7/11/2554

พื้นฐานการ Config 3Com Switch

บทความนี้เป็นการปูพื้นฐานการ Config 3Com Switch โดยผ่านทาง Command line Interface ซึ่งจะอธิบาย รูปแบบการใช้คำสั่ง คำสั่งพื้นฐานในการใช้งาน สำหรับท่านที่เคย Config อุปกรณ์ของ Cisco มาแล้ว ในการ Config อุปกรณ์ของ 3Com จะง่ายขึ้นเยอะเลยครับ เนื่องจากมีรูปแบบการ Config คล้ายกันแต่คำสั่งแตกต่างกันบ้าง
หลังจากที่เราเชื่อมต่อสาย Console แล้วล็อกอินผ่านเข้ามาด้วยโปรแกรม Hyper Terminal เราจะเจอกับหน้าให้ใส่ Username Password ซึ่ง Switch ที่ผมใช้ทดสอบเป็นรุ่น 5500-EI ซึ่งค่า Default ของ Switch รุ่นนี้ username : admin ไม่มี password หลังจาก Login ผ่านเข้ามาแล้วเราจะเจอกับเครื่องหมาย Prompt  <5500-EI>
รู้จักกับโหมดการเข้าใช้งาน
โหมดการใช้งานของ Switch 3Com จะมีโหมดหลักๆอยู่สองส่วนคือ
- User  View
หลังจากที่เราล็อกอินเข้ามาเจอเครื่องหมาย Prompt  <5500-EI> สังเกตเครื่องหมาย < > เครื่องหมายนี้จะแสดงว่าเราอยู่ในส่วนของ User View ซึ่งในส่วนของ User View นี้เราจะไม่สามารถทำการ Config อุปกรณ์ Switch ได้แต่จะสามารถใช้งานคำสั่งพื้นฐานต่างได้เช่น display Ping
- System View
ในส่วนของ System View นี้จะเป็นส่วนที่ให้เราสามารถทำการ Config ค่าต่างของตัวอุปกรณ์ได้ โดยใช้คำสั่ง system-view สัญลักษณ์การใช้งานจะเปลี่ยนเป็นเครื่องหมาย [ ] ตัวอย่างเช่น
<5500-EI>                             อยู่ใน User View สังเกตสัญลักษณ์ < >
<5500-EI>system-view           พิมคำสั่ง system-view เพื่อเข้าสู่ System View
[5500-EI]                               สังเกตสัญลักษณ์จะเปลี่ยนเป็น [ ] เมื่อเข้าสู่ System View

แผนผังตัวอย่างการใช้คำสั่งต่างบนอุปกรณ์ Switch 3Com
ในส่วนของการ Config นี้ขอให้จำง่ายๆว่าเราจะ Config อะไรเราต้องอยู่ในส่วนของ System View ก่อน จากนั้นเราจะ Config ค่าใดๆให้เราอยู่ใน View นั้นๆเช่น ต้องการ Config VLAN ให้เราอยู่ในส่วนของ VLAN View ถ้าต้องการ Config Access-List ให้เราอยู่ใน ACL View จะสังเกตได้จากสัญลักษณ์เช่น เมื่อเราอยู่ใน system view จะมีเครื่องหมายเป็น [5500] เพื่อแสดงว่าเราอยู่ในส่วนของ system view แต่ถ้าเราอยู่ในส่วนของ VLAN View เครื่องหมายจะเปลี่ยนไปเป็น [5500-vlan1]
แผนผังตัวอย่างการใช้คำสั่งต่างบนอุปกรณ์ Switch 3Com
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง
              <5500-EI>system-view               
               [5500-EI]vlan  1
               [5500-EI-vlan1]interface vlan 1
               [5500-EI-vlan-interface1]quit
               [5500-EI]quit
   <5500-EI>
ตัวอย่างการใช้งานคำสั่ง Help
เราสามารถใช้งานคำสั่ง Help ช่วยในการ Config ค่าต่างๆให้กับตัวอุปกรณ์โดยใช้สัญลักษณ์ ? โดยมีรูปแบบการใช้งานดังนี้
- ใช้เครื่องหมาย ? เพื่อแสดงคำสั่งที่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด
- ใช้เครื่องหมาย ? ต่อจากคำสั่งที่พิมไปก่อนหน้าเพื่อดูว่ามีคำสั่งอะไรที่สามารถใช้ต่อได้จากคำสั่งที่พิมไปก่อนหน้า
เช่น <5500-EI>interface ? เพื่อดูว่าสามารถพิมคำสั่งอะไรต่อท้ายคำสั่ง interface ได้อีก
- พิมตัวอักษรแล้วตามด้วยเครื่องหมาย ? เพื่อดูว่ามีคำสั่งอะไรที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรนั้นๆ
เช่น <5500-EI>p?
- พิมตัวอักษาขึ้นต้นแล้วกดปุ่ม เพื่อเป็นการเติมเต็มคำสั่ง
เช่น <5500-EI>int จากนั้นกดปุ่ม จะเป็นคำว่า interface ขึ้นโดยอัตโนมัติ
แต่ในกรณีที่ตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไปแล้วเกิดมีคำสั่งที่มีตัวอักษานำหน้าซ้ำกัน แล้วกดปุ่ม จะเป็นการแสดงคำสั่งที่มีคำขึ้นต้นเหมือนกันไปเรื่อยๆ

