7/25/2559

แต่งภาพเป็นกลุ่ม จาก Action ที่ save ใว้ ใน Phoshop สั้นๆ ง่ายๆ

แต่งภาพเป็นกลุ่มใน Phoshop สั้นๆ ง่ายๆ

Photoshop ช่วยทำให้รูปภาพของเราสวยขึ้นเป็นอย่างมาก แต่หากเรามีภาพเยอะๆ แต่ต้องการให้รูปภาพของเราออกมาแนวเดียวกัน วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการทำนะครับ ไม่ยากเลยครับ แป๊บเดียว เสร็จทั้งโฟล์เดอร์เลยครับ

                วิธีทำ

               1. เปิดโปรแกรม Photoshop ขึ้นมา ไปที่ File >> Scripts >> Image Processor 
             
              2. จะขึ้นห้าต่างตามข้างล่าง  มีให้เลือกโฟล์เดอร์ที่จะแต่งภาพ ซึ่งเราจะต้องเก็บภาพไว้ใน โฟล์เดอร์ และก็เลือกโฟล์เดอร์ปลายทางที่เราจะเก็บ แล้วเลือกไฟล์ภาพเป็นแบบไหน JPEG,PSD,TIFF สุดท้ายเลือก Action ที่เราจะใช้ ซึ่งเราต้องสร้าง Action ก่อน จากกระทู้ก่อนหน้านี้ มีวิธีทำครับ ง่ายๆ การใช้ Action ใน Photoshop ทำตามลิงค์นี้ได้เลย


                 
               3. เมื่อเรากด Run แล้ว Photoshop ก็จะทำการแต่งภาพของเราตาม Action ที่เราทำไว้ ทีละรูปไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเสร็จ


                     การแต่งภาพเป็นกลุ่มจาก Photoshop ช่วยทำให้เราประหยัดเวลามากขึ้นเลยครับ  ลองใช้งานกันดูนะครับ ขอบคุณครับ

วิธีตัด แต่ง ภาพพร้อมกัน หลายรูป ใน Photoshop

การใช้ Action ใน Photoshop CS5

การแต่งภาพใน Photoshop นั้น เราสามารถทำได้ รูปเดียวอาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าหากเกิดมีหลายรูป แล้วเราต้งการให้รูปมีลักษณะเดียวกันทั้งหมด มีสีในลักษณะเดียวกัน ปรับขนาดเท่ากัน ทำขอบมืด หรือลด noise ในภาพเช่นเดียวกัน ถ้าเกิดเรามีรูปที่ถ่ายมาซัก 100 รูป ไม่ดีแน่ใช่มั้ยครับ หากเราต้องมาปรับทีละรูป วันนี้ผมจะมาแนะนำการทำ Action ใน Photoshop ครับ สามารถปรับแต่หลายๆ รูปพร้อมกันได้ ตามที่เราทำ Action ไว้ จะช่วยทำให้เราประหยัดเวลามากขึ้นทีเดียว แต่ก่ารทำ Action นั้นในการปรับแต่งภาพบางกรณี เช่น ตัดต่อ หรืออย่างอื่น อาจจะไม่ได้ผลนะครับ ใช้ได้บางกรณีเท่านั้นครับ



                     กรณีที่ใช้ได้ เช่น ปรับขอบมือ ลดขนาดภาพ ปรับแต่งสี ลด Noise โดยใช้ Plug-in
ทำหน้าเนียนด้วย Plug-in


                    มาดูวิธีทำกันเลยครับ
                  
                   1. เปิดภาพที่ต้องการขึ้นมา คลิ๊กที่ Action ตามรูปในหมายเลข 1
                   2. สร้าง set ใหม่ โดยคลิ๊กที่ปุ่มตามหมายเลข 2 จะได้ Floder set 1

