6/23/2556

สร้าง Mind Map ด้วยโปรแกรม XMIND เพื่อการวางแผนกลยุทธ์

Mind Map with XMind



Mind Map
Mind Map หรือ Mind-Map แปลตรงตัวว่า แผนที่ความคิด บางท่านอาจจะเรียกว่าแผนผังความคิดหรือแผนภาพความคิด เป็นทฤษฎีในการนำเอาสมองมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ 

ทฤษฎีนี้คิดขึ้นโดยโทนี บูซาน (Tony Buzan) นักจิตวิทยาชาวอังกฤษ ปัจจุบันมีผู้นำเอาทฤษฎีของบูซาน ไปใช้งานจำนวนมาก ใน ไทยเราเองส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในแวดวงการศึกษา โดยเฉพาะในการสอนให้เด็กนักเรียนฝึกใช้สมองในการเขียนแผนที่ความคิดสร้างจิต นาการต่างๆ ออกมา การ เขียนแผนที่ความคิดจะมีโครงสร้างและแนวความคิดแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่ว่าเราจะนำมาเขียนแนวความคิดเกี่ยวกับอะไร Mind Map จะช่วยคุณในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้
• ช่วยในการเรียนรู้ต่างๆ ของมนุษย์ได้รวดเร็วขึ้น
• สร้างจากสิ่งที่เป็นนามธรรมสู่รูปธรรม
• ใช้แก้ปัญหาปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
• ใช้ในการทำการตัดสินใจกรณีมีทางเลือกหลายๆ ทาง 

โปรแกรม XMind 
แล้ว หากเราจะวาดภาพ Mind Map โดยใช้โปรแกรมนั้น ผมขอแนะนำโปรแกรมตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Xmind ซึ่งสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่าโปรแกรมประเภท Mind Map โดย แนะนำเวอร์ชั่น XMind 3 เพราะเป็นเวอร์ชันที่เรานำไปใช้ได้ฟรี (แต่ถ้าเป็นเวอร์ชัน XMind Pro 3 นั้น จะต้องเสียเงิน) ความสามารถของโปรแกรม XMind 3 มีดังนี้ครับ

• สามารถทำ Mind Map ได้ 
• สามารถแสดงเป็นในรูปแบบ Fishbone Diagram หรือแผนภูมิก้างปลา
• ทำเป็น Spreadsheet ได้
• ความสามารถในการทำตำแหน่งใช้ icon ทำตำแหน่ง Marker
• สามารถแทรกหมายเหตุเพิ่มเติม(Note)เข้าไปในแผนภูมิได้
• แนบไฟล์ หรือลิ้งค์เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เราเขียนก็ได้
• สามารถ Export ออกมาเป็น Html / PNG / JPEG / BMP ได้เหมือนกัน
• สามารถนำออกไปแชร์กับผู้อื่นผ่านทางอินเตอร์เนตได้
• สามารถนำเข้าไฟล์จาก Free Mind และจาก Mind Manager ก็ได้

สำหรับวิธีใช้งานนั้น ดูได้จากศึกษาได้จาก VDO Tutorial ที่นี่ได้ครับ

6/14/2556

เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtualization)

