้าจอตรงทาสก์บาร์

ก่อนจะออกจอทีวี มันจะต้องออกที่หน้าจอคอมพ์ก่อน
แล้วเราจึงตั้งค่าให้ออกทีวี  นั่นคือ ต้องออกสองจอพร้อมกันครับ
ไม่ใช่ต่ออกทีวีได้เลยนะครับ

ใช้ไม่นานก็เบื่อ  เลยไม่ใช้อีก  เดี๋ยวนี้การ์ดทีวีก็ถอดออกมาวางทิ้ง
ไว้อยู่นี่แหละครับ  


ถ้า TV ระบุว่ารองรับ DLNA
คุณจะสั่ง WIndows media player เล่น media ไฟล์
เสียง รูปภาพ หรือ video ไปออกบนจอได้เลย
โดยกำหนดค่า ip address บนจอ TV เข้ากับ ระบบ network ในบ้าน
ใช้ได้ทั้ง Lan สายหรือ wireless lan ผ่านทาง USB
**** TV ต้องรองรับ DLNA server น่ะครับ

แต่จะแสดงหน้าจอที่ใช้งาน WIndows ทั่วไปให้ไปแสดงผลทางนี้ไม่ได้
กรณีต้องการให้แสดงผลเหมือนจอ Computer ต้องผ่าน HDMI หรือ Computer port หรือ video jack เท่านั้น

การ share file ผ่าน DLNA
Computer จะเห็น TV เป็น อุปกรณ์อย่างหนึ่ง ใน Network
ตามรูป

หรือคุณอาจหา Software มากำหนดให้ Windows เป็น DLNA server
เมื่อ share files ผ่าน server
TV ก็จะเหมือน COmputer ตัวหนึงทำหน้าที่เป็น Media player
สามรถ เรียก files ที่ share มาเล่นได้ครับ



 windows media player 12 มีความสามารถ ทำให้ Windows เป็น DLNA server
ได้โดยไม่ต้องลง software เพิ่ม

หรือจะสั่งเล่นจาก ทีละ file ไปออกบนจอก็ได้ตามรูป



com ก็มีออกจอภาพช่องเดียวครับ
-ซื้อ 3 ทางแยก(มีมั้ย)มาเข้า RGB ทีวี ได้มั้ยและ ซื้อสายเพิ่ม

-หรือ เปลี่ยนการ์ดจอ ซื้อสาย hdmi
-หรือ สายusb ต่อได้มั้ย

3 แบบ ต่างกันอย่างไงบ้างครับ กับงบ และคุณภาพของภาพ HD ที่ได้ ไม่เน้นระบบเสียงครับ เพราะต่อ จากซาว์ดการ์ดมาเข้าเครื่องเสียงแล้ว


การกำหนดให้ Windows เป็น DLNA server
เมื่อเปิด TV เลือกดู files ที่ share ผ่าน network
ก็จะเห็น files ทั้งหมดที่คุณ share
คุณสามารถเลือกเล่น file ได้จาก TV ได้โดยตรง

หรืออาจใช้ sofware ที่ทำให้ WIndows เป็น DLNA server โดยตรงก็ได้
แต่ต้องดูคุณสมบัติของ Software ด้วย
เพราะ software บางตัวจะแปลง file (Transcode)  video เป็น format ที่เล็กลงเพื่อให้ ขนาดของ file ลดลง เพื่อลด bandwidth ที่จะใช้ใน network
หรืออาจแปลงระบบเสียงให้เป็น AC3 หรือ stereo จากต้นฉบับซึ่งเป็น DTS ก็มี

ผมเลือกให้ Samsung pc share
เพราะมันใช้ง่าย มี preview อีกหลายอย่าง 9ล9
สะดวกกว่า share โดยใช้ Windows media player