          คำสั่งพื้นฐาน
           

7/08/2554

Android เป็นล่ามให้คุณได้ด้วย Google Translate “Conversation”

google-translate-conversation
ข่าวนี้ทำให้คิดถึง “วุ้นแปลภาษา” ของโดราเอมอน เลยครับ เรามาดูรายละเอียดกัน
หนึ่งใน  App ของกูเกิ้ลบนระบบปฏิบัติการ Android ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์ในชีวิตประจำวันมากก็คือ Google Translate ซึ่งสามารถแปลภาษา จากภาษาหนึ่ง ไปเป็นอีกภาษาหนึ่งได้ตามความต้องการของเรา ยกตัวอย่างเช่น แปลภาษาอังกฤษ เป็น ภาษาไทย หรือทางกลับกันแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ  แต่การแปลก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพียงการแปลเป็นคำๆไปนะครับ ล่าสุด Google Translate ได้ปรับปรุงความสามารถโดยเพิ่มความสามารถ “Conversation” ครับทำให้ Android ของคุณแปลภาษาในรูปแบบการสนทนาได้ครับ
ความสามารถตามสรรพคุณที่กูเกิ้ลบอกนั้นสุดยอดเลยครับ ใน mode “Conversation” เมื่อเราเจอคนญี่ปุ่น และต้องการสื่อสารกับเค้า เมื่อเราพูดภาษาไทยใส่มือถือ Android ของคุณ Android จะแปลงคำพูดขอคุณเป็นข้อความภาษาไทย และแปลเป็นข้อความภาษาญี่ปุ่น และ จำลองเสียงข้อความที่แปลแล้วออกทางลำโพง(Android ทำตัวเป็นล่ามให้เรานั่นเองครับ) และที่เจ๋งก็คือ เราก็ยื่นให้เค้าพูดญี่ปุ่นใส่เครื่อง Android ก็จะแปลเป็นไทยและพูดให้เราฟังอีกทีครับ
แต่แน่นอนว่า เทคโนโลยีการแปลแบบนี้ไม่ง่ายนัก mode “Conversation” นี้ยังทำงานได้ไม่ถูกต้องสมบูรณ์เท่าไรนักนะครับ แต่ก็นับว่าเป็นย่างก้าวที่ดีของการแปลภาษาเลยทีเดียว
เบื้องต้น Google Translate “Conversation” รองรับ “เสียง” 15 ภาษา ต้องติดตามต่อว่า 15 ภาษานั้นรวมภาษาไทยด้วยหรือเปล่านะครับ.

[Android คืออะไร?]รู้จัก Android (แอนดรอยด์)และวิธีการเลือกซื้อมือถือ Android Phone

android_main

Android คืออะไร?