http://www.cisco.com/web/TH/about/assets/images/cloudbased.jpg


ในโลกของวงการไอที เรามักจะเห็นวงจรการพัฒนาที่ค่อนข้างเหมือนเดิมซ้ำๆ มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว นั่นคือการพัฒนาในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ ที่ดูเหมือนจะแข่งกันว่าใครจะล้ำหน้ากว่าใคร บางทีฮาร์ดแวร์สามารถพัฒนาจนมีความเร็ว และหน่วยความจำมากพอเกินกว่าที่ซอร์ฟแวร์ต้องการใช้ บางครั้งก็เป็นจังหวะที่ซอร์ฟแวร์มีความล้ำหน้า จนไม่สามารถหาฮาร์ดแวร์ที่เร็วพอจะวิ่งได้ อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันนี้ ที่มีฮาร์ดแวร์ซึ่งถูกพัฒนามาจนมีสมรรถนะสูง และหน่วยความจำมากมายจนเกินพอ สำหรับซอร์ฟแวร์หรือแอพพลิเคชั่นหลาย ๆ ตัวเลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีซอร์ฟแวร์ หรือแอพพลิเคชั่นอีกมากที่ยังต้องการฮาร์ดแวร์ ที่มีประสิทธิภาพสูงๆ เพื่อให้เพียงพอกับภาวะการใช้งานที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล หรือมีทำรายการอย่างต่อเนื่องไม่สะดุดได้ ทำให้เริ่มเกิดช่องว่างระหว่างแอพพลิเคชั่น ที่ต้องการทรัพยากรมากๆ (อันเกิดจากภาวะการใช้งานจริง) กับแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ทั่วไป ด้วยเหตุนี้จึงเกิดแนวความคิดที่จะพัฒนาอุปกรณ์ “เสมือนจริง” เพื่อเติมเต็มช่องว่างของแอพพลิเคชั่น และฮาร์ดแวร์ต่างๆ ขึ้น และด้วยเทคโนโลยีนี้ยังสามารถพัฒนา ต่อยอดให้เกิดการให้บริการ “เสมือนจริง” จากทางด้านแอพพลิเคชั่นให้แก่ผู้ใช้ด้วย ซึ่งเทคโนโลยีใหม่นี้ผู้เขียนขออนุญาต ใช้คำว่าเทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ Virtualization

แนวคิดของเทคโนโลยีเสมือนจริง คือการที่จะรักษาระดับการให้บริการ หรือที่มักเรียกติดปากว่า “SLA” (Service Level Agreement) ให้กับผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง และรวดเร็วเพียงพอของแอพพลิเคชั่น หรือบริการใดๆ ก็แล้วแต่ ดังนั้นการให้บริการกับผู้ใช้ของแอพพลิเคชั่น จะไม่ผูกติดกับฮาร์ดแวร์จริงใดๆ เพื่อที่จะสามารถดึงเอาทรัพยากรต่างๆ ในระบบมาใช้วิ่งงานได้อย่างเต็มที่ และต่อเนื่องคล้ายๆ กับว่าแอพพลิเคชั่นนั้นกำลังวิ่งอยู่บน “เครื่องเสมือนจริง” นั่นเอง โดยหลักใหญ่แล้วทรัพยากรสำคัญๆ ที่เป็นที่สนใจในขณะนี้ก็คือซีพียู (หมายรวมถึงหน่วยความจำแรมที่ใช้งานด้วย) และระบบจัดเก็บข้อมูล

เครื่องเสมือนจริงที่วิ่งแอพพลิเคชั่นอยู่นั้น สามารถที่จะดึงกำลังของซีพียู ของเครื่องจริงเครื่องใดที่ยังเหลือ หรือว่างอยู่มาใช้งานได้ และในทำนองเดียวกันมันสามารถเก็บข้อมูลลงบน “ฮาร์ดดิสก์เสมือนจริง” ซึ่งที่จริงก็คือเก็บข้อมูลลงบนฮาร์ดดิสก์จริงที่อยู่ที่ไหนก็ได้ ด้วยหลักการทำงานแบบนี้จะเห็นว่า แอพพลิเคชั่นสามารถวิ่งให้บริการผู้ใช้ อยู่บนฮาร์ดแวร์จริงได้หลายๆ เครื่อง ทำให้เกิดความต่อเนื่องในการบริการอย่างสูง ถึงแม้จะมีฮาร์แวร์จริงบางเครื่องที่มีปัญหา หรือเสียจนใช้งานไม่ได้ก็ไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการ นอกจากนี้แอพพลิเคชั่นเองยังมีประสิทธิภาพ ของการให้บริการที่ดีอีกด้วย โดยลักษณะการใช้งานในปัจจุบันเรา มักจะจัดกลุ่มของเซิร์ฟเวอร์ไว้อยู่ด้วยกัน เป็นเซิร์ฟเวอร์ฟาร์มอยู่แล้ว เทคโนโลยีเสมือนจริงนี้จะเข้ามาช่วย ให้การใช้งานเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงสุด และเรายังอาจขยายการใช้งานติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ฟาร์ม ออกไปยังศูนย์สำรองได้อีกด้วย เรายังใช้ลักษณะเดียวกันนี้ กับระบบจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถออกแบบ ให้มีระบบจัดเก็บข้อมูลจริงอยู่สองถึงสามชุด ที่ศูนย์หลัก และศูนย์สำรองได้ด้วยเช่นกัน โดยแอพพลิเคชั่นหรือเซิร์ฟเวอร์จะมองเห็น เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลเพียงชุดเดียว

ถึงจุดนี้จะเห็นว่าเทคโนโลยีเสมือนจริง จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องมีระบบเครือข่าย ที่มีประสิทธิภาพ และความอัจฉริยะเพียงพอที่จะรองรับการทำงานเหล่านี้ เพื่อเชื่อมต่อทรัพยากรจริงทั้งหลาย ให้กลายเป็นทรัพยากรเสมือนได้ ฉะนั้นปัจจัยหลักพื้นฐานที่จะสร้างระบบเสมือนจริง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็คือ การเตรียมระบบเครือข่ายอัจฉะริยะเสียตั้งแต่วันนี้

ตอนนี้คงมองเห็นถึงการเกิดเซิร์ฟเวอร์ และระบบเก็บข้อมูลเสมือนจริงกันแล้ว ในอนาคตตัวแอพพลิเคชั่นเอง หรือบริการของแอพพลิเคชั่นที่ให้กับผู้ใช้ หรือให้กับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็จะเป็นแบบเสมือนจริงได้ด้วย กล่าวคือการเรียกใช้บริการต่างๆ จากแอพพลิเคชั่น ผู้ใช้ (หรือแอพพลิเคชั่นอื่นที่เรียกใช้บริการ) ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าบริการเหล่านั้น อยู่ที่ใด หรืออยู่บนเซิร์ฟเวอร์เครื่องไหน แต่จะเรียกใช้บริการจากเครือข่ายได้โดยตรง โดยระบบเครือข่ายเองจะเป็นผู้มีหน้าที่ จัดหาบริการเหล่านั้นมาบริการให้เอง ซึ่งจะเห็นว่าระบบเครือข่ายเริ่มที่จะขยายขอบเขต การบริการล้ำเข้าไปในฝั่งของแอพพลิเคชั่นมากขึ้น เราอาจเรียกระบบเครือข่ายนี้ว่า “เครือข่ายเชิงแอพพลิเคชั่น” หรือ AON (Application Oriented Network)

เทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtualization)

โดย มงคล อัศวโกวิทกรณ์ ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมระบบ

บทความจากซิสโก้ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ MPLS Multiprotocol Label Switching (MPLS)

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ MPLS

แม้จะฟังดูยากและอาจจะออกในแนวเทคนิคไปนิดแต่ Multiprotocol Label Switching (MPLS) สามารถช่วยให้การต่อเชื่อมระหว่างสำนักงานนั้นง่ายขึ้น, มีประสิทธิภาพมากขึ้น, และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเสียจนผู้ใช้บริการหลายต่อหลายคน ร้องขอให้มีการใช้งาน หรือองค์กรของท่าน อาจได้มีการใช้งานอยู่แล้วก็เป็นได้