 ทีวีของท่านเป็น smart tv ครับ
ถ้าเอาสาย lan เสียบแล้วกด remote ไปที่ netcast ของผม lg infenia หน้าจอมันจะมันจะแสดง option ที่เข้าได้
เช่น youtube/picasa etc..ช่องsearchใช้ remote tv
กดพิมพ์เอาแป้นเดียวกับตัวเลข 2=abc,3=def ยกตัวอย่าง ตัวกลางกด2ครั้ง ตัวสุดท้ากด3ครั้ง
หากจะใช้จอทีวีร่วมกับคอมให้เอาสายการ์ดจอจากคอม
ต่อช่อง hdmi ช่องไหนก็ได้ของ tv ก็ได้เวลาเปิดคอม
สัญญาณจะวิ่งเข้า tv กด remotetv ตั้ง input เป็นช่อง
hdmi เบอร์ที่ท่านเสียบไว้ครับ....
หากการ์ดจอของคอมหัวเสียบเป็น dvi ต้องมีสาย
dvi to hdmi เพราะ tv มีแต่ช่อง hdmi ที่เสียบใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ครับ...


ถ้าเป็น TV ที่ไม่มีระบบ DLNA
คุณไปหา HD player ที่มีระบบนี้
แล้วใช้ HD player เล่น files ที่ share ผ่าน LAN
จะสะดวกกว่าเพราะ คุณสามารถ share ผ่าน wireless lan ได้โดยไม่ต้องเดิน ลากสาย

แบบตาม คห.15
คุณภาพก็ไม่น่าจะแตกต่าง
แต่ข้อเสียคือ คุณต้องวาง computer ไว้ติดกับ TV
เพราะสายสัญญาณภาพ เขาไม่ใช้ยาว
เพราะจะทำให้คุณภาพของภาพเปลี่ยนไปได้ 



 

9 ขั้นตอน-เพิ่มเสน่ห์ให้บล็อกด้วยเสียงและวิดีโอ..(สำหรับคนชอบสั้นๆ)

9 ขั้นตอน-เพิ่มเสน่ห์ให้บล็อกด้วยเสียงและวิดีโอ..(สำหรับคนชอบสั้นๆ)


ทุกครั้งที่เขียนเรื่องเทคนิกเกี่ยวกับบล็อก จะมีเสียงโอดโอย (ส่วนมากจะเป็นสาวๆ) ที่กลัวความยาว ว่ามันยาวมากกกกกกกกก.....(ทีอย่างอื่นล่ะอยากให้ยาวๆ...เช่นเส้นผมฯลฯ)
เลยพานให้ไม่อยากอ่าน จึงทำไม่เป็นสักที อิอิ
ผมจึงสรุปมาให้โดยไม่ลงรูปประกอบ จะเห็นว่าพอไม่ลูบ เอ๊ย ไม่มีรูป ก็ไม่ยาวเลย แค่ 9 ขั้นตอนเท่านั้นเอง
ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจหรือนึกภาพหน้าจอไม่ออก ก็คลิกไปดูภาพที่

http://www.oknation.net/blog/konto/2009/10/14/entry-2
ก่อนลองทำ อ่านหลักการคร่าวๆ ก่อนนะครับ
การ Upload Video clip สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. Upload Video clip จากเครื่อง
Video Clip ที่ต้องการ upload จะต้องเป็นไฟล์ format ดังนี้ mpeg, 3gp, wmv, mov, mpg, mp4, wma, mp3 ขนาดไม่เกิน 100 M

