1/22/2553

11 ข้อดีของการใช้ Windows Vista


ไม่ ใช่จะวีนว่ากินแรม ไม่ใช่จะวีนว่าทำเครื่องช้า แต่จะมาเล่าให้ฟัง ว่า 10 ข้อดี ที่สมควรเปลี่ยนมาใช้วิสต้า จากมุมมองผู้ใช้งานอย่างป๋ม ที่ใช้วิสต้าตัวเต็มมากว่า 6 เดือน (เหมือนเยอะนะนั่น)

Nachi@aus แนะนำ Windows Vista Ultimate สำหรับเครื่องที่มีแรมตั้งแต่ 2 GB ขึ้นไปนะจ๊ะ

  1. Vista สวย
    หรือ จะเถียงว่า Windows 2000 กะ WindowsXP สวยกว่าครับ หุหุหุ ถ้าแข่งกันเรื่องความงามที่มาคู่ตัวแล้ว Vista กินขาด เพราะขอบหน้าต่างใสได้เองโดยตัว OS ในขณะที่ Windows ตัวอื่น ต้องใช้ตัวช่วย อีกทั้ง Effect วิ้ง ๆ ต่าง ๆ ขณะใช้งานก็ Smooth และเนียนกว่าที่เคยมีใน XP ดังนั้นข้อนี้ Vista จึงชนะใส ๆ

  2. Vista ฉลาด
    ฟังก์ชั่นที่ Improve มาอย่างดี เช่นใน Windows Explorer พาเนลและ Side Bar สามารถแสดงรายละเอียดได้ยิบ ราวกับคลิกขวาที่ไฟล์นั้นแล้ว Property รวมถึงความสะดวกในการจัดเรียงไฟล์ ด้วยเงื่อนไขที่สามารถกำหนดได้อย่างถี่ยิบ และด้วยวิธีที่มากกว่าการ Sort (จัดเรียง) ทำให้การจัดการกับไฟล์จำนวนมหาศาลง่ายขึ้นเยอะเลยหรือจะเป็นส่วนของ Picture Thumbnails ที่เราคุ้นเคยกันอย่าง Thumb.db ที่ปรากฎให้เห็นในทุกโฟลเดอร์ที่มีรูป ก็หายไปใน Vista โดย OS ฉลาดพอที่จะสร้าง Cache รวมไว้ที่เดียว ไม่กระจายไปเกลื่อนกลาดขนาดนั้น และที่สำคัญ ไม่ได้ทำให้การ Preview รูปภาพช้าลงแต่อย่างใด เยี่ยมจริง ๆ

  3. Vista ไม่อืด (อ่านก่อนแล้วค่อยเถียง)
    ปัญหา สุด Classic ของ Windows เวอร์ชั่นเดิม ๆ คือ เมื่อใช้งานไปซักพัก เครื่องจะเริ่มอืดลง ๆ ๆ จนต้องรีสตาร์ทซักที หรือบางคนอาจจะหาโปรแกรมประเภท FreeRAM มาใช้ เพื่อเรียกแรมคืนมาจากโปรแกรมขี้งก ที่จองแรมแม้กระทั่งในยามที่มันไม่ได้ใช้งาน หรือปิดการใ้ช้งานไปแล้ว (มักจะเจอในโปรแกรมเก่า ๆ) โปรแกรมเจ้าปัญหาที่ขโมยแรมของเราไปมากที่สุด โดยมากมักเป็นพวกโปรแกรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เช่น AntiVirus, AntiSpyware ที่เปิดฟังก์ชั่น Real-Time Monitor ไว้ ใน Vista ปัญหานี้จะหมดไปด้วย SuperFetch
  1. Vista ปลอดภัย
    ลืมน้องลูกพรุน (XP) ไปได้เลย สำหรับ Vista นั้น แค่เริ่มติดตั้งก็ปลอดภัยไปครึ่งตัวแล้วด้วย Windows Defender หรือโปรแกรมป้องกัน Spyware, Adware, Malware จากที่ปล่อยตัวเบต้าให้ได้ใช้กันมานานในชื่อ Microsoft AntiSpyware วันนี้มันได้กลายมาเป็นหัวหอกตัวเก่งใน Vista ด้วยการเริ่มต้นป้องกันแบบ Real Time ตั้งแต่เปิดเครื่อง การอัพเดทฐานข้อมูลจะทำผ่านทาง Windows Update หรือจากตัวโปรแกรมเองก็ได้ จากการใช้งานพบว่า โปรแกรมอัพเดทฐานข้อมูลในระดับความถี่พอสมควร (เมื่อเทียบกับที่เคยใช้ CounterSpy ก็อัพเดทพอ ๆ กัน) และผลจากการใช้งานของข้าพเจ้า พบว่าไม่เคยติด Spyware, Malware หรือได้ Adware มาดูเล่นในเครื่องเลยซักตัว อันนี้สอบผ่านคร๊าบ