สร้างโฟล์เดอในการเก็บ Action
ชื่อ Action 3 ที่เราจะนำไปใช้ครับ
              

                 3. สร้าง New Action เมื่อเรากดแล้วมันจะให้ทำการตั้งชื่อ Acton ส่วนนี้เปนส่วนสำคัญ เมื่อเราตั้งชื่อของ Record แล้ว มันจะทำการบันทึกทุกอย่างที่เราทำต่อจากนี้ทันที หากเราต้องการหยุด Action เราก็กดปุ่มหยุด เมื่อเรากดปุ่มหยุดแล้ว เป็นอันเสร็จสิ้นการทำ Action ครับ เราก็สามารถ นำเอา Action ไปใช้กับภาพอื่นๆ  หากเราต้องการลบ แก้ไข หรือเพิ่มเติม Action ก็สามารถทำได้ครับ
เริ่มแต่งภาพได้เลยครับ Action ก็จะทำการ Record ไว้ทุกอย่างที่เราทำ เมื่อพอใจแล้ว
เราก็สั่งหยุด เราก็จะได้ Action ไว้ใช้งานครับ

ตัวอย่างการนำ Action ไปใช้ครับ
เมื่อเราใช้ Action แล้ว มันก้จะทำตาม Action ที่เราบันทึกไว้ครับ
รูปข้างบน ทำการ resize ปรับสี ปรับ curve ทำตามที่ record ไว้ครับ


                        สรุปครับ การทำ Action ก็คือ การบันทึกช่วงเวลาหนึ่งที่เราตกแต่งภาพทุกอย่าง ว่าเราทำอะไรกับภาพบ้าง เช่น Resize ปรับแสง ปรับสี ใส่ขอบมืด ใส่ฟิวเตอร์ ลด Noise อื่นๆ เมื่อเรากดหยุด
การทำ Action ก็จะจบลง และเอาการปรับแต่งภาพช่วงที่เราอัดไปใช้กับภาพอื่นๆ  ภาพอื่นๆ ก็จะนำการตกแต่งภาพที่เราอัดไว้ทั้งหมดไปใช้กับภาพนั้น จะยึดตามค่าที่เราอัดไว้ทั้งหมด การทำ Action เปรียบเหมือนกับการอัดเสียงเพลง เมื่อเราเริ่มอัด มันก็จะทำการอัดเสียงร้องเพลงของเราไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะกดหยุดอัดเสียงนั่นเอง  ซึ่งการทำแบบนี้มีประโยชน์มากครับ เมื่อเราจะใช้งานโดยเราไม่ต้องมาแต่งใหม่ทีละรูปแบบเดิมซ้ำๆ จะทำให้ประหยัดเวลาขึ้นมากเลยครับ
                    
                        ยิ่งถ้าเรามีรูปภาพจำนวนเยอะๆ แล้ว เรายังสามารถสั่งให้ Photoshop ตกแต่งภาพเป็นกลุ่มได้อัตโนมัติเลยครับ ดังนั้นเมื่อเรานำการใช้ Action รวมกับการแต่งภาพเป็นกลุ่มแล้ว จะทำให้เราสะดวกสบายขึ้นมากเลยครับ ประหยัดเวลามากขึ้นอีกด้วย

                        วิธีการแต่งภาพเทั้งกลุ่ม คือใช้คำสั่ง Batch หรือ คำสั่ง Image processor รอติดตามกระทู้ต่อไปนะครับ เดี๋ยวผมจะมาสอนวิธีการทำนะครับ  ขอบคุณครับ ^^

Photoshop : ลดขนาดรูปภาพพร้อมกันทั้งโฟลเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว

Photoshop : ลดขนาดรูปภาพพร้อมกันทั้งโฟลเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว

