มี
โอกาสได้กล่องใส่ Harddisk 2.5" แบบ พร้อมกับ Harddisk ขนาด 250GB
มาถ้าเป็นตัวเองตัดสินใจ คงไม่มีโอกาสได้ซื้อแน่ ๆ หลังจากใช้งาน
อธิบายคร่าว ๆ เป็นกล่องสีเงิน ๆ มีสายให้มา 1 เส้น ไว้ต่อกับ USB
แต่สายจะมี USB หัวตัวผู้โยงกัน 2 หัวเลย
มีคนบอกว่า
เวลาเราเสียบ สายไฟ 1 เส้น ถ้าโชคดี คอมจะมองเห็น Drive เพิ่มขึ้นมาเลย
นั่นก็คือใช้งานได้แล้ว แต่ถ้าโชคไม่ดี Harddisk เราจะมีเสียงดัง แต๊ก ๆ ๆ ๆ
บ้างดังแล้วดับไปเอง บ้างก็ดังแต๊ก ๆ ไม่หยุด เสียงนี้ น่ากลัวมาก กลัวที่
Harddisk เราจะเสียนะครับ เจอเสียงแบบนี้ให้ รีบถอดสายเลย และใน
คอมเราก็มองไม่เห็น Harddisk ตัวนี้นะ เค้า็ว่าให้เสียบสาย USB 2 หัวเลย
คงตั้งใจให้ดึงไฟจาก USB Port ออกมามากพอ เพื่อให้ Harddisk ทำงานให้ได้
แต่บางทีก็ไม่ได้ คงเคยเจอมันมาแล้วใช่ไหมครับ
เลยขอกล่าวปัญหาใหญ่ของ USB และอุปกรณ์ที่ทำงานกับ USB
ทุกอย่าง นั่นคือไฟเลี้ยงจากคอม ไปเลี้ยงไม่พอ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของอุปกรณ์ และขึ้นอยู่กับความยาวของสาย USB นั้น ๆ
ด้วยนะครับ อย่างง่าย ๆ เลย ทุกคนเคยเจอแน่ เสียบสาย USB เข้าคอมไป
คอมมองไม่เห็น ต้องเปลี่ยนช่องเสียบ อ่าว USB โง่ หรือคนใช้ฉลาดน้อยกันแน่
มันถึงเสียบทีเดียวแล้วไม่ติด ฮ่า ๆๆ
ผมเคยลองมองเข้าไปตรง
Mainboard ตัวบอร์ดหลักที่จะมี USB ให้เราได้ทำงานกันได้ แต่ความสามารถของ
Mainboard ก็ไม่ได้เก๋าเจ๋งไปทั้งหมดนะครับ สายที่โยงไปสู่ช่อง USB ด้านนอก
ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหน้า เคสรุ่นใหม่ USB จะต่อออกด้านหน้า
2 ช่อง คือจะใช้ส่วนตรงนี้ ขาเสียบจะรวม ๆ กันอยู่ใกล้ ๆ กันกับส่วนควบคุม
ปิด เปิดเครื่อง ทำนองนี้ เค้าลือกันว่า ไฟส่วนนี้จะจ่ายเบากว่าส่วนหลัง
และ USB ที่จะมีอีกส่วนแปะอยู่ด้านหลัง ๆ บาง Mainboard
รองรับรวมกันแล้วได้ถึง 8 Port บ้างก็เป็น 10 หรือ 12 ใครใช้หลายอุปกรณ์
ก็ต้องดู Spec Mainboard ก่อนซื้อดี ๆ นะครับ ฉะนั้น ให้ลองดูครับ เสียบ
USB ด้านหน้าไม่ได้ผล ให้ลองกลับไปเสียบด้านหลังดูบ้าง
เผื่อจะทำให้อุปกรณ์นั้น ๆ ทำงานได้ครับ แล้วก็อย่าลืมตรวจสอบดู
เอาฝุ่นออกไปบ้างนะครับ บางคนปล่อยเครื่องกินฝุ่นหลายปี ไม่เคยแคะให้มันเลย
สงสารมันเหอะ หาแค่แปรงสีฟันเก่า ๆ หรือภู่กัน หรือแปลงทาสี
แค่นี้ก็ปัดฝุ่นได้แล้วครับ
อีกอ