    มามองกันถึงปราการด่านแรก (ไม่ใช่ปราการด่านสุดท้ายนะ) อย่าง Windows Firewall กันบ้าง ถึงแม้ว่ามันจะกันแค่ขาเข้าอย่างเดียว ไม่ป้องกันขาออกเหมือนเคย ก็ไม่ใช่ปัญหาหากเปิดใช้ เพราะอย่างน้อย ๆ ก็มั่นใจได้ว่า จะไม่มีอะไรแปลกปลอมเข้ามาในเครื่องได้ชัวร์ (เอาเข้าจริง มีแต่คำแนะนำว่าให้ใช้ Firewall ที่ป้องกันทั้ง 2 ทางจะเหมาะกว่า) เท่าที่ข้าพเจ้าใช้งานมา ก็ไม่พบปัญหาของการป้องกันแค่ขาเดียวของ Windows Firewall นะครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะกร๊าบ

    กล่าวต่อไปถึง Internet Explorer 7 ตัวเก่งในแง่ของความปลอดภัย ในเวอร์ชั่น 7 นี้ มีฟังก์ชั่น Anti-Phishing มาให้เรียบร้อย ทำให้คุณปลอดภัยจากเวบไซด์ที่ปลอมตัวมาหลอกล่อข้อมูลส่วนตัวของคุณ ซึ่งโดยมากมักเป็นเวบไซด์ของธนาคาร ที่หลอกให้คุณกรอกหมายเลขบัตรเครดิตลงไป หลงกลเมื่อไร มีสิทธิ์สูญเงินจำนวนมหาศาลเลยนะ ทีออสนี่ก็มีนะแบบนี้ ทางที่ดี นอกจากตัว Browser จะ Anti เวบเหล่านี้ได้ด้วยแล้ว ผู้ใช้งานเอง ควรระแวดระวัง และสังเกตุรูปแบบของ URL หรือหน้าตา และคำร้องขอให้กรอกข้อมูลให้ดี ๆ นะคร๊าบ พิจารณาดูว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะมาขอข้อมูลอย่างนั้นกับเรา จะช่วยให้ปลอดภัยขึ้นอีกขั้นนึงครับ

  2. Vista เก็บความลับได้เยี่ยม
    การ Encrypt ไฟล์แบบเดิม ๆ ไม่ได้ป้องกันข้อมูลของคุณได้อย่างถึงพริก ถึงขิง เหมือนเจ้า BitLocker ที่สามารถเข้ารหัส Harddisk ได้ทั้งลูก ไวรัส มัลแวร์ ก็ทำอะไรไม่ได้ รวมถึงการป้องกันข้อมูล หากถูกย้ายไปยังสื่อบันทึกอื่น หรือแม้กระทั่งถูกขโมย Harddisk ไป ข้อมูลนั้นจะถูก Lock ทันที ไม่มีทางเปิดได้ เป็นไงล่ะ น่าสนแล้วใช่ไหมล่ะ

    ก่อนอื่นต้องบอกว่า BitLocker มีให้คุณได้ใช้กันใน Vista Enterprise และ Ultimate เท่านั้น หมายความว่า ตั้งแต่ Business ลงไปหมดสิทธิ์ (แต่ก็มีตัวอื่นให้ใช้แทนนะ) หลักการทำงานของ BitLocker คร่าว ๆ คือ สามารถเข้ารหัสไฟล์ใน Harddisk ลูกที่มีระบบปฏิบัติการติดตั้งอยู่ และเก็บรหัสผ่านไว้ในชิบชื่อ Trusted Platform Module (TPM) ซึ่งชิบตัวนี้จะพบได้ใน Mainboard รุ่นใหม่ ๆ นั่นหมายความว่า ถ้าคุณเปลี่ยน Mainboard ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสไว้ก็จะไม่สามารถเปิดได้ ชิล ๆ ไหมคร๊าบ ป้องกันปัญหา Harddisk โดนขโมย, ไฟล์โดนขโมย (และก็เป็นปัญหาเมื่อผู้ใช้ต้องการเปลี่ยน Mainboard 555+)