คู่แข่ง iPhone?
วงการมือถือในปัจจุบันมีโทรศัพท์กลุ่มที่เรียกว่า SmartPhone ซึ่งคือมือถือที่ทำอะไรได้มากกว่า โทรเข้า-ออก โดย สามารถเข้าถึงบริการต่างๆบนอินเตอร์เน็ตผ่าน App(แอพลิเคชั่น หรือโปรแกรม)บน Smartphone ทำให้โทรศัพท์มือถือในกลุ่ม SmartPhone เป็นอะไรที่ดึงดูดผู้ใช้งานมือถือที่ต้องการอะไรที่ใหม่ๆ เข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร และเกิด LifeStyle ใหม่ๆ ซึ่งในปัจจุบัน เจ้าตลาด SmartPhone คือ iPhone ของบริษัทแอปเปิ้ล ที่โด่งดังมาตลอดในช่าม 3-5 ปีที่ผ่านมา โดยยังไม่มีใครมาทาบรัศมีได้.. แต่แล้วในปีนี้เราเริ่มจะเห็นมือถือหลายรุ่นที่มีหน้าตาการทำงานคล้ายกัน และมีความสามารถที่ทัดเทียมกับ iPhone และในบางกระแสบอกว่า ความสามารถของเจ้ามือถือนี้ ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า iPhone เสียอีก… ผู้คนเรียกขานเจ้ามือถือหลายรุ่น หลายยี่ห้อ แต่มีหน้าตาการทำงานที่เหมือนกันนี้ว่า “Android(แอนดรอยด์) Phone”
google-android
Android(แอนดรอยด์) คืออะไร? และ Android(แอนดรอยด์) Phone คืออะไร?
วิธีที่จะเข้าใจว่า Android(แอนดรอยด์) คือ อะไร? อย่างง่ายๆ ให้เราลองนึกถึง คอมพิวเตอร์ที่บ้านครับ ตอนนี้ใช้ Windows อะไรอยู่ครับ บางคนก็จะตอบว่า Windows 7, Windows Vista บางคนก็ตอบว่า Windows XP หรือบางคนอาจจะตอบว่า ผมไม่ใช้ Windows ผมใช้ Linux ซึ่งจะเป็น Linux รุ่นไหนก็ว่ากันไป … Windows หรือ Linux เราเรียกมันว่า ระบบปฏิบัติการ(OS) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าถ้าคอมพิวเตอร์ไม่ลง Windows ก็จะเปิดเครื่องเพื่อทำงานไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น โทรศัพท์มือถือ SmartPhone ก็เช่นเดียวกันครับ มันต้องการ OS ซึ่งใน iPhone นั้นบริษัทแอปเปิ้ลใช้ OS ที่ชื่อว่า iPhone OS ครับ ในขณะที่บริษัทกูเกิ้ล(Google) บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที อีกรายก็ได้ซุ่มพัฒนา OS ที่มีชื่อว่า Android(แอนดรอยด์) OS ขึ้นมา ซึ่ง Android(แอนดรอยด์) เวอร์ชั่น 1.0 ได้ถูกปล่อยออกมาใช้งานอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.ศ 2008
android_ui
Android(แอนดรอยด์) Phone คืออะไร?
เราเข้าใจว่ามันมีระบบปฏิบัติการ iPhons OS และ Android OS แล้วนะครับ เมื่อเรานำระบบปฏิบัติการ iPhone OS ไปลงในมือถือ(เหมือนที่เราเอา Windows ไปลงในคอมพิวเตอร์) มือถือที่ลงเจ้า iPhone OS ก็จะกลายเป็นโทรศัพท์มือถือ iPhone อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ และเมื่อเราเอา Android OS ไปลงในมือถือ เราก็จะได้ Android Phone … แต่ความแตกต่างกันของ iPhone และ Android Phone ก็คือ iPhone มีผู้ผลิตรายเดียวคือแอปเปิ้ล จะไม่มีใครในโลกนี้ สามารถเอามือถือมาลง iPhone OS กลายเป็น iPhone มาขายได้อย่างแอปเปิ้ล ในขณะที่ Android(แอนดรอยด์) Phone นั้นใครๆก็ผลิตได้ เพราะกูเกิ้ลแจก Android OS ฟรีๆ เราจึงเห็นโทรศัพท์มือถือ Android Phone หลายรุ่นในตลาดมือถือ ซึ่งผลิตจากหลายบริษัท ทั้ง Samsung , Sony ericsson, HTC หรือแม้แต่กระทั่ง Motorola ..
Android 2.1 หรือ Android 2.2? ตัวเลขข้างหลังคืออะไร? เพื่ออะไร?
Android(แอนดรอยด์) 2.1 เป็นหมายเลขเวอร์ชั่นของ Android Phone ครับ เหมือนที่ Windows มีทั้ง Windows95, Windows 2000, Windows XP, Windows Vista ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเวอร์ชั่นที่พัฒนาต่อๆกันมาของ Windows ครับ ใน Android OS เองก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ตอนนี้ Android OS มีทั้งหมด 8 เวอร์ชั่นแล้วครับและมีชื่อเล่นสำหรับเรียกง่ายๆด้วยครับ ยกเว้นสำหรับในเวอร์ชั่น 1.0 และ 1.1 ยังไม่มีการตั้งชื่อเล่นกันครับ ส่วนเวอร์ชั่นที่มีชื่อเล่นก็ได้แก่ CupCake(Android 1.5), Donut(Android 1.6), Éclair(Android 2.1), Froyo(Android 2.2), Gingerbread(Android 2.3), Honeycomb(Android 3.0) จะสังเกตุเห็นได้ว่า ชื่อรุ่นทุกรุ่นเป็นของหวานทั้งหมดเลยครับ และในรุ่น Android ที่จะพัฒนาในอนาคตซึ่งยังไม่มีการกำหนดเลขเวอร์ชั่นก็จะมีชื่อ ว่า Ice Cream Sandwich อีกด้วย.. แค่อ่านชื่อก็อิ่มแล้ว..