          ปัจจุบันนี้การส่งรูปถ่ายทาง Email ได้เข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้นครับ เพราะรูปๆ หนึ่งอาจจะอธิบายรายละเอียดต่างๆ ได้ดีกว่า อีกทั้งยังเป็นหลักฐานของการทำงานในช่วงเวลานั้นๆ อีกด้วย
          แต่หากรูปที่ถ่ายนั้นมีขนาดใหญ่มาก และยิ่งถ้ามีหลายๆ รูปด้วยแล้ว การจะอัพโหลดเข้าสู่ระบบของอินเตอร์เนตนั้นก็จะใช้เวลามากทีเดียว หรือถ้าส่งทาง Email ก็อาจจะต้องส่งกันทั้งวันจนไม่ต้องทำอย่างอื่นกันพอดี
          วิธีที่นิยมกันก็คือการลดขนาดของรูปภาพให้เล็กลง หรือที่เรียกว่า Resize นั่นเอง ซึ่งโปรแกรมที่จะใช้ลดขนาดรูปก็มีมากมายหลายโปรแกรม รวมทั้ง Adobe Photoshop ด้วย
          แต่ถ้ารูปที่เราต้องการส่งนั้นมีมากมายหลายรูป การที่จะมาทำ Resize ทีละรูปๆ ก็จะเสียเวลาอีกเช่นกัน
          Tip Photoshop วันนี้จึงจะเสนอวิธีลดขนาดรูปภาพที่ละหลายๆ รูปได้ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยขั้นตอนเพียงไม่กี่ขั้นตอน ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้มากครับ
          วิธีทำก็ตามขั้นตอนนี้เลยครับ

          1. สร้างโฟลเดอร์ใหม่ขึ้นมา 1 โฟลเดอร์ แล้วนำรูปที่ต้องการ Resize ทั้งหมดมาใส่รวมไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันนี้
          2. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop ขึ้นมา คลิกที่ File > Scripts แล้วเลือก Image Processor

        
          3. จะมีหน้าต่างใหม่เพิ่มขึ้นมา คือหน้าต่าง Image Processor ก็ให้ตั้งค่าตามนี้ครับ
               - ในส่วนของ Select the images to process ให้ติ๊กในช่องวงกลมหน้า Select Folder
               - ในส่วนของ Select location to save processed images ให้ติ๊กในช่องวงกลมหน้า Save in Same Location
               - ในส่วนของ File Type ให้ติ๊กถูกที่ Save as JPEG และ Resize to Fit
               - Quality เลือกเป็น 5 ส่วน W: และ H: นั้นคือขนาดความกว้างยาวของรูปที่เราต้องการครับ เราอยากจะลดขนาดให้เหลือความกว้างยาวเท่าไหร่ก็ใส่ได้ตามใจชอบ หรือจะใช้ขนาดตามค่า Default ที่โปรแกรมตั้งมาให้คือ 800 และ 600 ก็ได้ครับ
               - ในส่วนของ Preferences ให้ติ๊กถูกที่ Include ICC Profile

          
          4. เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้วก็คลิกที่ Select Folder ตามรูปครับ

          
          5. เลือกโฟลเดอร์ที่เราทำเตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1 โดยการคลิกทำไฮไลต์ที่โฟลเดอร์นั้น ก่อนจะคลิก Ok ตามลำดับ

          
          6. จากนั้นคลิกที่ Run

          
          เรียบร้อยแล้วครับ โดยโปรแกรมจะสร้างโฟลเดอร์ใหม่ชื่อ JPEG ขึ้นมาให้เราโดยอัตโนมัติ (โฟลเดอร์รูปที่ลดขนาดแล้ว) และโฟลเดอร์ JPEG นี้ก็จะอยู่ในโฟลเดอร์ที่เราสร้างไว้ในขั้นตอนที่ 1 นั่นเอง

7/03/2559

วิธีทำหนังสือ(pocket book)จากกระดาษA4แบบง่ายๆ

 วิธีทำหนังสือ(pocket book)จากกระดาษA4แบบง่ายๆ
เวลาไปเจอพวก บทความดีๆ หรืออะไรก็ตามที่เป็น Content ยาวๆหลายหน้าก็จะ print เป็น A4 เก็บไว้ แต่ว่าถ้าอยากได้ขนาด A5 ล่ะ ขนาดเท่ากับ pocket book โดยยังprintผ่านกระดาษ A4อยู่ นั่นคือที่มาของบทความนี้ล่ะ