    หากคุณไม่อยากผูกพันกับ Mainboard มากนัก หรือบน Mainboard ไม่มีชิบ TPM ก็ยังสามารถใช้ Flashdrive หรือเจ้า Thumbdrive แทนชิบ TPM ได้ครับ โดยหลังจากเปิดการใช้งาน BitLocker ผ่าน Flashdrive แล้ว คุณจะต้องเสียบ Flashdrive ตัวนั้นเมื่อเปิดเครื่องทุกครั้ง และยังจะต้องมี Partition นึงใน Harddisk ลูกนั้นที่ไม่ได้เข้ารหัส BitLocker ไว้ด้วย

  3. Vista หาอะไรก็เจอ
    ออก แนว Google นิด ๆ แต่เป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นที่เชิดหน้าชูตาของ Vista ถึงขนาดทำให้ Google เจ้าพ่อวงการ Search ออกมาเต้นผาง ๆ เพราะเจ้า Windows Search ที่หาอะไรก็เจอ ประดุจดัง Google Desktop เจ้าเดิม มาดูกันดีกว่า ว่าอะไรของ Windows Search ที่ทำให้ Google เป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้

    ลืม การกด F3 แล้ว search อะไำรก็ไม่ค่อยเจอใน Windows เวอร์ชั่นเดิม ๆ ไปให้หมด เพราะ Windows Search ใน Vista สามารถค้นหาได้ทั้งเอกสาร, ไฟล์ต่าง ๆ ในเครื่อง, อีเมล์, เอกสารแนบอีเมล์, และค้นหาอะไร ๆ ทั้งในเครื่องของคุณเอง และเครื่องอื่นๆในเครือข่าย

    การ เริ่มต้นค้นหาก็ไม่ยากอีกต่อไป เพราะเมื่อคุณคลิ๊กปุ่ม Start Menu ที่ Taskbar ก็จะเจอช่องพิมพ์คำค้นหาทันที พิมพ์แล้วก็ไม่ต้องกด Enter เพราะจะปรากฎสิ่งที่ต้องการค้นหาที่ Start Menu นั้นทันที สะดวกสบายมากมาย รวมถึงยังสามารถเปิดหน้า Search เป็นหน้าต่าง โดยเรียก Search จาก Start Menu ก็จะเจอกับหน้า Search พิมพ์หาอะไรก็เจอเหมือนกัน

    นอกจากนั้น ในโฟลเดอร์ที่มีไฟล์เยอะ ๆ การ Sort แล้วเลื่อนดูอาจจะทำให้ตาลาย แต่ด้วย Search ที่เป็น Textbox อยู่ใน Windows Explorer ช่วยให้คุณสามารถพิมพ์ชื่อไฟล์บางส่วน รวมถึงเปลี่ยนเงื่อนไขให้ค้นหาจาก Tag หรือ Keyword ได้ด้วย สะดวกกันสุด ๆ เลยมั๊ยคร๊าบท่านผู้ชม

  4. Vista กับการรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง
    ฟังดูเผด็จการ แต่จริง ๆ แล้ว การรวมอะไรเป็นจุด ๆ ของวิสต้านี่ ถือเป็นข้อดีที่ทุกระบบปฏิบัิติการสมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

    หลาย ๆ คนคงคุ้นเคยการจัดหมวดหมู่ใน Control Panel และข้าพเจ้าพบว่าส่วนมากผู้ที่ใช้ WindowsXP มักจะปรับการแสดงผลใน Control Panel กลับไปเป็น Classic เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ใน Vista นั้น หมวดหมู่ต่าง ๆ จะมีการบอกถึงงาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ในหมวดนั้น ช่วยให้หาได้ง่าย และไม่หลงทาง รวมถึงยังสามารถใช้ Search ใน Control Panel ได้ด้วย