ดัง นั้นต้องตรวจสอบ format ของไฟล์ที่เรานำมาจากกล้องวิดีโอ, กล้องถ่ายรูป หรือไฟล์ที่มีในเครื่องด้วยว่าใช่ format เหล่านี้หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ต้องใช้โปรแกรมประเภทแปลงชนิดไฟล์วิดีโอ (vdo converter)
ถ้าไฟล์ที่มีเป็นไฟล์เหล่านี้
  • Audio files: .aif, .aifc, .aiff .asf, .au, .mp2, .mp3, .mpa, .snd, .wav, and .wma
  • Video files: .asf, .avi, .m1v, .mp2, .mp2v, .mpe, .mpeg, .mpg, .mpv2, .wm, and .wmv สามารถใช้โปรแกรม Windows Movie Maker ที่มีอยู่ในเครื่องพีซี ที่ใช้วินโดว์ import ไฟล์จากกล้องเข้าไปได้เลย ถ้าไม่ตัดต่อ ตกแต่ง ก็ save ออกไป - audio เป็น wma และ video เป็นไฟล์ wmv ง่ายที่สุด
    2. Embed จากเว็บอื่น
    Oknation มีฟังก์ชั่น Embed video clip จากเว็บไซต์อื่นๆ ให้เลือก ในกรณีที่คุณนำวิดีโอคลิป ของคุณไปฝากไว้ที่ ผู้ให้บริการ Video sharing เช่น YouTube, Google Video ฯลฯ หรือพบวิดีโอที่ถูกใจสามารถ Embed code ได้ที่เว็บอื่น ก็นำมาใส่ในบล็อกได้
  • ทีนี้ก็มาถึงวิธีนำมาลงในบล็อก
  • วิธีการ Upload Clip
    1. Log in เข้าไปจัดการ blog แล้วไปที่แถบ Video Clip
    2. กรอกข้อมูลของคลิป เช่น ชื่อ Video Clip, คำบรรยายเพื่อบอกรายละเอียดของคลิป เช่น ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อใด ฯลฯ และ tags คือ ชุดของคำที่เลือกมาใส่เพื่อสื่อความหมายที่ช่วยให้การค้นหาคลิปนี้ทำได้ง่าย ขึ้น เน้น key word ที่คนทั่วไปน่าจะใช้ในการค้นหา โดยเขียนแต่ละคำ คั่นด้วยเครื่องหมาย , (comma)
    3. เลือกหมวดของคลิปให้เหมาะสม เพราะจะมีผลในการจัดกลุ่มสื่อตามกลุ่มข้อมูลของ nationchannel ซึ่งจะช่วยให้การค้นหาทำได้ง่ายขึ้น
    4. ในกรณีที่คลิปที่ต้องการ upload อยู่ในคอมพิวเตอร์ ก็เลือก "upload เอง"
    โดยต้องใช้ไฟล์ที่มีสกุล mpeg, 3gp, wmv, mov, mp4, wma,mp3 ที่มีขนาดไม่เกิน 100 MB

    • แล้วคลิก Browse เพื่อเปิดไฟล์
    • เมื่อการ upload เสร็จเรียบร้อย จะปรากฎรายงานขึ้นบนหน้าจอ
    • พร้อมๆกับได้รับคำยืนยันว่า เพิ่ม video clip เรียบร้อยแล้ว
    5. คลิก ok แล้วจะเห็นคลิปใหม่เพิ่มขึ้นในหน้า แก้ไข Video Clip ให้คลิกภาพเข้าไป
    6. ในหน้า blog จะปรากฎ Media Player พร้อมชุดโค้ดของคลิป พร้อมให้ท่าน copy ไปใช้ได้
    7. คลิกไปยังหน้า "จัดการ blog" แล้วไปที่แถบ สร้างเรื่อง หรือ แก้ไข แล้วแต่กรณี
    กำหนดตำแหน่งที่จะวางคลิปในเนื้อเรื่อง แล้วคลิกปุ่ม HTML  8. high light ด้วยการเอาเม้าส์ลากทับเครื่องหมายกำหนดตำแหน่งที่จะวางคลิปทั้งหมดแล้วคลิ กเม้าส์ขวา เพื่อกด paste นำโค้ดมาวางแทนที่เครื่องหมาย
    9. เมื่อคลิกปุ่ม  จะเห็น Media Player ของคลิปที่ upload แล้ว
    เสร็จแล้ว...เป็นอย่างไรบ้าง งงไหมเอ่ย
    วิธีทำให้คลิปเล่นอัตโนมัติและเล่นวน
    ให้กดปุ่ม HTML  เพื่อแก้โค้ด ดังภาพ คือเปลี่ยนค่าคำสั่ง autostart จาก "false" ให้เป็น "true"
    เมื่อคลิกปุ่ม HTML  กลับมาจะเห็น Media Player ที่เริ่มเล่นเองโดยอัตโนมัติ และถ้าหากต้องการให้เล่นวนก็ให้เติม &repeat=always เข้าไป