1.ขั้นแรกนำบทความที่มีอยู่แปลงให้เป็น file pdf ก็ Acrobat นั่นแหละตรงนี้ไม่น่าจะยากสำหรับเพื่อนๆ ส่วนตัวก็ใช้บริการโปรแกรม Pdf Creator ดาว์นโหลดฟรีได้ที่ http://www.pdfforge.org/products/pdfcreator/download

ก็ print เป็น file pdf ขนาดกระดาษ A4 นั่นล่ะสมมติว่า จัดเก็บไว้ที่ C:\pdf\mybook.pdf

2.เมื่อได้ file pdf มาแล้วก็มาถึงหน้าที่ของ โปรแกรม jPDF Tweak เพื่อจัดหน้าให้อยู่ในรูปแบบที่พิมพ์เป็น pocket book ได้
สามารถดาว์นโหลดฟรีได้ที่ http://jpdftweak.sourceforge.net/

ดาว์นโหลดมาแล้วก็ Run ที่ jpdftweak.bat โปรแกรมจะเปิดขึ้นมาเอง

เมื่อเปิดโปรแกรมขึ้นมาจะอยู่ที่ tab input

    ให้กดปุ่ม select.. เพื่อเลือก file pdf ที่ได้สร้างเอาไว้
    ไปที่ tab shuffle/N-up คลิ๊ก ถูกที่ Shuffle pages แล้วเลือก preset:เป็น Booklet Portrait
    ไปที่ Tab Output ตรง ช่อง Filename: คลิ๊ก ปุ่ม … เพื่อ กรอกชื่อ file output ที่ต้องการ สมมติ ว่าเป็น C:\pdf\mybook_edited.pdf
    กดปุ่ม Run (อยู่ตรงด้านล่างขวา)

เท่านี้ก็ได้ เอกสาร pdf ที่จัดหน้าใหม่แล้ว

3.นำ file C:\pdf\mybook_edited.pdf ไป print ออกทางเครื่องพิมพ์ แต่ต้อง พิมพ์แบบ หน้า-หลัง นะครับ

มาถึงตอนนี้ก็เอา เอกสารกระดาษ A4 ที่พิมพ์ไว้ขึ้นมา แล้วพับครึ่งทั้ง ปึกนั่นละก็จะได้ pocket book แบบง่ายๆแล้ว


ลองทำ Pocket Book กันมั้ย?


เมื่อประมาณ ๓๐ ปีก่อน...ผมขอให้ร้านถ่ายเอกสารหน้าวิทยาลัยพายัพ (ข้างร้านป้าดำ) ช่วยถ่ายเอกสารแบบย่อส่วน เค้าคิดตังค์เพิ่มจากการถ่ายแบบปกติอีกเท่าตัว จำได้ว่าผมเสียเงินกับค่าถ่ายเอกสารแบบย่อส่วนไปจำนวนไม่น้อย เพราะใจรักที่จะทำหนังสือให้มีรูปเล่มสวย ๆ กะทัดรัดแบบ pocket book  แต่ละหน้าเรียงรายด้วยตัวอักษรเล็ก ๆ ซึ่งสำเนาจากเอกสารที่ได้พิมพ์ไว้บนกระดาษ A4 ด้วยเครื่องพิมพ์ดีด (typewriter)

สมัย นั้นยังไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ งานพิมพ์ยังไม่มี font ต่าง ๆ ให้เลือก มีเพียงรูปแบบตัวอักษรจากเครื่องพิมพ์ดีดที่ใช้มาจนชินตา ผมจึงมีความรู้สึกผูกพันกับตัวอักษรเหล่านั้น เมื่อนำเอกสารไปย่อส่วนแล้วได้หน้ากระดาษและตัวหนังสือที่เล็กลง พอนำไปเข้าเล่ม-ทำปก...ออกมาแล้วก็ดูสวย เป็นที่ชื่นชอบ ผมจึงไม่เสียดายเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มให้กับร้านถ่ายเอกสาร!

