11/04/2553

หลักพิจารณาในการเลือกซื้อยูพีเอส UPS

 

 
 
เชื่อได้เลยว่าบรรดานักคอมพิวเตอร์ทั้งหลายนั้นจะต้องเป็นคนที่รักและทะนุถนอมคอมพิวเตอร์ของคุณกันทุกคนและยูพีเอสก็ถือว่าเป็น
อุปกรณ์ที่สามารถรักษา ปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว การที่มียูพีเอสไว้ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ตัวโปรด ของท่านนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่จะคอยปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณให้มีความปลอดภัยอยู่เสมอได้เป็นอย่างดี


         อุปกรณ์ที่ถือ ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ผู้คนไม่ค่อยที่จะให้ความสนใจมากสักเท่าไหร่ นั่นก็คือ ยูพีเอส (UPS) โดยเจ้าเครื่องยูพีเอสนี้ถือได้ว่าเป็น อุปกรณ์ที่สามารถ ช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์ตัวโปรดของคุณให้มีความปลอดภัยอยู่เสมอ สามารถที่จะป้องกันปัญหาเกี่ยวกับ ไฟฟ้าที่จะทำอันตรายต่อ อุปกรณ์ต่อ เชื่อมของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดไฟดับ ไฟกระชาก ไฟตก การเกิด โอเวอร์โหลด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา    
         เมื่อก่อนยูพีเอสนี้ยังไม่เป็นที่สนใจสำหรับนักคอมพิวเตอร์มากนัก เนื่องจากเห็นว่า อุปกรณ์นี้ยังไม่มีความสำคัญกับพวกเขามากสักเท่าไหร่ นัก คือคิดว่าเมื่อ เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจนทำให้อุปกรณ์ต่างๆ เกิดความเสียหายขึ้น พวกเขาก็สามารถ ที่จะส่งอุปกรณ์นี้ไปซ่อมได้ เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าว มีประกันอยู่แล้ว แต่ท่านลองคิดดูซิว่าถ้าอุปกรณ์นั้น เกิดหมดระยะประกันขึ้นมาแล้วหละก็ ท่านจะต้องเสีย เงินเพิ่มขึ้นอีกเท่าไรเพื่อที่จะซื้ออุปกรณ์นั้นมาทดแทนอุปกรณ์ที่เสียไป ซึ่งมันไม่คุ้มกันเลยใช่ไหมครับ กับการที่จะต้องเสียเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อซื้อยูพีเอสสักเครื่องไว้ใช้งานกัน ดังนั้นในการเลือกซื้อยูพีเอสไว้ใช้งานนั้นถือว่า เป็นทาง เลือกที่ดีมากสำหรับนักคอมพิวเตอร์ ทั้งหลาย ไม่เพียงเท่านี้ เจ้าเครื่องยูพีเอสนี้ได้กลายมาเป็น อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับสำนักงาน หน่วยงาน หรือบริษัทต่างๆไป แล้วเพราะสามารถที่จะป้องกันอันตรายเกี่ยวกับไฟฟ้าได้ดี สำหรับท่านที่เคยใช้งานยูพีเอสมาแล้ว ท่านคงจะพอรู้ว่าในการเลือกซื้อ เลือกใช้ยูพีเอสนั้นควรต้อง ทำอย่างไรบ้าง แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับยูพีเอสนี้มาก่อนหละครับ คงทำให้ในการเลือกซื้อเป็นเรื่องที่ยากน่าดูเลยใช่ไหมครับ แต่ถ้าท่านได้อ่านบทความนี้ คงจะทำให้ท่านทราบถึงวิธีการเลือกซื้อยูพีเอสกันมากขึ้นครับ
หลักพิจารณาในการเลือกซื้อยูพีเอส
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาสำหรับการเลือกซื้อ ยูพีเอสนั้น ความจริงแล้วนั้นมีอยู่มากเลยทีเดียว แต่ขอสรุปออกมาเป็นข้อๆ ให้เห็นกันดังนี้ครับ
ชนิดของยูพีเอส
         ก่อนอื่นสิ่งที่ท่านควรจะทราบก่อนการเลือกซื้อ คือ ท่านต้องทราบว่ายูพีเอสชนิดไหนที่เหมาะกับการใช้งานของท่าน โดยยูพีเอสนี้สามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิด ดังนี้คือ