การให้บริการ MPLS นั้นนับเป็นหัวข้อในลำดับต้นๆ ของผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยเรา ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการแก่ลูกค้าระดับองค์กร และในทางกลับกันการใช้งาน MPLS ก็เป็นที่สนใจของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งนี้เนื่องจากการใช้บริการต่างๆ บนเครือข่ายของผู้ให้บริการที่เพิ่มขึ้น ก็เท่ากับการลดภาระในการดูแลระบบด้านไอทีภายในองค์กรลง
ถ้าจะลองเปรียบเทียบการทำงานของ MPLS กับการส่งพัสดุ หรือการที่ท่านโหลดกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องบินนั้น เราทุกคนต้องการที่จะมั่นใจว่าสัมภาระหรือพัสดุของเรานั้น ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ทันเวลา และอยู่ในสภาพที่ดีครบถ้วนเหมือนตอนที่ส่งไปจากเรา ทั้งนี้โดยมากแล้ว ก็จะมีการติดป้ายหรือสติกเกอร์ลงไปที่กล่องพัสดุ หรือกระเป๋าเราว่า “ห้ามทับ”, “ระวังแตก”, หรือ “ห้ามโยน” ซึ่งจะบอกกับทุกคนว่าต้องทำอย่างไรกับสิ่งของเหล่านั้น
Multiprotocol Label Switching (MPLS) ก็มีการทำงานในรูปแบบเดียวกันกับข้อมูลต่างๆ ที่มีการส่งผ่านไปมาในระบบเครือข่าย โดยจะมีการติดเครื่องหมาย (Label) ให้กับแต่ละหน่วยข้อมูลที่เรียกว่าแพ็คเก็ท (Packet) เพื่อที่จะบอกอุปกรณ์เครือข่าย อย่างเช่นเราเตอร์และสวิสท์ ให้ทำการส่งข้อมูลไปในทิศทาง และรูปแบบที่กำหนดไว้ และสำหรับข้อมูลที่มีความสำคัญมาก ก็จะได้รับการส่งแบบพิเศษกว่าข้อมูลอื่นๆ
ดังที่ได้กล่าวมาในขั้นต้นว่า ผู้ให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคม ต่างก็ให้ความสนใจในการติดตั้งระบบ MPLS ซึ่งจะช่วยเพิ่มรูปแบบการให้บริการแก่ลูกค้า และการที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ต่างให้ความสนใจกับ MPLS นั้นเนื่องจากว่า มันสามารถทำให้ผู้ให้บริการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเดียวที่พวกเขามีอยู่ ในการให้บริการที่หลากหลายแทนที่จะต้อง ลงทุนในการสร้างระบบเครือข่ายที่แยกจากกันหลายๆ ระบบ เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ และยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถเสนอการใช้แอพพิเคชัน และรูปแบบการให้บริการที่มากขึ้นแก่ลูกค้า โดยผ่านโครงสร้างระบบเครือข่ายของผู้ให้บริการทั้งหมดได้ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนด้านอุปกรณ์สำหรับลูกค้า และเพิ่มมูลค่าให้กับการให้บริการที่หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ให้บริการเอง
MPLS สามารถให้ประโยชน์กับผู้ใช้งานได้เช่นเดียวกับผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม ยิ่งถ้ามีการเพิ่มมูลค่าให้กับบริการที่ใช้งานอยู่บนเครือข่ายของผู้ให้ บริการเพิ่มขึ้น ก็หมายความว่าภาระในการดูแลระบบเครือข่าย ของฝั่งผู้ใช้นั้นก็น้อยลงตามไปด้วย และจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น เช่นถ้าผู้ให้บริการสร้างระบบเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network, VPN) ที่มีการรับรองคุณภาพในการให้บริการ (Quality of Service) ผ่าน MPLS ในการให้บริการแก่ลูกค้านั้น จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการใช้เครือข่ายในการสื่อสารทั้งภาพ เสียง และข้อมูล ผ่านระบบเครือข่ายเดียวกัน มากกว่าที่จะแยกการสื่อสารผ่านระบบเสียงและข้อมูลที่แยกจากกันเหมือนในอดีต สำหรับการใช้งาน MPLS ในปัจจุบันนั้น โดยมากจะใช้ควบคู่ไปกับเครือข่ายส่วนตัวเสมือน หรือ VPN ซึ่งผู้ใช้บริการที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย จากการเช่าสายวงจรสื่อสารที่เชื่อมต่อระหว่างสำนักงาน ก็สามารถมีทางเลือกใหม่ในการใช้ VPN ที่มีความปลอดภัยในการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายสาธารณะ หรืออินเทอร์เน็ต ได้โดยที่ MPLS จะเข้ามาช่วยในการ ทำให้ VPN นั้นเป็นเครือข่ายขององค์กร ที่ทำงานอยู่บนระบบเครือข่ายของผู้ให้บริการ แทนที่จะต้องทำงานอยู่บนอุปกรณ์เครือข่ายของผู้ใช้ และด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ MPLS-based VPN สามารถช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่มีสำนักงานสาขาหลายแห่ง และมีการส่งข้อมูลถึงกันในแต่ละสาขาโดยตรง