    • วิธีปรับขนาดจอ Media Player ให้เล็กลง ในกรณีเป็น audio file
    ให้คลิกปุ่ม HTML  เพื่อเข้าไปแก้ไขขนาดของจอภาพในโค้ด โดย high light ด้วยการลากเม้าส์ทับคำสั่ง Width และ Height แล้วเปลี่ยนขนาดความกว้างและความสูงให้เหมาะสม
    เช่น จากความกว้างมาตรฐาน 425px เปลี่ยนเป็น 100px และจากความสูงสมาตรฐาน 355px เป็น 20px (ปกติผมจะใช้ประมาณ 325x20 px)

    จะได้ขนาด Media Player ขนาด 100x20px หรือจะปรับเป็นขนาดอื่นก็ได้ตามความต้องการโดยใช้วิธีเดียวกัน

    • วิธี upload คลิปด้วยการ embed จากเวบอื่น
    1. นำคลิปที่ถ่ายไว้ ไป upload ในเว็บรับฝากไฟล์ ยกตัวอย่างเช่น www.esnips.com
    2. เลือกหน้ากากของ media player (ถ้ามีให้เลือก) จากเว็บรับฝากไฟล์ ซึ่งปกติจะมีโค้ดแจกให้ด้วย
    3. copy โค้ด หรือบางเว็บก็เรียกว่า embed code
    4. Log in เข้ามาจัดการ blog ที่แถบ Video Clip ใส่ข้อมูลต่างๆ เช่น ชื่อคลิป คำบรรยาย tags 
    แล้วคลิก embed จากเวบอื่น

    5. จะเห็นว่ามีช่องเพิ่มขึ้นมาให้ใส่รูปด้วย ก็เลือกภาพตามความเหมาะสมจากคอมพิวเตอร์ของท่านเอง6. นำโค้ดที่ copy มาจากเว็บรับฝากไฟล์ มาpaste ลงในช่อง ใส่ลิงค์ที่ embed แล้วคลิกบันทึก
    เมื่อระบบ upload ให้แล้ว จะได้รับคำยืนยัน และคลิปใหม่จะปรากฎเพิ่มขึ้นในหน้า แก้ไข Video Clip
    เมื่อคลิกภาพเข้าไป จะไปที่หน้าแสดงคลิป ดังภาพ โดยที่จะไม่มีโค้ดแจกให้ ต่างจากกรณี upload เอง ที่จะมีโค้ดแจก
    เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ
  • 11/06/2555

    Digital Camera กล้องดิจิตอล»Nikon กล้อง-นิคอน»Nikon D3200

    Digital Camera กล้องดิจิตอล»Nikon กล้อง-นิคอน»Nikon D3200

    Nikon D3200

    รูป Nikon D3200
    รูป Nikon D3200
    รูป Nikon D3200
    รูป Nikon D3200

    รายละเอียดสินค้า

    กล้องนิคอน Nikon D3200 กล้องในฝันของนักถ่ายภาพมือใหม่ ด้วยขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พร้อมเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด ทั้งเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS DX-format ความละเอียดสูง 24.2 ล้านพิกเซล ระบบประมวลผลภาพรุ่นใหม่ EXPEED3 และรองรับค่าความไวแสงตั้งแต่ ISO 100 ถึง 6400
    Specification
    ความละเอียดภาพ (Resolution) 6016 x 4000
    สัดส่วนภาพ (Image Ratio) 3:2
    พิกเซล (Effective Pixels) 24.2 megapixels
    เซลล์รับภาพ (Image Sensor) CMOS APS-C (23.2 x 15.4 mm)
    ความไวแสง (ISO Rating) Auto, 100, 200, 400, 800, 1600, 3200, 6400 (12800 with boost)
    Optical Zoom n/a
    Digital Zoom No
    ระบบป้องกันภาพสั่น (Image Stabilization) No
    ระบบโฟกส (Auto Focus Type) * Contrast Detect (sensor) * Phase Detect * Multi-area * Selective single-point * Tracking * Single * Continuous * Face Detection * Live View
    ระยะโฟกัสปกติ (Normal Focus Range) 1.5×
    ระยะมาโคร (Macro Focus Range) n/a
    White Balance Yes (1)
    ค่ารูรับแสง (Aperture) Yes
    ค่าความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) 30 sec-1/4000 sec
    แฟลชภายใน (Built-In Flash) Yes (Pop-up)
    ช่องต่อแฟลชภายนอก (External Flash) Yes (Hot-shoe, Wireless plus sync connector)
    ระบบแฟลช (Flash Modes) Auto, Red-Eye, Slow, Red-Eye Slow, Rear curtain
    การชดเชยแสง (Exposure Compensation) ±5 EV (at 1/3 EV steps)
    ระบบวัดแสง (Metering) * Multi * Center-weighted * Spot AF-area
    โหมดแมนนวล (Manual Mode) Yes
    ถ่ายภาพต่อเนื่อง (Continuous Drive) Yes (4 fps)
    ถ่ายภาพเคลือนไหว (Movie Clips) n/a
    ตั้งเวลาถ่ายภาพ (Self-Timer) Yes
    ประเภทหน่วยความจำ (Memory Type) SD/SDHC/SDXC UHS-I compliant
    ไฟล์ภาพ (File Types) RAW *JPEG
    ช่องมองภาพ (View Finder) Optical (pentamirror)
    ขนาดLCD 3
    Video Out Yes (Mini Type C)
    ประเภทแบตเตอรี่ (Battery) Lithium-Ion EN-EL14 rechargeable battery & charger
    น้ำหนัก (Weight) 505 g (1.11 lb / 17.81 oz)
    ขนาด (Dimensions) 125 x 96 x 77 mm (4.92 x 3.78 x 3.03
    สั่งซื้อ Nikon D3200