1. True Online UPS (Double Conversion UPS)
ยูพีเอสที่เป็นแบบ True Online UPS
         ยูพีเอสแบบนี้เป็นยูพีเอสที่มีความสามารถในการปกป้องอุปกรณ์ต่างๆ และคอมพิวเตอร์ของคุณ ได้ดีที่สุด แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่ค่อนข้างแพงด้วย โดยหลักการทำงานของยูพีเอสชนิดนี้คือ เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ต่อเข้ากับ ยูพีเอสนี้จะไม่ได้ รับกระแสไฟฟ้าโดยตรงจากสายไฟเลย เพราะระบบจะทำการจ่าย กระแสไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ก่อน ก่อนที่จะส่งกระแส ไฟที่มีความราบเรียบ เข้าไปยังเครื่องคอม พิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่อเชื่อมต่างๆ โดยจะมีอุปกรณ์ที่ เรียกว่า Stabilizer ไว้สำหรับเป็นตัวปรับแรงดันไฟ ให้มีความสม่ำเสมอ ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะเกิดไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชากได้เลย ซึ่งจากที่เครื่องยูพีเอสแบบนี้มีราคาที่แพงมาก จึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยทั่วไป ยูพีเอส ชนิดนี้เหมาะสำหรับ ที่จะนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่จะเกิด ความผิดพลาดไม่ได้เช่น เครื่องมือแพทย์, เซิร์ฟเวอร์, ตู้ ATM, ระบบคอมพิวเตอร์สื่อสาร, ระบบคอมพิวเตอร์ การเงินหรือ ธนาคาร เพราะจำเป็นที่จะต้องการคุณภาพของพลังงานไฟฟ้าที่สมบูรณ์

2. Standby UPS (Off line UPS)

ยกตัวอย่างยูพีเอสที่เป็นแบบ Standby UPS
         ยูพีเอส ชนิดที่สองนี้ถือได้ว่าเป็นยูพีเอสที่มีราคาที่ถูก ขึ้น อยู่กับยี่ห้อของยูพีเอส มีขนาดเครื่องที่เล็กและมีความซับซ้อน ภายในเครื่องน้อยที่สุด โอกาสเสียจึงน้อยแต่ถ้าเกิดเสียขึ้นมาจริงๆ ก็สามารถที่จะซ่อมได้ไม่ยากนัก แต่ถือว่ามีระดับการป้องกันปัญหาทางด้านไฟฟ้าต่ำด้วย คือ สามารถที่จะป้องกันไฟดับได้อย่างเดียว แต่ในปัจจุบันยูพีเอส รุ่นใหม่ๆ จะมีวงจรที่ใช้ในการตรวจสอบความผิดพลาดของกระแสไฟโดยเมื่อเกิดปัญหาทางไฟฟ้า ขึ้น วงจรก็จะสลับจากการใช้ไฟบ้านเปลี่ยนเป็นไปจากแบตเตอรี่ที่ได้ทำการสำรองไว้ ซึ่งระหว่าง การสลับกระแสไฟนี้จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นและอาจทำให้ คอมพิวเตอร์เกิดปัญหาขึ้นได้ โดยจะไม่เหมือนกับแบบแรกที่สามารถ ปรับระดับไฟให้มีความสม่ำเสมอได้ เป็นยูพีเอสที่หาได้ยากในปัจจุบัน แล้ว

3. Line Interactive UPS สำหรับยูพีเอส

ตัวอย่างยูพีเอสที่เป็นแบบ Line Interactive UPS
         แบบนี้เป็นยูพีเอสที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปหรืออาจจะนำมาใช้กับเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กก็ได้ เป็นยูพีเอสที่มีราคาไม่สูงมาก หาได้ง่าย ในปัจจุบัน มีระดับการป้องกันที่ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว ความซับซ้อนของอุปกรณ์อยู่ในระดับปานกลาง การซ่อมบำรุงทำได้ไม่ยากนัก ถือได้ว่าเป็น ยูพีเอสที่มีคนใช้มากและในปัจจุบันก็มียูพีเอสแบบนี้ออกมาจำหน่ายอย่างมากมาย ในส่วนของการทำงานของ ยูพีเอสชนิดนี้จะมีการทำงานที่คล้ายๆ กับยูพีเอส แบบ Standby แต่จะมีความสามารถที่สูงกว่า จะมีการเพิ่มอุปกรณ์ที่เรียกว่า Stabilizer เข้าไป ซึ่งจะคอยตรวจสอบระดับแรงดันไฟฟ้าที่จะป้อนให้กับ อุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมและคอยทำหน้าที่ควบคุมระดับแรงดันไฟฟ้าให้มีความสม่ำเสมอตลอด นับว่าเป็นยูพีเอสที่เหมาะสมกับคุณมากเลยทีเดียว
ขนาดของยูพีเอสและการนำไปใช้งาน