แม้ ว่าสายตาของผมจะไม่ดี แต่ผมก็ชอบอักษรตัวเล็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออักษรภาษาอังกฤษ!  พอถึงยุคคอมพิวเตอร์ ผมได้เป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์รุ่นแรก ๆ ที่ใช้ cpu Intel 8088 พร้อมจอภาพแบบ Monochrome ตัวหนังสือสีเขียว ๆ งานพิมพ์ยังต้องใช้โปรแรมจุฬาเวิร์ด (CW) และราชวิถีเวิร์ด (RW) พิมพ์ด้วยเครื่องพริ้นท์หัวเข็มแบบ ๙ เข็ม ขณะนั้นผมก็เลือกพิมพ์ด้วยตัวอักษรเล็ก ๆ และชอบอักษรแบบ Courier มากที่สุด...

คอมพิวเตอร์ที่เห็นในภาพใช้ซีพียู Intel 8088 ซื้อมาในราคา ๒๕,๐๐๐ บาท

ทุก วันนี้เราสามารถหา font สวย ๆ มาเพิ่มใน Windows และสั่งพิมพ์เอกสารให้ออกมาได้สวยงามตามใจชอบ จะให้เล็กหรือใหญ่ขนาดไหนก็ได้ ไม่ต้องไปจ้างร้านถ่ายเอกสารให้ย่อส่วนด้วยราคาแพง ๆ อย่างในอดีตอีกต่อไป

ผมอยากจะลองสาธิตให้ดูซัก หน่อย... ใช้เวลาแค่สิบกว่านาที ก็สามารถนำสิ่งที่กำลังเขียนไปพิมพ์ลงบนกระดาษ A4 ตามรูปแบบที่ต้องการได้แล้ว...



กระดาษ A4 สามารถพิมพ์ได้ ๒ หน้า สวยทีเดียว...

ไม่ ยากเลยครับ...ถ้าจะทำหนังสือของตัวเอง แล้วพิมพ์ออกมาให้ได้รูปเล่มแบบ pocket book  เพื่อน ๆ ใช้โปรแกรม microsoft word ที่มีอยู่ในคอมพ์ฯ ของเราก็ได้  เพียงแค่ดาวน์โหลด font สวย ๆ มาเพิ่มใน Windows เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษรได้หลากหลายและสวยงามยิ่งขึ้นเท่า นั้นก็พอ...

กระดาษ ๑ แผ่นสามารถพิมพ์ได้ ๔ หน้า สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือการเรียงหน้าให้ถูกต้อง เมื่อพิมพ์ออกมาแล้ว...ด้านหน้าและด้านหลังจะต้องเรียงกันเป็นหน้า ๑ หน้า ๒ หรือ หน้า ๓ หน้า ๔ ฯลฯ

ผม กำลังฝันที่จะเขียนหนังสือสักเล่มหนึ่ง ขอแค่ ๑๐๐ กว่าหน้าก็พอ! อาจเป็นตำราไวโอลินเบื้องต้น หรือเกี่ยวกับการท่องเที่ยวผจญภัย เขียนเสร็จก็อยากลองไปติดต่อพิมพ์ที่โรงพิมพ์นาก่วมการพิมพ์ซึ่งอยู่ใกล้ บ้าน (ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าพิมพ์ครั้งแรกซัก ๒,๐๐๐ เล่ม...ต้นทุนจะตกเล่มละเท่าใด) ถ้าสำเร็จจริง...ผมจะไปเล่น accordion ตามถนนคนเดินแล้วขายหนังสือที่พิมพ์ไว้!

เดี๋ยวจะไปหา PageMaker มาลองใช้ดูครับ...