ย่าง อุปกรณ์ USB ในยุคแรกจะทำสายยาวครับ ยาวมาก ๆ เลย
จนบางรุ่นใช้งานยากมาก ๆ เสียบติดบ้างไม่ติดบ้าง เพราะไฟเลี้ยงไปไม่ค่อยถึง
แถมสายคุณภาพต่ำบางอย่าง ที่เส้นเล็ก ๆ บาง ๆ มันส่งไฟไปได้ไม่ดีครับ
แบบนี้หาสายดี ๆ มาเปลี่ยนครับ ผมลองมาเยอะ กับ Card Multi Reader
ในคราวล่าสุด ผมก็หาสายเส้นอื่น มาเสียบแทน มันเสียบกันได้นะ ใช้ไปหลาย ๆ
อันถึงรู้ว่า คุณภาพมันไม่เท่ากันครับ สุดท้ายไปจูบปากกับสาย USB
ที่ไว้ต่อโทรศัพท์ Nokia N-gage ของผม คุณภาพมันเลิศมาก ๆ ครับ สายเส้นใหญ่
เสียบแล้วแน่นพอดีเลย (สายนี้ยังเสียบได้พอดี กับเครื่องเล่นเกม PSP
ด้วยครับ เจ๋งมาก) ผมยังเคยลองเอาสายที่ต่อ กับกล้องถ่ายรูป
ที่ไว้ต่อกับคอม มันเป็นแบบเดียวกัน แต่เส้นเล็ก สีขาว และมีตัวปุ่มใหญ่ ๆ
(ที่ไว้กันสัญญาณรบกวน) ติดมาด้วย อันนั้นก็ใช้งานได้ดีครับ
ใครมีกล้องลองไปงัดมาใช้ดูกันเอง แต่ดูกันเอาเองว่า
หัวที่เสียบต่อกับอุปกรณ์ มันเสียบด้วยกันได้ไหม
ปัญหาในยุคแรกสำหรับคอมบางที เกิดจาก PSU - Power Supply
จ่ายไฟได้น้อยวัตต์ การจ่ายไฟเลยยังไม่ดีพอ เลยส่งผลไปถึง USB ด้วยนั่นเอง
ยุคหลังมา PSU เริ่มดีขึ้น จ่ายไฟมากขึ้น
บางคนเล่นไปถึง 1000 วัตต์กันแล้ว แต่บางคนยัง 250 วัตต์อยู่เลย ฮ่า ๆ
ไม่รู้ยังมีอยู่หรือเปล่า แถมยังมีแบบวัตต์แท้ วัตต์เทียมให้งงกันต่อไปอีก
แต่ก็เอาเถอะ มันดีขึ้นมาได้ระดับหนึ่งแล้ว และอุปกรณ์ USB
หลายชนิดตัดสายสั้นลงครับ เพราะเริ่มรู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้ามี USB
ด้านหน้าเคสใช้กันแล้ว สั้น ๆ ก็พอแล้ว และจะทำให้จ่ายไฟได้พอด้วยครับ
แต่ผมยังไม่ค่อยพอใจกับ อุปกรณ์บางตัวนะ มันสั้นไปครับ ผมเห็นวันนั้น
ตัวอ่านการ์ดยี่ห้อ Apacer มันสั้นประมาณ 20 ซม. เองอ่ะ
ผมเลยต้องไปซื้อยี่ห้อ Trancend แทนครับ ยาวกว่ากัน เพราะผม
ยังจำเป็นต้องต่อสาย หลังคอมอยู่ครับ เลยต้องหาสายยาวมาแทน
ผมขอกล่าวถึง USB Hub ครับ อุปกรณ์ที่ไว้ขยาย USB
ของเราจาก 1 ช่องให้เสียบอุปกรณ์ได้ เพิ่มอีกหลายช่อง เริ่มแรกจะมี 4 Port
ตอนหลังผมเห็น 7 Port, 10 Port กันเลยทีเดียว พวกนี้มันก็คิดต่อยอดครับ
ไฟไม่พอ ก็เอาหม้อแปลงมาเพิ่มไฟให้เลยดีกว่า ราคาจะแพงกว่ากัน นิดหน่อยครับ
บางตัวมีช่องเสียบไฟมาให้ด้วย แต่ไม่มีหม้อแปลงให้ แต่ไม่น่ากลัวครับ
แค่หาหม้อแปลง ทั่ว ๆ ไป แบบปรับไฟได้ เปลี่ยนหัวได้หลายแบบ จ่ายไฟได้ 5V