         
ก่อนที่เราจะไปเลือกซื้อยูพีเอสมาใช้งานกัน เราต้องทราบก่อนว่าเราต้องนำยูพีเอสนี้ไปใช้งาน ในด้านใด เมื่อเราทราบแล้วว่าเราต้องการนำ ยูพีเอสนี้ไปใช้ งานร่วมกับอุปกรณ์ใด จากนั้นต้องหายูพีเอสที่มีขนาดที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ต่อเชื่อมของเรา โดยขนาดของยูพีเอสนี้จะมีหน่วยเป็นค่า VA หรือ KVA ซึ่งค่านี้ อาจทำให้ท่านสับสนอยู่บ้างเพราะไม่ทราบว่าความจุขนาดไหนเหมาะสมกับการใช้งาน แบบใด ดังนั้นผมจึงมีวิธีการในการคำนวณหาค่า VA ที่เหมาะสมกับการ ใช้งานของท่านมาฝากกันครับ


ตัวอย่างพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ บริเวณด้านหลังยูพีเอส
         ท่านลองประมาณค่าของเครื่องคอมพิวเตอร์ ของคุณนั้นว่ากินไฟสักกี่วัตต์ (Watts) แล้วนำค่าวัตต์นี้ไปหารด้วยค่า Power Factor (ค่านี้สามารถสังเกตได้จากบนเครื่องของยูพีเอส) แล้ว ท่านจะได้เป็นค่า VA ออกมา แต่ส่วนมากอุปกรณ์ ไฟฟ้าทั่วไปก็จะบอกขนาดวัตต์ให้คุณทราบเลย นอกจากจะใช้วิธีคำนวณเพื่อหาค่า VA ที่เหมาะสม จากข้างบนแล้ว ยังมีวิธีคำนวณอื่นๆ ด้วย คือ เมื่อท่านทราบว่ายูพีเอสมีขนาดกี่ VA แล้วและมีค่าของ Power Factor แล้ว เราก็นำค่า VA และค่า Power Factor นี้มาคูณกัน เพื่อจะได้ค่าเป็นจำนวนวัตต์ ที่ยูพีเอสตัวนั้นสามารถที่จะรองรับได้
ตัวอย่างการคำนวณ

