การไกล่เกลี่ยข้อ พิพาท
การไกล่เกลี่ย คือ กระบวนการระงับข้อพิพาทที่มีบุคคลที่สามเข้ามา ช่วยเหลือให้คู่ความ เจรจาต่อรองกันได้สำเร็จ
ประเภทคดีที่จะทำการไกล่เกลี่ยได้
1. คดีแพ่ง (คดีแพ่งทุกคดี)
-
คดีแพ่ง คือ คดีที่เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของบุคคลตามกฎหมายแพ่ง มีทั้งคดีที่มีข้อพิพาท และไม่มีข้อพิพาท
-
คดีแพ่งที่มีข้อพิพาทส่วนใหญ่จะเป็นคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง
-
คดีแพ่งที่ไม่มีข้อพิพาท เช่น ขอตั้งผู้จัดการมรดก ขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ เป็นต้น
ตัวอย่างคดีแพ่งที่มีข้อพิพาท เช่น คดีบังคับตามสัญญา ยืม ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้จำนอง จำนำ หนี้ ฟ้องหย่า เรียกค่าเลี้ยงดู คดีละเมิด เป็นต้น
2. คดีอาญา (คดีอาญาที่กฎหมายบัญญัติให้ยอมความกันได้)
คดีอาญา คือ การกระทำความผิดที่กฎหมายกำหนดบทลงโทษไว้ โทษในทางอาญามี 5 สถาน คือประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ ริบทรัพย์สิน
คดีอาญาอาจแยกเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ซึ่งยอมความกันได้และคดีอาญาความผิดต่อแผ่นดินซึ่งยอมความกันไม่ได้
คดีอาญาความผิดต่อส่วนตัวที่สามารถยอมความกันได้ ได้แก่ความผิดดังต่อไปนี้
-
ความผิดต่อเสรีภาพ ( ม.309 วรรคแรก, ม.310 วรรคแรก, ม.311 วรรคแรก )
-
เปิดเผยความลับ ( ม.322 – 324)
-
หมิ่น ประมาท ( ม.326-329)
-
ฉ้อ โกง ( ยกเว้น ม.343)
-
โกง เจ้าหนี้ ( ม.349-350)
-
ยักยอก ( ม.352-355)
-
ทำให้เสียทรัพย์ ( ม.358-359)
-
บุก รุก ( ม.362-364) ยกเว้น ม.365
-
ข่มขืนกระทำชำเรา ( ม.276 วรรคแรก)
-
กระทำ อนาจาร ( ม.278-281)
-
พาหญิงอื่นไปเพื่อการอนาจาร ( ม.284)
-
เอาชื่อหรือยี่ห้อในทางการค้าของผู้อื่นมาใช้
-
ความผิดที่คู่กรณีผูกพันกันด้วยความเป็นญาติ คือ ผู้บุพการีกระทำต่อผู้สืบ สันดาน , ผู้สืบสันดานกระทำต่อบุพการี , พี่หรือน้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกระทำต่อกัน
ทั้ง 3 กรณี ต้องเป็นความผิดดังต่อไปนี้ คือ ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ฉ้อโกง โกงเจ้าหนี้ ยักยอก รับของโจร และทำให้เสียทรัพย์
214 ความผิดตามกฎหมายอื่น คือ
-
พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม.3
-
ความ ผิดตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ ( ม.24-26)
ข้อเปรียบเทียบระหว่างการพิจารณาพิพากษา
คดีในศาลกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
การพิจารณาพิพากษาคดีในศาล | การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท |
|
|
เหตุจูงใจในการใช้ วิธีการไกล่เกลี่ย
สะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม
-
คู่ความหันหน้าเข้าหากันอย่างเป็นมิตร
-
คู่ความสามารถปะกอบธุรกิจร่วมกันได้อีก
-
คู่ความได้รับความพึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย
-
ประหยัดค่าใช้จ่าย
-
คู่ความไม่ต้องถูกบังคับคดี
-
ช่วยลดปริมาณคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาล
-
ลดปริมาณคดีที่จะขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์และฎีกา
-
ช่วยรัฐประหยัดงบประมาณ
-
ช่วยก่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม
-
คู่ความถือได้ว่าเป็นผู้ชนะด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
บทความจาก ศาลจังหวัดสงขลา
http://www.coj.go.th/sklc/info.php?info=sub_menu&cid=40
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น