วิธีการเลือกซื้อมือถือ Android Phone

1. เลือกเวอร์ชั่นของ Android OS

เนื่องจาก Android(แอนดรอยด์) Phone  เป็นมือถือที่มีส่วนประกอบของ ระบบปฏิบัติการเป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นการเลือกซื้อ Android Phone จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึง เวอร์ชั่นของ Android(แอนดรอยด์) OS ที่เราต้องการด้วยครับ ซึ่งเมื่อไปที่ร้านมือถือตั้งใจจะซื้อ Android Phone สักเครื่อง แต่แล้วเราก็จะมึนงง เพราะว่ามือถือ Android Phone แต่ละยี่ห้อใช้ Android คนละเวอร์ชั่น! แล้วเราจะเลือกยังไงกันดี แล้ว เราต้องใช้รุ่นไหนยังไง.. Android Phone รุ่นไหนคุ้มไม่คุ้มยังไง… ความมืดแปดด้านของการเลือก Android Phone ก็เริ่มครอบงำเรา… งั้นเรามาดูรายละเอียดว่า Android(แอนดรอยด์) OS แต่ละรุ่นมีความสามารถอะไรกันบ้างดีกว่าครับ เราจะได้รู้ว่า โทรศัพท์ Android Phone รุ่นที่เราเล็งอยู่นั้น มันทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้บ้าง
android 1.5
Android(แอนดรอยด์) 1.5 (Cupcake)
Android Phone ที่ ใช้ Android(แอนดรอยด์) 1.5 จะมีความสามารถหลักๆดังนี้ ควบคุมด้วย Touch Screen
  • ใช้นิ้วแตะเพื่อควบคุมการทำงานมือถือ
ใช้บริการ Google Service
  • Web Search
  • Gmail
  • Calendar
  • Google Map
Social Network ใช้บริการ Social Network ผ่าน App ที่น่าสนใจหลายเว็บ
  • Facebook for Android
  • Twitter for Android
การติดตั้ง โปรแกรมลงใน Android Phone
  • ลงโปรแกรมผ่าน Android Phone ผ่านส่วนเชื่อมต่อที่เรียกกว่า Android Market Place
กล้อง
  • ถ่ายรูป และ ถ่ายวีดีโอ ได้
  • Upload วีดีโอขึ้น Youtube.com และ รูปถ่ายไปยัง Picasa ได้จาก Android(แอนดรอยด์) Phone โดยตรง
ระบบเดาคำศัพท์ Text-Prediction
  • ช่วยในการพิมพ์ โดย Android Phone จะช่วยเดาว่าเรากำลังพิมพ์คำว่าอะไร เพื่อลดเวลาในการพิมพ์ข้อความ
Bluetooth
  • รองรับ Bluetooth A2DP / AVRCP
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth Handfree อัตโนมัติ(เชื่อมต่อครั้งแรกต้อง Paire Device เหมือนมือถืออื่นๆ)
Home Screen
  • สามารถวาง Widget (หน้าต่างเล็กๆเพื่อโชว์การทำงานของ App เช่น โชว์ภาพถ่าย โชว์หน้าต่างเล่นเพลง แบบ Winamp
รายการโทรศัพท์มือถือ Android Phone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 1.5
android_phone_1_5