    Home Folder ใน Vista ที่เปลี่ยนชื่อไปตามชื่อของผู้ใช้ที่ Log In เข้ามา ได้รวบรวมโฟลเดอร์ต่าง ๆ เช่น Desktop, Music, Documents, Pictures, Videos, Favorite, Links, Download, etc. เอาไว้เป็นส่วนตัวเลย และ Home Folder นี้ สามารถเข้าได้จาก Start Menu โดยอยู่เด่นเป็นสง่าอยู่ทางด้านบนขวา คอนเซปนี้ก็เหมือนกับใน XP แต่เมื่อเทียบกันแล้ว Home Folder ใน Vista เข้าถึงได้ง่ายกว่า เป็นหมวดหมู่มากกว่า และดูน่าใช้งานมากกว่า (อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวนะ)

    Network and Sharing Center, Sync Center, Backup & Restore Center, Mobility Center ก็เป็นคอนเซปเดียวกัน เข้าจุดนี้แล้วเห็นภาพรวมเลย อย่างเจ้า Network & Sharing Center เมื่อ เปิดขึ้นมา คุณจะพบกับ View Map เส้นทางระหว่างคอมพิวเตอร์ออกไปยังอินเตอร์เน็ต ว่าไปยังไง ผ่านตัวกลางใด และเมื่อพบปัญหาเชื่อต่ออินเตอร์เน็ตไม่ได้ แผนที่จะแสดงให้คุณเห็นเลยว่าผิดพลาดที่จุดใด ทำให้การหาสาเหตุนั้นง่ายขึ้น และในส่วนของ Sharing จะแสดงให้เห็นว่าฟังก์ชั่นการ Share ต่าง ๆ เช่น แชร์ไฟล์ แชร์พริ้นเตอร์ ได้ถูกเปิดใช้งานหรือไม่ สะดวกสุด ๆ เพราะไม่ต้องไปเปิดดูไล่ทีละตัวว่าอะไรเปิด อะไรปิด นี่ล่ะครับ คอนเซปอันยอดเยี่ยมแห่งการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ มาอยู่ด้วยกัน ผู้ใช้อย่างเรา ๆ ก็เลยสบายไป

    1. Vista กับการสำรองข้อมูล
      การ สำรองข้อมูล (Back Up) เป็นประจำ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ข้อมูล หรืองานของคุณจะได้รับความปลอดภัยอยู่เสมอ เมื่อวันใดที่ข้อมูลเกิดความเสียหาย ก็ยังมีตัวตายตัวแทน Vista นั้นให้ความสำคัญกับการสำรองข้อมูลในหลายรูปแบบ ลองมาดูกันเลยครับว่าคุณจะสามารถทำการสำรองข้อมูลผ่านวิธีใดบ้าง

      เมื่อคุณเปิดเข้าไปใน Windows BackUp and Restore Center คุณจะพบกับวิธีการ Back Up หลากหลายแบบ ลองดูกันว่าแต่ละตัวทำหน้าที่อะไรกันบ้าง

    2. Automatic Backup พบได้ในทุก edition ของ Vista (ยกเว้น Starter) จะสำรองข้อมูลจำพวกไฟล์ทั่ว ๆ ไป สามารถสั่งให้ Back Up ตามเวลาที่กำหนด และสามารถBack Up ไว้ใน Network หรือ External Harddisk, CD, DVD ก็ได้
    • Complete PC Back Up and Restore (พบในเวอร์ชั่น Business ขึ้นไป) อารมณ์เดียวกันกับ Norton Ghost หรือ Acronis TrueImage เลย เพราะมันสามารถ Back Up ได้ทั้ง Partition แบ๊กอัพโปรแกรม การตั้งค่าต่างๆ ได้ทั้งหมด เมื่อไรที่ Vista เอ๋อเกินห้ามใจ ก็สามารถ Restore กลับไปยังจุดที่เรา Back Up ไว้ได้เลยครับ วิ้ง ๆ เหมือนใหม่โดยไม่ต้อง Format
    • System Restore เป็นการย้อนกลับไปในจุดที่ OS ยังไม่เอ๋อ โดยไม่ไปยุ่งกับไฟล์บนเครื่อง คอนเซปของเจ้าตัวนี้จะเป็นในแนวทางที่ว่า ย้อนกลับไปในจุดที่การตั้งค่ายังไม่เสียหาย ทั้งนี้จะช่วยให้การติดไวรัส การติดตั้งโปรแกรมแปลก ๆแล้วเครื่องเอ๋อ รวมถึงการไปแก้ Registry มั่ว ๆ หายไป เพราะ OS จะย้อนเวลากลับไปยังวัน และเวลาที่ไม่มีปัญหา ซึ่งแน่นอนว่า โปรแกรมที่ติดตั้งหลังจากจุด Restore ที่เราย้อนไปนั้นจะถูกถอดถอนออกทั้งหมด จุด Restore นี้ ระบบจะสร้างให้โดยอัตโนมัติ แต่เราก็สามารถสร้างจุด Restore เองได้ มีประโยชน์มากในการทำอะไรแปลก ๆ หรือติดตั้งอะไรแปลก ๆ ลงในเครื่อง ช่วยให้เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น เราสามารถ Restore กลับไปเป็นตอนก่อนติดตั้งได้ เป็นการใส่ตะกร้าล้างน้ำที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
    • Shadow Copy อันนี้เป็นการ Backup - Restore น้อย ๆ กล่าวโดยง่าย คือ ในไฟล์หนึ่ง ๆ ที่คุณเปิดมาแก้ไข หากเกิดความผิดพลาด เช่น ดันไปลบ ไปแก้ไขอะไรผิดเข้า Shadow Copy จะเปิดโอกาสให้คุณ Restore ไฟล์นั้นกลับไปยังช่วงที่ไม่ได้แก้ไข (รายละเอียดโดยลึกมันน่าทึ่งกว่านี้มากครับ แต่ขอพูดสั้น ๆ พอให้เห็นภาพนะ)