    11/05/2555

    ทำSEO ระวังการใช้ โค้ดป้องกันการcopy


    ความหวงแหนเนื้อหาในเว็บไซท์ของท่าน อาจย้อนกลับมาทำร้ายเว็บของท่าน
    เพียงเพราะการโค้ดป้องกันcopy อย่างผิดวิธี ซึ่งมันจะทำให้ข้อมูลการอัพเดทเนื้อหา
    ในเว็บของคุณ ไม่ถูกจัดอันดับในดัชนีของระบบค้นหาจาก Google


    กรณีตัวอย่าง 
    เว็บไซท์ ไทยรัฐ ออนไลน์ ติดอันดับในกูเกิ้ลเพียงหน้าเดียวเพราะผลมาจากการใช้โค้ดป้องกันการคลิกขวา ซึ่งมันก็คือโค้ดป้องกันcopy นั่นเองครับท่าน

    ผลลัพท์ที่เกิดคือ โรบอทเข้ามาแคชข้อมูลไม่ได้ และผลร้ายที่ตามมาคือ
    เวลาคนค้นหาข่าวในกูเกิ้ลจะไม่เจอข่าวที่อัพเดทโดยเว็บไทยรัฐ
    แม้ไทยรัฐจะเป็นเจ้าของข่าวนั้นแต่เพียงผู้เดียวก็ตาม

    ถามว่า "จะหาเว็บไทยรัฐเจอต้องทำอย่างไร?"
    ตอบว่า ต้องใช้คำค้นค้นหาว่า ไทยรัฐ จึงจะเจอ


    ดูการ index แค่หน้าเดียว ของไทยรัฐ ตามลิ้งก์นี้

    เว็บไทยรัฐจึงใช้วิธี ทำการเพิ่ม subdirectory เข้าไปแทน เช่น
    www.thairath.co.th/today ก็จะทำให้มีการติดอันดับในส่วนนี้แทน

    เว็บที่มีการใช้โค้ด ป้องกันการcopy ดังกล่าว จะ index ได้ก็ต่อเมื่อคอยส่ง
    Sitemap ไปยังระบบ Google webmaster อยู่เป็นระยะ ส่ง 500 ลิงก์
    ก็จะ index เพียง 500 ลิ้งก์ ตามจำนวนที่ส่ง

    ยังมีวิธีอื่นๆ ที่อาจจะช่วยให้ Google เข้ามาแคชเนื้อหาบทความในเว็บไซท์ ของคุณได้
    คือการสร้าง rss หรือ feed ให้ Google robot เข้าไปเก็บเนื้อหาผ่านทางระบบนี้แทน

    ตัวอย่าง feed หรือ rss ของบล็อกเดิ้ล คลิกชม 
    feed หรือ rss บางเวอร์ชั่น ยังแสดงผลไม่สมบูรณ์สำหรับ Google Chrome
    ดังนั้น คุณสามารถ ทดลองดูการแสดงผลด้วย Internet Explorer, Safari หรือ Firefox