1. สมมติว่า UPS เครื่องหนึ่งมีขนาดเท่ากับ 500 VA และมีค่า Power factor เท่ากับ 0.8 เราก็สามารถที่จะหาขนาดวัตต์ที่ UPS นี้สามารถรองรับได้ คือ 500x0.8=400 วัตต์
2. สมมติว่าขนาดของอุปกรณ์ต่อเชื่อมของคุณมีค่า 250 วัตต์ และมีค่า Power factor เท่ากับ 0.8 ก็สามารถที่จะคำนวณได้จาก 250/0.8 ซึ่งเท่ากับ 312.5 VA ดังนั้นคุณก็ควรเลือก UPS ที่มีขนาด 312.5 VA ขึ้นไป ซึ่งขนาดของยูพีเอสที่น้อยสุดในปัจจุบันมีค่า 500VA โดยเป็นค่าที่เหมาะสมมากกับการนำไปใช้งานเล็กๆน้อยๆ ยิ่งจำนวนวัตต์ของคุณมีค่ามากเท่าไหร่ ท่านก็ควรจะหายูพีเอสที่มีค่า VA เพิ่มมากขึ้นเท่านั้นครับ
ความสามารถในการสำรองไฟ
         ท่านคงจะทราบว่า ยูพีเอสแต่ละตัวก็จะมีความสามารถในการสำรองไฟฟ้าหรือค่า Backup Time ที่แตกต่างกัน ซึ่งค่านี้หมายความว่าระยะเวลาที่ ยูพีเอสของคุณสามารถที่ส่งกระแสไฟฟ้าไปให้อุปกรณ์ต่อพ่วงได้ โดยนับหลังจากเกิดกระแสไฟฟ้าดับหรือเหตุขัดข้องเกี่ยวกับไฟฟ้าต่างๆ ไปจนถึงเวลาที่ยูพีเอส ไม่สามารถดึงพลังงานของแบตเตอรี่เพื่อส่งให้อุปกรณ์ต่อพ่วงต่อไปได้ โดยระยะเวลาดังกล่าวนั้นจะมีค่า ที่แตกต่างกันออกไปตามความสามารถของยูพีเอส ที่ท่านใช้งานอยู่ ซึ่งบางเครื่องอาจสามารถสำรองไฟไว้ได้เป็นเวลานานในช่วงระหว่าง 10 - 30 นาที เป็นต้น ซึ่งในการบอกค่า Backup Time เป็นช่วงเวลา นั้นก็เพราะว่าไม่สามารถบอกค่าที่แน่นอนในการสำรองไฟได้ เพราะเราไม่ทราบว่าอุปกรณ์ที่นำไปต่อเข้ากับยูพีเอสนี้มีจำนวนมากเท่าไร ยิ่งจำนวน ของอุปกรณ์ ต่อเชื่อมมีจำนวนมากขึ้นเท่าใด ระยะ เวลาในการสำรองไฟนั้นก็มีค่าน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นในการเลือกซื้อยูพีเอสจึงควรที่จะหายูพีเอส ที่มีระยะเวลาในการสำรอง ไฟที่มีค่ามากๆ ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดีครับ
จำนวนปลั๊กไฟฟ้าหรือพอร์ตเชื่อมต่อ ของ UPS
         พอร์ตต่างๆ นี้ถือว่ามีความสำคัญค่อนข้าง มากในการเลือกซื้อยูพีเอสในปัจจุบันของเรา เพราะ ยิ่งจำนวนของพอร์ตเชื่อมต่อของยูพีเอสมีจำนวนมากขึ้น เท่าไร ก็ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ภายนอกมากขึ้นเท่านั้น ท่านจึงมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ เชื่อมต่อทั้งหลายจะมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย พอร์ตเชื่อมต่อของ ยูพีเอสที่ได้ทำการผลิต ออกมาให้ผู้บริโภคได้ใช้กันนั้น อย่างน้อยก็ต้องมีจำนวน 2 พอร์ตขึ้นไป คือเพื่อใช้ต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง (เคส 1 พอร์ต และจอมอนิเตอร์อีก 1 พอร์ต) แต่ในปัจจุบันได้มีการผลิตพอร์ตเหล่านี้มากขึ้นเพื่อรองรับกับอุปกรณ์ต่อ เชื่อมที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ เช่นเครื่องสแกนเนอร์ และเครื่อง พรินเตอร์ แต่อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ค่อยเกิดความเสียหายขึ้นมากเท่าไรเมื่อเกิดความผิด พลาดของกระแสไฟฟ้าขึ้น แต่ถ้ามีไว้ก็ไม่เสียหายอะไรใช่ไหมครับ แต่ยูพีเอส ตามท้องตลาดของบ้านเรานั้นได้มีการเพิ่มพอร์ตสำหรับเพื่อป้องกันอันตรายที่ จะเกิดกับพรินเตอร์เลเซอร์กันมากขึ้น เพราะว่าราคาของ พรินเตอร์เลเซอร์นั้น มีราคาที่สูง แต่ข้อเสียของพอร์ตนี้ก็คือไม่สามารถที่จะสำรองไฟไว้ได้

ภาพแสดงตัวอย่างการทำงานของ
โปรแกรมควบคุมต่างๆของยูพีเอส
         นอกจากพอร์ตที่ ได้บอกมานี้ ยังมีพอร์ต อีกชนิดหนึ่งที่คนให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเหมือนกันคือ พอร์ตสำหรับเสียบสายโทรศัพท์หรือ สำหรับโมเด็ม เพราะพอร์ตเหล่านี้สามารถที่จะป้องกันความเสียหายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่ ผ่านเข้ามาทางสายโทรศัพท์ได้ ทำให้ลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ดังกล่าวได้อีกขั้นหนึ่ง
ซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของ UPS

         
สิ่งที่ UPS รุ่นใหม่ๆ นั้นจำเป็นที่จะต้องมีคือ ซอฟต์แวร์พิเศษที่ใช้สำหรับควบคุมการทำงาน ของเครื่องยูพีเอสนี้ด้วย ซึ่งซอฟแวร์เหล่านี้มีความสำคัญ ค่อนข้างมากแต่ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจมากนัก แต่จะมีความสำคัญในตอนที่ไม่มีใครคอยดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ถ้าเกิดมีไฟดับขึ้นจริงๆ และเกิดขึ้น เป็นระยะเวลานานๆ จนไม่มีใครคอย Shutdown เครื่องคอมพิวเตอร์ให้ ซอฟต์แวร์นี้จะเป็นเสมือนผู้ช่วยที่จะคอย Shutdown คอมพิวเตอร์ให้คุณโดยอัตโนมัติ    