    1. เป็นไงบ้างจ๊ะ มี (เกือบ) ครบทุกฟังก์ชั่นการ Backup ขนาดนี้ น่าสนใจใช่ไหมล่ะ

      **หมายเหตุ** ที่บอกว่า "เกือบ" ก็เพราะยังขาดการ Backup ไปยัง Internet น่ะขอรับ พอดีใช้ Norton360 แล้วมันมีอะ หุหุ

    1. Vista กับความบันเทิงครบวงจร
      ในเวอร์ชั่น Home Premium และ Ultimate จะมี Windows Media Center โปรแกรม Home Entertainment ครบวงจรมาให้ หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นกับ WindowsXP Media Center Edition มาแล้ว ข้อดีของ Media Center คือ มีความเป็น All-in-One Entertainment มันจะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ของคุณเป็น Home Entertainment ย่อม ๆ ไปเลยล่ะ Interface ของโปรแกรมมันน่าใช้ดีนะ แล้วการทำงานกับไฟล์มีเดียต่าง ๆ โดยเฉพาะไฟล์ภาพยนต์ที่หลากหลายก็รองรับได้เหมือน Windows Media Player ซึ่งถ้าคุณลงพวก Media Codec เช่น K-Lite Codec Pack เอาไว้ ไฟล์หนังต่าง ๆ ก็สามารถเปิดดูได้ใน Media Center ให้บรรยากาศที่น่าดูมากกว่าดูจากโปรแกรม Media Player ทั่วไปนิดนึงนะ

      การ ดูภาพถ่ายก็โอเคนะ ด้วยอินเตอร์เฟชที่น่าใช้ทำให้ไม่ค่อยน่าเบื่อ ส่วนการใช้ฟังเพลงอาจจะสู้โปรแกรมที่ใช้ฟังเพลงจริง ๆ จัง ๆ ไม่ได้ เนื่องด้วยการทำ Playlist ที่งง งง นิดนึง

      ตัว Media Center นีสามารถ Detect การ์ดรับสัญญาณทีวีในเครื่อง (ถ้าติดตั้งไดร์เวอร์เรียบร้อย) สามารถอัดรายการที่ดูได้ รวมถึงตั้งเวลาอัดก็ได้ รวมถึงเข้ารหัสแล้วสร้างเป็น DVD ให้ได้เสร็จสรรพ

      นอก จากนี้ Media Center ยังสามารถไปโหลดหนังจากอินเตอร์เน็ตมาให้เราดูได้ด้วย หรือจะดูหนังจากแผ่น DVD ก็เริ่มเล่นให้ทันทีโดยอัตโนมัติ

      Media Center สามารถทำงานทุกอย่างผ่านรีโมตคอนโทรลได้ (ต้องเป็นรีโมตที่ใช้กับ Media Center โดยเฉพาะ) หรือจะใช้ keyboard, mouse, touchscreen ก็ไม่ผิดกติกาใด ๆ