android_1_6_toppic
Android(แอนดรอยด์) 1.6 (Donut)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 1.6 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 1.5 ดังนี้
Web History / contact list Search
  • เพิ่มการค้นหาในสถิติการใช้งานเว็บไซต์ และรายชื่อ contacts ใน Android Phone
Android(แอนดรอยด์) Phone พูดได้ Text-to-Speech
  • Android Phone สามารถพูดตามข้อความได้(text-to-speech) เช่นการอ่านข้อความ sms โดยเราไม่จำเป็นต้องอ่านเอง
Voice Control
  • โทรออกด้วยเสียง
  • Google Search ด้วยเสียง
รายการโทรศัพท์มือถือ Android(แอนดรอยด์) Phone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 1.6
android_phone_1_6
android_2_1_toppic
Android(แอนดรอยด์) 2.0/2.1 (Eclair)   Android Phone ที่ลงระบบ Android 2.0/2.1 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 1.6 ดังนี้
Performance
  • ปรับปรุงความเร็วในการทำงานของ Android ให้เร็วยิ่งขึ้น
  • ปรับปรุง User Interface
  • ปรับปรุง รายการติดต่อ(Contact Lists)
  • ปรับปรุงการแสดงผล ขาว-ดำ
  • ใช้งาน Multi-Touch Screen ได้
  • ปรับปรุง คีย์บอร์ดเสมือน(คีย์บอร์ดบนหน้าจอ)
Internet Browser
  • ปรับปรุง Internet Browser และพัฒนารองรับเทคโนโลยี HTML5
Google Service
  • ใช้ Google Maps 3.1.2
  • รองรับ Microsoft Exchange
Camera
  • รองรับการใช้ Flash สำหรับการถ่ายรูป
  • กล้องถ่ายรูป ซูมระดับดิจิตอลได้
Home Screen
  • Live Wallpapers (วอลล์เปเปอร์ แบบเคลื่อนไหวและตอบสนองการกดหน้าจอได้ เช่น หน้าจอแบบพื้นน้ำ)
Bluetooth
  • รองรับ Bluetooth 2.1
รายการโทรศัพท์มือถือ Android Phone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.0/2.1
android_phone_2_0
android_2_2_toppic
Android(แอนดรอยด์) 2.2 (Froyo)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 2.2 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 2.1 ดังนี้
Performance
  • การทำงานของ Android Phone เร็วขึ้น 5 เท่า
  • รองรับการลงโปรแกรมลงใน Memory Card
  • เปลี่ยนภาษาบน keyboard Android Phone ได้ง่ายๆ
Internet Tethering
  • ใช้ Android Phone เป็นโมเด็มสำหรับต่ออินเตอร์เน็ตให้คอมพิวเตอร์ได้(Tethering)
  • แปลงร่าง Android Phone เป็น Wifi Hotspot
Internet Browser
  • รองรับการใช้ Adobe Flash 10.1 (ทำงานเร็วขึ้น)
  • Brower ใหม่ใช้ความสามารถของ Chrome และ JavaScript Engine
  • Browser ใช้งาน file upload ได้
Google Service
  • ปรับปรุงความสามารถ Microsoft Exchange สามารถ sync ปฏิทินได้
Bluetooth
  • โทรออกด้วยเสียงผ่าน Bluetooth
รายการโทรศัพท์มือถือ Android Phone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.2
android_phone_2_2

android_2_3_toppic
     Android(แอนดรอยด์) 2.3/2.4 (Gingerbread)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 2.3/2.4 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 2.2 ดังนี้
การแสดงผล
  • รองรับหน้าจอขนาดความละเอียด WXGA (1280×768) หรือสูงกว่า
Performance
  • ปรับปรุงการทำงานให้เร็วขึ้น
  • ปรับปรุงระบบฟังก์ชั่นการทำงานของการ Copy-Paste
  • ทำการปรับปรุงระบบ Multi-Touch ของซอฟต์แวร์ keyboard
  • ปรับปรุงระบบการจัดการพลังงานแบตเตอร์รี่ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น
Internet Tethering
  • รองรับการสื่อสารแบบ SIP และ VoIP
Internet Browser
  • มีการเพิ่มโปรแกรม Download Manager เพื่อรองรับการดาวน์โหลดที่ต้องใช้ระยะเวลานาน
Multimedia
  • รองรับไฟล์วีดีโอประเภท WebM/VP8
  • รองรับไฟล์เสียงประเภท ACC
ด้านอื่นๆ
  • สนับสนุน Near field communication(NFC) ทำให้มือถือสามารถอ่าน RFID ได้
  • สนับสนุนระบบเซ็นเซอร์พื้นฐานต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น gyroscopes และ barometers เป็นต้น
  • สนับสนุนการทำงานร่วมกับกล้องหลายๆ ตัว
 รายการโทรศัพท์มือถือ Android Phone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.3/2.4
android_phone_2_3