ดูเหมือนกับว่า MPLS โดยทางเทคนิคแล้ว จะถูกสร้างมาเพื่อพัฒนา และก่อให้เกิดการใช้งานด้าน VPN ในองค์กรมากยิ่งขึ้น เพราะว่า MPLS-based VPN มีความคล่องตัว และสามารถขยายขนาดได้ง่ายกว่า VPN ชนิดอื่นๆ การสร้างและติด ตั้งการเชื่อมต่อ VPN ไปยังสำนักงานสาขาใหม่โดยใช้ MPLS นั้นมีความง่ายในการติดตั้งมากกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่นอกจากนี้ MPLS ยังสามารถให้บริการผ่านโครงข่าย ATM (Asynchronous Transfer Mode) หรือโครงข่าย Frame Relay ได้ซึ่งทำให้การปรับเปลี่ยนเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
การให้บริการ MPLS นั้นค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหม่ และแนวโน้มเมื่อมีการให้บริการเพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้อัตราค่าใช้บริการนั้นถูกลงในอนาคต ทั้งนี้เทคโนโลยี MPLS เพิ่งจะถูกใช้งานมาไม่ถึง 4 ปี และมีให้บริการแก่ผู้ใช้ประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมานี้เอง โดยเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้บีบอัดและส่งข้อมูลจำนวนมาก เข้าไปในแบนด์วิธ หรือ ช่องสัญญาณที่มีอยู่เดิมได้ ซึ่งส่งผลให้สามารถเลื่อน หรือผลัดผ่อนการขยายช่องสัญญาณ (แบนด์วิธ) ออกไปได้ และเมื่อใช้บริการระบบ MPLS ด้วยแล้ว จะช่วยให้สามารถทำการบริหารจัดการระบบเครือข่าย โดยลดความซับซ้อนลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรที่ทำการบริหารจัดการการเชื่อมต่อ Frame Relay ด้วยตนเองจะยิ่งเห็นประโยชน์ได้อย่างชัดเจน
แนวโน้มในการใช้บริการต่างๆ จากภายนอกองค์กร หรือที่เรียกว่า Outsourcing นั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อมีการใช้ งาน MPLS เราก็สามารถที่จะ Outsource การดูแลการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายให้กับผู้ให้บริการได้มากยิ่งขึ้น และในบริการด้านโทรคมนาคมต่างๆ นั้น MPLS VPN นับเป็นบริการที่ได้รับความสนใจมากที่สุด โดยเป็นบริการการเชื่อมต่อความเร็วสูง ให้กับผู้ใช้ที่อยู่นอกสำนักงานในระยะไกล ไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างเดินทาง ทำงานจากสำนักงานของบริษัทคู่ค้า หรือจะเป็นการทำงานจากที่บ้าน โดยไม่ขึ้นอยู่กับโครงข่ายของผู้ให้บริการแอสเสสรายใด ขอเพียงแค่สามารถต่อเชื่อมสู่อินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น DSL อีเทอร์เน็ต ไดอัล-อัพ หรือจะเป็นเคเบิลโมเด็ม
บริษัทและองค์กรควรจะมอง MPLS ในมุมของการใช้งานในภาพรวมของแผนพัฒนาระบบเครือข่าย ทั้งนี้เนื่องจากว่า เทคโนโลยีและแนวโน้มการใช้งานใหม่ๆ อย่างเช่น MPLS, IPv6, ระบบแลนไร้สาย 802.11, และ IP Mobility ล้วนแล้ว แต่ได้รับการพัฒนาโดยหน่วยงานด้านมาตรฐานต่างๆ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่บุคลากรด้านไอที ต้องเรียนรู้และพัฒนาแผนการดำเนินการ ให้มีความสอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้กล่าวมาด้วยเหตุผลที่ว่า เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้จะมีส่วนอย่างมาก ในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาปัตยกรรมเครือข่ายขององค์กร ที่จะมีการใช้งานทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต

6/04/2556

การลงทะเบียน Line Pc (Line for PC)

 การลงทะเบียน Line Pc (Line for PC)



การลงทะเบียนการใช้งาน LINE PC หรือ Line for PC
    เปิดแอพพลิเคชั่น LINE ที่ติดตั้งใช้งานบนโทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android
    ไปที่เมนู More (…) ด้านล่าง -> Setting (รูปฟั่นเฟือง)
    หลังจากนั้นเลือกเมนู Accounts -> Email Registration (หากมันขึ้นว่า Not YET ก็ขอให้กดเข้าไป เพื่อทำการลงทะเบียน)
    กรอกอีเมล์ที่จะใช้ลงทะเบียนเพื่อเล่น LINE PC ตามด้วยรหัสผ่าน (Password) (ข้อกำหนด ความยาวรหัสผ่าน ระหว่าง 12 ถึง 20 ตัวอักษร)
    ดาวน์โหลดโปรแกรม LINE PC ได้จากที่นี้เลย  http://www.linepc.in.th
    ติดตั้งลงโปรแกรมและเปิดใช้งานโปรแกรม LINE PC แล้วให้ใช้อีเมล์ พร้อมรหัสผ่าน ที่เรากรอกใส่เข้าไป ตอนลงทะเบียนอีเมล์
    เสร็จเรียบร้อยสำหรับการติดตั้งโปรแกรม LINE for PC สามารถเรียกใช้งานและเปิดโปรแกรมได้ทันที

เพียงแค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย สามารถล็อคอินเข้าไปใช้งานได้ตามปกติ เหมือนกับการเล่นบนมือถือเลย หวังว่าทุกคนคงสนุกกับการใช้งานโปรแกรม Line PC กันนะครับ




Line PC (Line Pc for Windows)



ดาวน์โหลด Line PC สำหรับผู้ใช้งาน Windows ( XP / Vista / 7)
โปรแกรม LINE PC (Line for PC) นี้ ผู้พัฒนาโปรแกรม LINE PC สามารถให้ผู้ใช้งานทุกคนดาวน์โหลดไปติดตั้งใช้งานกันได้ฟรี Free!! โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมการติดตั้งที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานบน Windows ( XP / Vista / 7) สำหรับใครที่สนใจอยากดาวน์โหลดโปรแกรม สามารถดาวน์โหลด ได้เลย

คลิกดาวน์โหลดได้ ที่นี้ http://dl.desktop.line.naver.jp/naver/LINE/win/LineInst.exe

และ สามารถดูขั้นตอนการติดตั้งใช้งานได้ที่

http://thaicourt.blogspot.com/2013/06/line-pc-line-for-pc.html

ดาวน์โหลด Line PC สำหรับผู้ใช้งาน Mac OS

โปรแกรม LINE PC (Line for PC) นี้ ผู้พัฒนาโปรแกรม LINE PC สามารถให้ผู้ใช้งานทุกคนดาวน์โหลดไปติดตั้งใช้งานกันได้ฟรี Free!! โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมการติดตั้งที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานบน Mac OS สำหรับใครที่สนใจอยากดาวน์โหลดโปรแกรม สามารถดาวน์โหลด ได้เลย

คลิกดาวน์โหลดได้ ที่นี้ http://dl.desktop.line.naver.jp/naver/LINE/osx/Line.dmg

และ สามารถดูขั้นตอนการติดตั้งใช้งานได้ที่

http://thaicourt.blogspot.com/2013/06/line-pc-line-for-pc.html

ดาวน์โหลด Line PC สำหรับผู้ใช้งาน Mac OS

โปรแกรม LINE PC (Line for PC) นี้ ผู้พัฒนาโปรแกรม LINE PC สามารถให้ผู้ใช้งานทุกคนดาวน์โหลดไปติดตั้งใช้งานกันได้ฟรี Free!! โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมการติดตั้งที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานบน Mac OS สำหรับใครที่สนใจอยากดาวน์โหลดโปรแกรม สามารถดาวน์โหลด ได้เลย

คลิกดาวน์โหลดได้ ที่นี้ http://dl.desktop.line.naver.jp/naver/LINE/osx/Line.dmg

และ สามารถดูขั้นตอนการติดตั้งใช้งานได้ที่

http://thaicourt.blogspot.com/2013/06/line-pc-line-for-pc.html

 Line PC (Line Pc for Windows)

ดาวน์โหลด Line PC สำหรับผู้ใช้งาน Windows 8

โปรแกรม LINE PC (Line for PC) นี้ ผู้พัฒนาโปรแกรม LINE PC สามารถให้ผู้ใช้งานทุกคนดาวน์โหลดไปติดตั้งใช้งานกันได้ฟรี Free!! โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมการติดตั้งที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานบน Windows 8 สำหรับใครที่สนใจอยากดาวน์โหลดโปรแกรม สามารถดาวน์โหลด ได้เลย

คลิกดาวน์โหลดได้ ที่นี้ http://apps.microsoft.com/windows/app/line/b039ba22-c3af-45b3-aea2-83d612c9bce6