     บทความจาก
    http://www.blogdle.com/2012/03/seo-copy.html

    11/01/2555

    ASRock 775VM800 - motherboard - micro ATX - P4M800 - LGA775 Socket

    ASRock 775VM800 - motherboard



    ■LGA775 for Intel® P4 processor
    ■VIA® P4M800 chipset
    ◦Supports LGA775 FSB800/533MHz processor, Intel® EM64T-enabled processors and H-T Technology
    ◦Supports Intel® Dual Core Processors (Exteme Edition / Pentium D)
    ◦Supports DDR400 high performance memory
    ◦Hybrid Booster - ASRock Safe Overclocking Technology
    ◦Advanced storage interface SerialATA 1.5Gb/s - SATA HDD Hotplug support
    ◦RAID 0,1,JBOD full support
    ◦AGP8X, 5.1channel Audio, 10/100 PCI Ethernet LAN
    ◦ASRock I/O Plus: 6 ready-to-use USB2.0 ports



    - LGA775 for Intel® Dual Core Exteme Edition / Pentium D / Pentium 4 / Celeron D processors
    - FSB 800/533 MHz
    - Support advanced Intel® EM64T CPU
    - Supports Hyper-Threading Technology

    - Northbridge: VIA® P4M800
    - Southbridge: VIA® 8237R

    - Supports DDR400/333/266 non-ECC, un-buffered memory
    - DIMM slots: 2
    - Max. capacity of system memory: 2GB


    - 4Mb AMI BIOS with ACPI, SM BIOS 3.0, PnP

    - Integrated UniChrome Pro 3D Graphics
    - Shared Memory Max. 64MB (with the pre-condition of at least 256MB system memory)

    - CMedia CMI9761A 6 channel AC'97 audio codec

    - VIA® 6103 10/100 Ethernet LAN PHY
    - 802.3u, WOL supported

    - 1 x AGP8X/4X slot, 1.5V
    - 3 x PCI slots( PCI 2.2 compliance)
    - 1 x AMR slot

    - 2 x SeialATA 1.5Gb/s connectors, supports RAID,0,1,JBOD, SATA HDD_Hotplug
    - 2 x ATA 133/100/66 IDE connectors ( supports 4 x IDE devices)
    - 1 x Floppy connector
    - CPU/Chassis FAN connectors
    - 20 pin ATX power connector
    - 4 pin 12V power connector
    - Power/IDE LED connector
    - CD/AUX audio in header
    - Front panel audio connector
    - 2x USB 2.0 port pin headers
    - COM port header

    ASRock I/O Plus
    - 6 x USB2.0 ports
    - 1 x RJ45 LAN port
    - 1 x VGA port
    - 1 x PS2 Keyboard connector
    - 1 x PS2 Mouse connectors
    - 1 x Parallel port (LPT1)
    - 1 x Audio ports ( Line In/Out, Mic In)

    OS - Microsoft® Windows® 98SE / ME / 2000 / XP / XP 64-bit compliant



    ASRock is an energetic company with the support of strong R&D team and active marketing channels. ASRock's mission is to be an excellent opportunity for customers in the motherboard market who have yearned for a reliable, cost-effective motherboard brand for a long time. With its vision to provide reliable and affordable products, ASRock is confident that it can succeed in the motherboard industry and will continue to grow in other IT industry fields.
     
    PRODUCT FEATURES:
     
    Supports LGA775 FSB800/533MHz processor, Intel EM64T-enabled processors and H-T Technology;
     
    Supports Intel Dual Core Processors (Extreme Edition / Pentium D);
     
    Supports DDR400 high performance memory;
     
    Hybrid Booster - ASRock Safe Overclocking Technology;
     
    Advanced storage interface Serial ATA 1.5Gb/s - SATA HDD Hot-plug support;
     
    RAID 0, 1, JBOD full support;
     
    AGP8X, 5.1channel Audio, 10/100 PCI Ethernet LAN;
     
    ASRock I/O Plus: 6 ready-to-use USB2.0 ports

    ASRock 775VM800 - motherboard photo