  

android_3_0_toppic
Android(แอนดรอยด์) 3.0 (Honeycomb)
Android Phone ที่ลงระบบ Android 3.0 จะมีความสามารถที่พัฒนาจาก Android 2.3 ดังนี้
การแสดงผล
  • รองรับการแสดงผลแบบ 3D สามมิติ
  • อินเทอร์เฟซแบบใหม่เรียกว่า "Holographic" โดยเพิ่มฟีเจอร์ด้าน 3D
Performance
  • ปรับปรุงการทำงานให้เร็วขึ้น
  • ปรับปรุงระบบ Multi-Tasking
  • การสั่งงานผ่านเมนูที่ถูกซ่อนไว้จะถูกเปลี่ยนเป็น button bar ให้เห็นปุ่มชัดๆ
Internet Browser
  • ปรุงเบราว์เซอร์ให้รองรับ Tablet
  • สามารถ sync กับ Chrome Bookmarks ได้
Google Service
  • สามารถใช้งาน Google eBooks
  • รองรับการใช้งาน Google Talk ที่สนทนาผ่านวิดีโอได้
ด้านอื่นๆ
  • สามารถใช้ได้กับฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีปุ่มจริงเช่น Tablet เพราะออกแบบมาให้รองรับ Virtual Buttons
สำหรับ โทรศัพท์ Android Phone ที่ใช้งาน Android(แอนดรอยด์) 3.0 ยังไม่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันนะครับ แต่มีเปิดตัวในส่วนของ Tablet ไปแล้วคือ
- Motorola Xoom
- Acer Iconia Tab A100
- Samsung Galaxy Tab 10.1 P7100

  

2. พิจารณาคุณสมบัติด้านอุปกรณ์ในตัวเครื่อง  

นอกจากจะต้องพิจารณา Android(แอนดรอยด์) OS แล้วเรายังต้องพิจารณาคุณสมบัติของอุปกรณ์ในเครื่องด้วยนะครับ ซึ่งประกอบไปด้วย
  • หน้าจอ ใช้วัสดุอะไรในการประกอบ ซึ่งมีตั้งแต่ LCD LED AMOLED หรือ Super AMOLED ตัวใหม่แบบอินเทรนด์
  • หน้าจอ รองรับการใช้ Touch screen และ multi touch screen หรือไม่
  • CPU ที่ใช้เป็นยี่ห้ออะไร มีความเร็วเท่าไหร่ โดย มีหน่วยวัดเป็น Hz นะครับ คล้ายการวัดใน cpu เครื่องคอมพิวเตอร์ และแน่นอนว่า ยิ่งมีความเร็วมาก ก็ยิ่งดีครับ(ก็จะมีราคาสูงตามนะครับ)
  • หน่วยความจำภายใน เนื่องจาก Android Phone ต้องการหน่วยความจำภายในตัวหลักในการลง Android OS และ App สำหรับการใช้งาน(สำหรับ Android 2.2 จะสามารถลง App ใน sd-card ได้ ปัญหาเรื่องนี้จึงไม่มี แต่ถ้าเป็น Android(แอนดรอยด์)รุ่นต่ำกว่านี้ ต้องคิดเรื่อง ความจุของหน่วยความจำให้ดีครับ)
  • คุณภาพของเสียง ซึ่งผู้ผลิตแต่ละรายก็จะมี มาตรฐานการพัฒนาคุณภาพเสียงที่แตกต่างกันออกไป เป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญครับ
  • อุปกรณ์รับสัญญาณ GPS เป็นชิ ปประมวลผลเล็กๆที่อยู่ใน Android Phone ซึ่งเจ้าตัวนี้มีผลต่อการใช้งาน Application หลายตัวเลยนะครับ Android Phone บางรุ่นมีอุปกรณ์รับสัญญาณ GPS บางตัวก็ไม่มีครับ
  • อุปกรณ์รับสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ เข็มทิศดิจิตอล แบบที่เห็นใน iPhone นั่นเองครับ
  • คุณภาพของกล้องที่ Android Phone แต่ละรุ่นก็จะมีความสามารถในการถ่ายรูปที่ไม่เท่ากันครับ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเลนส์และหน่วยประมวลภาพ
อย่าลืมนะครับ Android Phone ประกอบด้วยส่วนของ Android(แอนดรอยด์) OS และ คุณสมบัติด้านฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่อง ก่อนซื้ออย่าลืมตรวจสอบว่า Android Phone ที่ซื้อนั้นเป็นไปตามความต้องการของเราจริงๆนะครับ.