และ สามารถดูขั้นตอนการติดตั้งใช้งานได้ที่

http://thaicourt.blogspot.com/2013/06/line-pc-line-for-pc.html

โปรแกรมแชท Line PC (LINE for PC)

โปรแกรมแชท Line PC (LINE for PC)




LINE แอพพลิเคชั่นยอดฮิตที่ได้รับความนิยมในการใช้ เป็นแอพพลิเคชั่นแชทออนไลน์ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone , Android , Windows และ Black Berry มีความสามารถในการใช้งานคล้ายๆ กับแอพพลิเคชั่น WhatsApp ที่ใช้เบอร์โทรศัพท์ในการลงทะเบียน เพื่อยืนยันตัวตนในการใช้งาน แต่สำหรับโปรแกรม LINE นั้นมีการเพิ่มฟีเจอร์และลูกเล่นมากมาย ให้น่าสนใจเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน เช่น สติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนน่ารักๆ ที่สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ทั้งฟรีและเสียตัง ,สนทนาผ่านทางข้อความ , สามารถสนทนาออนไลน์ผ่านเสียงได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ , สามารถปรับแต่งภาพวอลเปเปอร์แบคกราวด์ได้ตามที่ต้อง , สนทนาได้ทั้งแบบกลุ่มและแบบรายบุคคล และมีเกมส์ให้เล่นอีกมากมาย สามารถอ่านและติดตามข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติมได้จากการใช้งาน LINELINE แอพพลิเคชั่นแชทยอดนิยม เป็นอีกหนึ่งแอพฯ ที่มียอดดาวน์โหลดในการใช้งานมากที่สุดถึง 40 ประเทศ ยอดจำนวนดาวน์โหลดใช้งานทั้งหมดมากกว่า 1,000 ล้านบัญชี และเพิ่มจำนวนการใช้งานเรื่อยๆ แอพพลิเคชั่นนี้เป็นโปรแกรมบริการส่งข้อความ ที่ได้รับความนิยมชื่นชอบในการใช้งานมากกว่า 230 ประเทศ โดยค่าธรรมเนียมในการใช้งานั้นขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของคุณ
LINE เป็นแอพพลิเคชั่นยอดนิยมที่ผสมผสานระหว่าง Msesaging และ Voice เข้าด้วยกัน จึงทำให้เกิดการพัฒนาและออกแบบมาเป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานในการสนทนา แชท สร้างกลุ่มพูดคุย ส่งข้อความ แชร์ไฟล์รูปภาพ หรือ สนทนาผ่านเสียง โดยข้อมูลทั้งหมดไม่ต้องเสียเงินเลย ใครที่มีสมาร์ทโฟนและใช้แพคเก็จอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ก็สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งมีการทำงานของ LINE เอง

ล่าสุดเอง LINE ก็ได้พัฒนาขยายแพลตฟอร์มการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพื่อการรองรับการใช้งานสำหรับผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยได้พัฒนาไปยังสมาร์ทโฟนต่างๆ เช่น iPhone , Android , Windows Phone , Black Berry ต่างก็สามารถใช้งานได้ฟรี และสำหรับคอมพิวเตอร์ก็ไม่ควรพลาด เพราะผู้พัฒนาเองได้ออก LINE PC เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เพื่อรองรับการใช้งานบน PC หรือคอมพิวเตอร์ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac OS โดยจะต้องสมัครสมาชิกบน LINE Account เดียวกับโทรศัพท์มือถือเสียก่อน เนื่องจากระบบอ้างอิงจาก LINE ID ของผู้ใช้งานนั้นๆ โดย สามารถลงทะเบียน LINE เพื่อใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ
  • เปิดแอพฯ LINE จากนั้นไปที่เมนู More > Settings > Accounts > Email Registration
  • กรอกข้อมูลอีเมลเพื่อใช้ในการสมัคร LINE สำหรับใช้บนคอมพิวเตอร์
  • โหลดโปรแกรม LINE แล้วติดตั้งลงบนคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย
  • ล็อคอินเข้าใช้งาน LINE ด้วยอีเมลและพาสเวิร์ดที่สมัครไว้



ดาวน์โหลด LINE เวอร์ชั่น PC

ดาวน์โหลด LINE บน Mobile