การปฏิบัติตัวเมื่อมาเป็นพยาน
พยาน ศาลหรือพยานหมาย คือ ผู้ที่โจทก์ หรือ จำเลย ขอให้ศาลมีหมายเรียกให้ไปศาล เพื่อเป็นพยานโจทก์ หรือพยานจำเลย และเบิกความในเรื่องที่ได้รู้ได้เห็น และเป็นข้อเท็จจริงในคดี
การส่งหมายเรียกพยาน
- คู่ความฝ่ายที่อ้างท่านเป็นพยานนำไปส่ง
- เจ้าพนักงานศาลนำไปส่ง
เมื่อท่านได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานศาลควรทำอย่างไร
- ควรตรวจรายละเอียดในหมายเรียกเพื่อให้ทราบว่า ศาลไหนเรียกให้ท่านไปเป็นพยาน และท่านต้องไปเป็นพยานโจทก์หรือพยานจำเลย ในวัน เวลา ใด
- หากมีข้อสงสัย กรุณาโทรสอบถามตามหมายเลขโทรศัพท์ของศาลที่ปรากฏอยู่ในหมายเรียก
- ควรเก็บหมายเรียกไว้ และนำไปศาล ในวันที่ศาลนัดสืบ พยาน
การเตรียมตัวก่อนไปเป็นพยานศาล
- ควรทบทวนเหตุการณ์ ที่ท่านได้รู้ ได้เห็น เกี่ยวกับคดี เพื่อจัดลำดับเรื่องราวต่าง ๆ จะได้เกิดความมั่นใจเมื่อไปเบิกความต่อศาล และหากเป็นคดีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเอกสาร ท่านควรติดต่อไปยังฝ่ายโจทก์ หรือจำเลย ที่อ้างท่านเป็นพยาน เพื่อขอตรวจสอบเอกสาร
การปฏิบัติตัวเมื่อไปศาลในวันนัดสืบพยาน
- นำหมายเรียกไปด้วย เพราะในหมายเรียกจะปรากฏหมายเลขคดี ชื่อโจทก์ ชื่อจำเลย ซึ่งสามารถใช้เป็นข้อมูลในการติดต่อราชการศาลได้เป็นอย่างดี
- กรุณาแต่งกายสุภาพ ไม่ควรสวมรองเท้าแตะ
-ไปศาลก่อนเวลานัดสืบพยานจะทำให้ท่านมีเวลาพอที่จะติดต่อกับเจ้า หน้าที่งานประชาสัมพันธ์เพื่อสอบถามว่าคดีตามหมายเรียกของท่านจะมีการสืบ พยานที่ห้องพิจารณาใดหรืออาจตรวจหาห้องพิจารณาจากป้ายประกาศนัดความของศาล เองก็ได้
- เมื่อทราบห้องพิจารณาแล้วกรุณาแจ้งกับเจ้าหน้าที่งานหน้าบัลลังก์ประจำห้อง พิจารณานั้น ๆ ว่า ท่านมาถึงศาลแล้ว และนั่งรอในที่พักพยานที่ศาลจัดไว้
- หากต้องรอเพื่อเบิกความเป็นเวลานานเกินไป กรุณาสอบถามเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ประจำห้องพิจารณานั้นๆ
การปฏิบัติตัว เมื่อเข้าห้องพิจารณาในฐานะพยานศาล
- เจ้าหน้าที่งานหน้าบัลลังก์ประจำห้องพิจารณาจะเรียกเข้าห้องพิจารณาเมื่อ ฝ่ายโจทก์ ฝ่ายจำเลยและพยานมาพร้อมกันแล้ว และเมื่อผู้พิพากษาปรากฏตัวบนบัลลังก์ขอให้ทุกคนในห้องพิจารณายืนขึ้นเพื่อ เป็นการแสดงความเคารพต่อศาล
- ก่อนที่จะเบิกความ เจ้าหน้าที่ฯจะนำท่านเข้าประจำที่ที่เรียกว่า” คอกพยาน” จากนั้น ท่านจะต้องสาบานตนตามลัทธิศาลนาของท่านว่า จะให้การด้วยความสัตย์จริง โดยเจ้าหน้าที่ฯจะเป็นผู้นำสาบานและท่านต้องกล่าวตาม