         นอกจากความสามารถที่บอกแล้วเจ้าซอฟต์แวร์นี้สามารถที่จะบันทึกข้อมูลที่สำคัญของคุณไว้ได้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ทางไฟฟ้าขึ้น และสามารถที่จะรายงาน ผลการทำงาน ของยูพีเอสหรือ สามารถ ที่จะตั้งเวลา Shutdown ในเวลาที่คุณกำหนดได้
การรับประกันของ UPS
         ที่หลายๆ คนมองข้ามความสำคัญอีกอย่าง นั่นก็คือเรื่องของการรับประกันของยูพีเอสนั่นเอง ซึ่งสิ่งนี้สามารถที่จะประกันได้ว่ายูพีเอสจะมีความปลอดภัย และสามารถที่จะใช้งานได้อย่างมั่นใจ เพราะถ้ายูพีเอสเกิดมีปัญหา ขึ้นและยังอยู่ในประกันอยู่ คุณก็สามารถที่จะส่งซ่อมหรือเปลี่ยน ยูพีเอสตัวใหม่มาใช้งานได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น ระยะเวลาการประกันนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า ยูพีเอสของคุณนั้นมีการรับประกันกี่ปี แต่อย่างน้อยควรมีการรับประกัน 1 ปีหรือมากว่า นั้นก็ยิ่งดีครับ แต่ยูพีเอสบางยี่ห้อนั้นอาจมีการรับประกัน ที่แตกต่างกันคือ อาจจะมีการรับประกันแบตเตอรี่ หรือบางร้านอาจไม่มีก็ได้ ดังนั้นจึงควรสอบถามราย ละเอียดเหล่านี้ให้มีความเข้าใจเสียก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลังได้ครับ
คุณสมบัติต่างๆ

  • สิ่งที่จะทำให้ผู้บริโภคเห็นว่ายูพีเอสนี้มีคุณภาพนั้นก็คือ มาตรฐานของยูพีเอส ที่ยูพีเอส นี้ได้รับ เช่น มาตรฐาน ISO 9001 หรือมาตรฐาน มอก. เป็นต้น
  • แบตเตอรี่ จริงๆ แล้วเมื่อท่านซื้อยูพีเอส มาก็จะมีแบตเตอรี่อยู่ภายในยูพีเอสนั้นแล้ว แต่เมื่อแบตเตอรี่เกิดเสื่อมขึ้นมา จึงจำเป็นต้องหายูพีเอสใหม่มาทดแทน ดังนั้นควรจะเลือกแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ เพราะจะทำให้มีคุณภาพในการสำรองไฟเพิ่มมากขึ้น และมีอายุการใช้งาน เพิ่มมากขึ้น
  • ฟังก์ชันพิเศษของยูพีเอส ยูพีเอสที่ดีนั้นควรจะต้องมีไฟแสดงสถานะการทำงานของเครื่องเพื่อที่จะทำให้ ทราบว่าตอนนี้เครื่องอยู่ในสถานะใด อีกทั้งยังทำให้สามารถสังเกตเห็นสถานะ การทำงานได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยูพีเอสที่ดีควรต้องมีเสียงเตือนเมื่ออยู่ในสภาวะอันตรายของยูพี เอส เช่นมีเสียงเตือนว่าไฟในแบตเตอรี่กำลังจะหมด เพื่อทำให้ผู้ใช้สามารถได้ยินได้อย่างชัดเจนและสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน
  • รูปทรง ขนาดของยูพีเอสก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ควรต้องเลือกยูพีเอสที่มีขนาดและรูปทรงที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ และต้องดูว่าสถานที่จะท่านจะนำยูพีเอสนี้ไปใช้มีขนาดของพื้นที่มากน้อยเท่าไรด้วย เพื่อที่จะได้มียูพีเอสที่มีขนาดที่เหมาะสมไว้ใช้งานกัน
สรุป
         สิ่งที่ได้บอกมาในข้างต้นนั้น เป็นสิ่งที่ยูพีเอส ที่ดีควรจะมี เพราะเป็นสิ่งที่จะเพิ่มความปลอดภัย ให้คอมพิวเตอร์ตัวโปรดของคุณให้มีอายุการใช้งานที่ยาว นานยิ่งขึ้น แต่ตามหลักความจริงแล้ว ยูพีเอส ทุกเครื่องนั้นคงจะไม่มีเครื่องไหนที่มันสมบูรณ์แบบไปหมดหรอกครับ อาจจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ขาดไปบ้าง อันนี้ก็อยู่ ที่คุณแล้วครับ ว่าจะตัดสินใจ เลือกเครื่องยูพีเอสแบบไหนไว้ใช้งาน อันจะทำให้เกิดความคุ้มค่าและความปลอดภัยมากที่สุดครับ...

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น