แบบ + อยู่ด้านใน - อยู่นอก เสียบเข้าไป ก็ใช้ได้แล้วครับ
ถ้าถามว่าแบบมีหม้อแปลงดีกว่าไหม ก็ดีกว่าครับ ถ้าคิดว่าจะต้องใช้งาน
จริงจัง แบบตลอดเวลาทำงานต้องรวดเร็ว ก็ควรใช้ครับ เพราะคนใช้งาน USB
รู้กันดีกว่า บางวันเสียบติด ทำไมวันนี้เสียบไม่ติด ฮ่า ๆ ๆ ตามดวงครับ
แล้วแต่ภาวะการจ่ายไฟ ของเครื่องคอมเราด้วย ไฟไม่พอก็ไม่ติดซะงั้น
ฉะนั้นอุปกรณ์ถ้ามีไฟนอกรองรับไว้ด้วย จะดีกว่าครับ
เรื่อง USB HUb เตือนไว้แค่อย่างเดียว
เวลาต่อโดยตรงกับเครื่องคอม (ไม่ผ่าน Hub) มันจะเร็วกว่าต่อผ่าน USB Hub
นะครับ เลยอยากจะเตือนย้ำว่า ถ้าอุปกรณ์ USB ของคุณเยอะมาก ๆ
คราวต่อไปมองหา Mainboard ที่มีช่อง USB มาให้มาก ๆ หน่อยครับ และดูให้ดี ๆ
บางรุ่นมี USB Port ด้านหลังมาให้เยอะมาก ๆ เลย
บางรุ่นมีเผื่อไว้แต่ต้องหาต่อสายเพิ่ม ด้านหลังมาต่อเองครับ
แต่ซื้อเพิ่มได้ครับ ผมเองเคยซื้อ USB Hub ตัวนึงมาเสียบคาเครื่องไว้
เครื่องเปิดเกือบ 24ชม. มา 3 ปีกว่าแล้วครับ มันเพิ่งเสียบไปไม่นานนี้เอง
เสียดายมาก จับดูมันปูดครับ คงมีความร้อนพอควรเวลาเราเสียบ USB Hub คาไว้
ถ้าคุณมีอยู่เสียบไว้ที่เครื่อง ลองเอามือไปจับดูครับ อุปกรณ์ไหนเสียบ USB
กับคอมแล้วร้อนมาก ระวังว่าจะเสียเร็ว อย่าเสียบคานาน ๆ ครับ
เสียบเฉพาะใช้งานดีกว่า
ขอ
เข้าเรื่องเลย วันนึงผมยก HDD External ที่ใช้กล่อง HDD Encloser
ไปที่บ้านครับ ดันเอาสายที่ ไ่ม่ใช้ของมันมาใช้ ปรากฏว่าเสียบไม่ติดครับ
ดัง แต๊ก ๆ ๆ ตลอดเวลา ผมจนปัญญาเลย สายตัวจริง ดันเก็บไว้อีกบ้านหนึ่ง
ผมเลยจับกล่องขึ้นดู มีช่องรับไฟ 5V อยู่ เดี๋ยวลองหาหม้อแปลงดู
เผื่อจ่ายไฟแล้วช่วยได้ อ่าวมีสายชาร์จ PSP รุ่นเก่าอยู่ตัว จ่ายไฟ 5V
2000mAH อยู่ ต้องลองครับ อ่าวหัวเสียบได้ แต่มันจะหลวมกันนิดหน่อย
พอดูการจ่ายไฟ + อยู่ด้านในเหมือนกัน ผมเสียบเลยครับ โดยไม่ต่อคอมนะ
ไฟเขียวทำงานขึ้นมาเลย ดีใจมาก เสียบสายกับคอม มองเห็นชัดแจ่มครับ
อันนี้ก็คงเป็นกรณี คอมจ่ายไฟไม่พอครับ เลยต้องใช้ไฟนอกเลี้ยง
ถึงจะสู้ไหวครับ เพิ่งรู้ว่ามันทำงาน ด้วยกันได้นะเนี่ย สายชาร์จ PSP
ก็มีประโยชน์อื่นด้วย
อุปกรณ์
เก่าบางทีเสียแล้วทิ้งไป เก็บหม้อแปลงไว้ครับ มีประโยชน์ในอนาคตแน่นอน
ยุคนี้หลาย ๆ อุปกรณ์ มันใช้ถ่านได้ เสียบไฟได้
มีแต่เรื่องใช้ไฟทั้งนั้นเลยครับ ยุคนี้ต้องประหยัดกันไว้ครับ
ขอจบไว้เท่านี้ โชคดีมีชัย