- เมื่อสาบานตนเรียบร้อยแล้ว ขอให้ท่านนั่งลง และตอบคำถามที่ ผู้พิพากษา ทนายโจทก์ หรือทนายจำเลย ถามท่านด้วยความสัตย์จริงและใช้วาจาสุภาพ ควรใช้สรรพนามแทนตัวท่านเองว่า กระผม หรือผม หรือดิฉัน หรือฉัน หากกล่าวถึงผู้พิพากษา ให้ใช้สรรพนามแทนผู้พิพากษาว่า “ศาล” หรือ “ท่าน”
- ขอให้ท่านเบิกความเฉพาะเรื่องที่ท่าน ได้รู้ ได้เห็น ด้วยตัวท่านเอง อย่าเบิกความในเรื่องที่ได้รับการบอกเล่าจากผู้อื่น เว้นแต่ศาลจะสั่ง
- ขอให้เบิกความด้วยวาจา อย่าใช้วิธีการอ่านข้อความตามที่เขียนมา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษา หากไม่แน่ใจหรือจำไม่ได้ ให้ตอบไปตรง ๆ ว่าไม่แน่ใจ หรือจำไม่ได้
- อย่าเบิกความโดยการคาดคะเนหรือวิพากษ์วิจารณ์ เพราะท่านอาจมีความผิดในข้อหาเบิกความเท็จได้
- หากฟังคำถามไม่ชัดเจนท่านสามารถขอให้มีการทวนคำถามซ้ำอีกครั้งได้
- เมื่อเบิกความเสร็จ ศาลจะอ่านคำเบิกความของท่าน หากเห็นว่าคำเบิกความไม่ถูกต้องตรงกับที่ท่านเบิกความไว้หรือไม่ครบถ้วน ขอให้แจ้งศาลทราบทันที เพื่อจะได้แก้ไขให้ถูกต้องก่อนที่ท่านจะลงชื่อในคำเบิกความ
จะทำอย่างไรเมื่อมีการเลื่อนนัดสืบพยาน
- หากศาลไม่สามารถสืบพยานในวันนัดได้ เจ้าหน้าที่งานหน้าบัลลังก์ประจำห้องพิจารณาจะให้ท่านลงชื่อรับทราบ วัน เวลานัดครั้งต่อไป โดยจะไม่มีการส่งหมายเรียกไปอีก ขอให้ท่านจำวัน เวลานัดดังกล่าว และกรุณาไปตามนัดด้วย
สิทธิในการรับค่ายานพาหนะและค่าป่วยการพยาน
- หากเป็นพยานในคดีแพ่ง ท่านจะได้รับค่าพาหนะและค่าป่วยการตามที่ศาลกำหนด โดยฝ่ายโจทก์หรือจำเลยที่อ้างท่านเป็นพยาน ต้องเป็นผู้จ่าย
- หากเป็นพยานโจทก์ ในคดีอาญาที่ราษฏรเป็นโจทก์ท่านจะได้รับค่าพาหนะเท่าที่จ่ายไปจริงตามสมควร โดยโจทก์ ต้องเป็นผู้จ่าย
จะทำอย่างไรหากไม่สามารถมาเป็นพยานศาลได้
- หากเจ็บป่วย หรือมีเหตุขัดข้องจำเป็น ไม่สามารถไปเป็นพยานศาล ในวันนัดสืบพยานได้ขอให้ท่านทำหนังสือแจ้ง อธิบดี ผู้พิพากษา หรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาล เพื่อชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็น โดยที่ท่านอาจนำหนังสือไปยื่นที่ศาลด้วยตัวเอง หรือมอบฉันทะให้ผู้อื่นนำไปยื่นแทนท่านก็ได้ แต่ต้องยื่นก่อนวันที่ศาลนัดสืบพยาน
- ในระหว่างเดินทางไปศาล หากมีอุบัติเหตุหรือข้อขัดข้องเกิดขึ้น ขอให้ท่านโทรศัพท์ ที่ปรากฏอยู่ในหมายเรียก
จะเกิดอะไรขึ้น หากไม่ไปศาลตามหมายเรียก
- การไม่ยอมไปศาลตามหมายเรียกโดยไม่มีเหตุผลอันควร ศาลอาจออกหมายจับและกักขังท่านไว้ จนกว่าจะเบิกความเสร็จ และท่านอาจถูกฟ้องให้ต้องรับโทษทางอาญาจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น