      ความบันเทิงหรู ๆ แบบนี้ เป็นหนึ่งในข้อดีของ Vista ที่คุณน่าจะลองสัมผัสมันดูนะขอรับ อาจจะเพลินจนลืมความบันเทิงแบบเดิม ๆ ไปเลยก็ได้ (เว๊อเวอร์นะข้อเนี้ย หุหุหุ)

    1. Vista กับการจัดการแบบ Library
      พูดอย่างนี้คงไม่ get นะ เอ๊า เอาเป็นเข้าประเด็นไปเลยดีกว่า

    2. Windows Photo Gallery โปรแกรมจัดการรูปภาพที่มากับ Vista สามารถให้คุณได้มากกว่าการจัดหมวดหมู่ตามชื่อ และตามวันที่แก้ไข เพราะมันสามารถใส่ Tag ให้กับรูปได้ (ความสามารถนี้ Picasa ยังไม่มีเลยนะค๊าบ) ดังนั้น คุณจึงสามารถสั่งให้จัดเรียงจากTag และค้นหาโดย Tag ได้ มีประโยชน์มาก ในกรณีที่มีรูปภาพเยอะมาก การจะจำชื่อไฟล์ย่อมเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว นอกจากประโยชน์ในการจัดการรูปภาพที่ยืดหยุ่นแล้ว การแก้ไขภาพเบื้องต้นก็ทำได้ดี การใช้เป็นโปรแกรมดูภาพก็ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ แทบไม่ต้องใช้โปรแกรม ACDSee สุดฮิตเลยล่ะ ขอบอก
    • Windows Media Player 11 นอกจากจะใช้เล่นเพลงได้แล้ว มันยังสามารถจัดการกับไฟล์เพลงได้อีกด้วย ใน tab "Libraby" จะมีรายชื่อเพลงทั้งหมดในเครื่องของคุณ (ถ้าจะให้มันหาเจอนอกเหนือจากโฟลเดอร์ "Music" ก็ไปเพิ่มโฟลเดอร์ได้) ประโยชน์ของ Library คือ คุณสามารถ Sort by อะไรก็ได้ ทำให้การจัดการไฟล์เพลงทั้งหมดในเครื่องง่ายมากขึ้น ไม่มีข้อจำกัดว่าไฟล์ต่าง ๆ ไม่ได้อยู่ในโฟลเดอร์เดียวกัน เพราะทั้งหมดมองเห็นได้ใน Library ของคุณ งานนี้ เพลงไหนมีซ้ำกันก็มองเห็นกันจะจะเลย จะได้ลบทิ้งซะ ประหยัดเนื้อที่ได้อีกโข (ถ้าไฟล์ซ้ำกันเยอะ) และการจับไฟล์มากองรวมกันเป็น Library อย่างนี้ มันสะดวกเวลาค้นหา ไม่ต้องไล่ไปเข้าแต่ละโฟลเดอร์ ก็ค้นหามันใน Library นี่แหละ อีกทั้งยังส่งไฟล์เข้า Playlist เพื่อเอาไว้ฟังเป็นหมู่คณะได้อย่างง่ายดายด้วย เยี่ยมซะไม่มี

    1. Vista กับ Entertainment Apps ที่คุณต้องทึ่ง
      ท้ายที่สุดนี้ ชีวิตคุณจะง่ายมาก ๆ กับโปรแกรมดังต่อไปนี้

    2. Windows Movie Maker สร้างไฟล์ภาพยนต์ หรือ Picture SlideShow ได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่กี่ขั้นตอน พร้อมโยนลง DVD หรือ CD ได้เสร็จสรรพ
    • Windows DVD Maker ไม่ต้องไปหาโปรแกรมสร้างหนัง DVD จากที่ไหนหรอกครับ มีหนังที่เป็นไฟล์ .DAT, .mpg, .mpeg, .wmv แค่นี้ก็โยน ๆ ลงไป เลือกเมนูให้มันนิดหน่อย ไม่ต้องตั้งค่าอะไรมาก แล้วสั่งสร้างได้ทันที ใช้เวลาพอ ๆ กับโปรแกรมสร้างหนัง DVD ทั่วไป สะดวกมาก ม๊าก (ตี๋น้อยก็ใช้ เมนูมันสวยจริง ๆ และใช้ง่ายจริง ๆ)
  • 0 ความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น